xs
xsm
sm
md
lg

สภาล่ม!! ฝ่ายค้านเจอเกม รบ.สกัด หลังเตรียมยัด กม.ปรองดองเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ บรรยากาศการประชุมสภา
ที่ประชุมสภา ผ่านวาระ 3 ปลดล็อกระยะเวลาดำรงตำแหน่งผู้บริหารอ ปท.ให้อยู่ได้เกิน 2 ปี ก่อนถกวาระลดหย่อนภาษีอุปการะบิดา มารดา หลัง ส.ว.แก้ไขให้เพิ่มวงเงินลดหย่อนได้ 6 หมื่นบาท จาก 3 หมื่น ครอบคลุมพี่น้องร่วม ปู่ ย่า ตา ยาย ดันเจอฝ่ายค้านติงอาจทำรัฐสูญเสียรายได้จากภาษี พร้อมซัดอย่าหวังแต่หาเสียง ด้าน ส.ส.รัฐบาล มีทั้งท้วงติง และเห็นด้วย ก่อนลงมติเห็นชอบ แต่กลับต้องเลื่อนลงมติ ปิดประชุม หลังไม่ครบองค์ ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทย ปูดเป็นเกมรัฐบาลหวังสกัดฝ่านค้านไม่ให้ยัดกฎหมายปรองดอง ทั้งเรื่องขอหารือกรณีเสื้อแดงชุมนุม

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นการประชุม โดย นายชัย แจ้งว่า ขณะนี้มีสมาชิกมาเซ็นชื่อ 234 คน ถือว่า ครบองค์ประชุม ทั้งนี้ ขอให้งดการหารือในวันนี้ เพราะมีร่างกฎหมายค้างอยู่ในระเบียบวาระหลายสิบฉบับ จึงต้องเร่งพิจารณาเพื่อให้สภามีผลงาน โดยเฉพาะร่างกฎหมายเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

จากนั้นเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เทศบาล ร่าง พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด และร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณารายมาตรา แต่ให้อภิปรายไปในคราวเดียว เพราะร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ มีสาระสำคัญเหมือนกัน คือ การปลดล็อกวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ จากเดิมที่กำหนดว่า ให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 สมัย โดยทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างอภิปรายสนับสนุนร่างดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมอภิปรายนาน 2 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ ในวาระ 3 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป

นอกจากนี้ ในการประชุมสภายังพิจารณาวาระ กรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ..... โดยประเด็นสำคัญที่วุฒิสภาแก้ไข คือ การหักลดหย่อนภาษีการอุปการะบิดามารดา สามี ภรรยา บุตร ที่พิการ ให้รวมถึงพี่น้องร่วมบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา และให้รวมถึงกรณีการทุพลภาพด้วย และให้หักได้ 60,000 บาท ขณะที่ร่างเดิมกำหนดที่ 30,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาวาระนี้ ส.ส.ฝ่ายค้าน หลายคนอภิปรายคัดค้าน อาทิ นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ไม่ได้ตัดโอกาสผู้พิการ แต่วุฒิสภาได้แก้ไขหลักการสำคัญ ขยายวงออกจากกรอบมาก รวมถึงขยายจำนวนเงิน ทั้งนี้ ขณะนี้มีผู้พิการและได้รับการอุปการะ 3 แสนคน หากดูตัวเลขรวมจะพบว่า มีผู้พิการที่ขึ้นทะเบียน 7 แสนคน ถ้านับรวมที่ไม่ขึ้นทะเบียนจะมีประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งร่างเดิมที่รัฐบาลเสนอมากำหนดวงเงินการลดหย่อน 30,000 บาท รัฐบาลจะเสียรายได้จากการเก็บภาษี 2- 3 พันล้านบาทต่อปี แต่เมื่อวุฒิสภาแก้เป็นแบบนี้ จะกลายเป็น 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีปัญหาตามมาเพราะผูกพันกับงบประมาณ อย่าเอาแต่หาเสียง และขอให้เปลี่ยนคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ด้วย เพราะการพิจารณากฎหมายมีปัญหาผิดขั้นตอนมาหลายครั้งแล้ว

ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ควรตั้งกรรมาธิการวิสามัญร่วม 2 สภา เพื่อศึกษา เพราะ ส.ว.ที่แก้ไข เป็น ส.ว.สรรหา ขยันทำงานจึงแก้หมด ทั้งที่บางคนมีประสบการณ์น้อยกว่า ส.ส.

ส่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล มีทั้งสนับสนุนและคัดค้าน อาทิ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายสนับสนุนที่วุฒิสภาแก้ เพราะเทียบต่อเดือน คือ เดือนละ 5,000 บาท นอกจากนี้ ขั้นแปรญัตติ ตนยังได้สนับสนุนให้ลดหย่อนได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ ขอให้รัฐบาลเปิดใจให้กว้างและให้โอกาสผู้พิการ เพราะถึงอย่างไรผู้พิการก็ไม่ใช้สิทธิ์ถึง 1.9 ล้านคนอยู่แล้ว

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า สนับสนุนในหลักการ แต่ยังติดใจเรื่องเกณฑ์ผู้ทุพพลภาพ ที่ไม่มีเกณฑ์ชัดเจน ต่างจากผู้พิการที่มีบัตรชัดเจน ส่วน นายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเห็นด้วยในหลักการ แต่ที่วุฒิสภาแก้มามีบางส่วนยังไม่ชัดเจน จึงน่าจะตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา เพื่อให้มีความชัดเจนขึ้น

หลังจากที่ประชุมอภิปรายนาน 30 นาที นายสามารถ จึงสั่งให้ปิดการอภิปราย เพื่อลงมติ อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบองค์ประชุมมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียง 137 คน นายสามารถ จึงสั่งเลื่อนการลงมติ และปิดประชุมเวลา 17.10 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่องค์ประชุมไม่ครบ เป็นเพราะความตั้งใจของฝ่ายรัฐบาล เนื่องจาก ระหว่างการประชุม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย จะขอหารือเรื่องการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่ง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม รับว่า จะให้หารือภายหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร จนเมื่อมีการเตรียมลงมติร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จึงไม่แสดงตน ทำให้สภาล่ม ทั้งที่การพิจารณาร่างกฎหมายก่อนหน้านี้มีสมาชิกอยู่ในห้องกว่า 260 คน

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่สภาล่มนั้น ไม่ได้เกิดจากการที่ ส.ส.มาร่วมประชุมกันน้อย แต่เป็นเกมของรัฐบาลที่สั่งไม่ให้ ส.ส.ซีกรัฐบาลเสียบบัตรแสดงตัว ดังนั้น จึงทำให้จำนวน ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุมจนสภาต้องล่มไป เนื่องจากรัฐบาลทราบดีว่า หากยังปล่อยให้มีการประชุมสภาต่อไป พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาสภาทันที ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยทำสำเร็จก็เท่ากับว่า ยิ่งเป็นการโหมไฟให้กับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้น รัฐบาลจึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการทำให้การประชุมสภาล่มไป
กำลังโหลดความคิดเห็น