xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.โต้ พท.มั่วข่าวสหรัฐฯ ถอนวีซ่า รมต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษก ปชป.เผย “ชวน” ยันทูตสหรัฐฯ-รบ.ไทยยึดหลักนิติธรรม เตรียมสางทุกคดีอย่างเป็นธรรม ยืนยันทูตสหรัฐฯ ปฏิเสธข่าวเพิกถอนวีซ่า รมต.ในรัฐบาลมาร์ค พร้อมตอกหน้าฝ่านค้านลั่นสถานทูตสหรัฐฯ ไม่มีใครให้ข่าวในลักษณะนี้

วันนี้ (10 ก.พ.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เพื่อต้องการเข้ามาคารวะและพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมือง โดยครั้งสุดท้ายที่ได้พบกันเมื่อครั้งสมัยพรรคยังดำรงตำแหน่งฝ่ายค้าน วันนี้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเรื่องการให้ความสำคัญในกระบวนการประชาธิปไตยในไทย โดยนายชวน ระบุว่า ภารกิจของรัฐบาลนี้ที่สำคัญ คือ การแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นการยึดมั่นในหลักนิติธรรมในการที่จะประคองประชาธิปไตยให้เดินหน้า เพื่อที่ความเชื่อมั่นจะได้คืนกลับประเทศไทย และวิกฤตที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาจะถือเป็นบทเรียนที่ไทยจะต้องแสดงให้ประชามคมให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยึดหลักนิติธรรม ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาก็มีความเห็นด้วย และพูดถึงกรณีสำคัญๆที่ยืนยันในหลักการข้อนี้ เช่น การเร่งรัดคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความชื่อดัง ซึ่งนายชวนได้ตอบกลับไปว่าจุดนี้เป็นจุดทดสอบที่สำคัญเช่นเดียวกับกรณีชิปปิ้งหมู และกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ โดยในเรื่องนี้นายชวนได้หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงความสำคัญในการที่รัฐบาลจะแสดงให้คนไทยและประชาคมโลกเห็นได้ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดโดยไม่ใช้วิธีการฆ่าตัดตอน

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า นอกกจากนี้ยังมีการพูดถึงการฟันฝ่าวิกฤตการเมืองไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่บั่นทอนสถาบันหลักภายใต้ระบอบประชาชิปไตยของประเทศ ซึ่งต่างมั่นใจตรงกันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีภาพของการเป็นผู้นำที่ใสสะอาด ยึดมั่นในระบบนิติธรรมและการบริหารจัดการที่ดีและความโปร่งใส ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตยังได้สอบถามถึงการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ซึ่งนายชวนได้ตอบว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องได้รับความร่วมจากประชาชนในพื้นที่ โดยต้องให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินการกับคนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนเรื่องสุดท้ายที่หารือกันคือ สถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นข่าวอยู่หลายเรื่อง โดยนายชวนได้ให้ความเคารพในเรื่องของอธิปไตยในการพิจารณา เรื่องเกี่ยวกับการเมืองไทยของสหรัฐฯ รวมถึงเรื่องการพิจารณาเรื่องวีซ่า โดยเอกอัครราชทูตได้ยืนยันว่าความสัมพันธ์กับประเทศไทย ในฐานะมิตรประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และยังมีความใกล้ชิดกันดีอยู่ ตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ร่วมกันแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 40 ส่วนในกรณีที่มีการถามถึงวีซ่ารัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนั้น เอกอัครราชทูตได้พูดตรงๆ ว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญในเรื่องความร่วมมือแก้ไขบัญหา และการแลกเปลี่ยนทางการค้า

“หากรัฐมนตรีเดินทางอย่างเป็นทางการ เรื่องวีซ่าไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรค ในการที่จะร่วมกันทำงาน รวมถึงการเดินทางไปยังสหรัฐของรัฐมนตรีอีกหลายคนด้วย” นพ.บุรณัชย์กล่าว

โฆษกพรรคยังกล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกแปลกใจกับข่าววีซ่าที่ออกมาในขณะนี้ แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลและพรรคไม่มีการล๊อบบี้สถานทูตต่างๆ ถือเป็นการจงใจใส่ความทั้งที่ไม่มีความจริง เพราะเราให้ความเคารพในการพิจารณาของแต่ละประเทศในกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งข่าวเกี่ยวกับรัฐมนตรีทางเอกอัครราชทูตก็แสดงความแปลกใจ และยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทางคณะทำงานของสถานทูตสหรัฐจะให้ข่าวในลักษณะดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่น่าที่จะมีใครให้ข่าว พร้อมกับแปลกใจว่า แหล่งข่าวที่พรรคฝ่ายค้านออกมาพูด ไม่ระบุชัดว่ามีที่มาหรือไม่ หรือเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า ทางเอกอัครราชทูตได้มีการปฏิเสธหรือไม่ว่าไม่มีรัฐมนตรีถูกระงับวีซ่า โฆษกพรรค กล่าวว่า ไม่ แต่ได้พูดชัดว่าในกรณีที่เดินทางอย่างเป็นทางการ คนที่เป็นรัฐมนตรีจะได้รับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเพื่อเจรจาความเมือง ถือเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีของมิตรประเทศ

ส่วนกรณีวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายชวนได้ย้ำว่าไม่ต้องกังวล เพราะเข้าใจดีในเรื่องการเคารพการตัดสินใจของทุกประเทศ จึงไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา แต่เอกอัครราชทูตก็ทราบดีว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมาก จึงได้บอกว่าถ้ามีใครถามท่านก็จะตอบว่า จุดยืนของสหรัฐฯ ไม่มีการสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนให้ใครคนใดคนหนึ่ง รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณให้เดินทางหรือไม่เดินทางไปในประเทศสหรัฐฯ โดยท่านใช้คำว่า encourange หรือ discourange ซึ่งเราก็ยอมรับในจุดยืนในสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น