พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประเมินสถานการณ์อภิปรายร่วม 2 สภา ชี้เจตนาฝ่ายค้านพยายามชักจูง บิดเบือนข้อมูล กล่าวหารัฐบาลมือเปื้อนเลือด ทำให้ประชาชนเสียชีวิต ทั้งปกปิดหลักฐาน หวังให้สังคมเข้าใจผิด ยัน 9 ข้อหารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ ซัดกล่าวหาทหารทำคนตายขอให้ส่งข้อมูลที่ชัดเจน อย่าหมกเม็ด ขณะที่ “ศุภชัย” ปูดศพสอง รปภ.ที่พบกลางแม่น้ำ ระบุญาติยันไม่เกี่ยวการเมือง เตรียมฌาปนกิจแล้ว กลับมีผู้มีฐานะเมืองแพร่ช่วยเหลือค่าซอง ยันเหตุเสียชีวิตไม่เกี่ยวสลายม็อบ
วันนี้ (23 เม.ย.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และ นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวผลการติดตามและประเมินสถานการณ์การอภิปรายทั่วไปของ 2 สภา ครั้งที่ 6
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลประเมินการอภิปราย ว่า พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนแนวทางการอภิปราย โดยวันที่ 22 เม.ย.นั้น พรรคเพื่อไทย พยายามที่จะขอตั้งกรรมการร่วม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่การอภิปรายในวันที่ 23 เม.ย.พรรคเพื่อไทย อภิปราย และเสนอข้อมูลแบบจงใจสร้างเรื่องที่ปราศจากหลักฐานยืนยัน โดยกล่าวหานายกฯ รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ ว่า มือเปื้อนเลือด ที่ทำให้ประชาชนตาย สูญหาย เพราะรัฐบาลปกปิดหลักฐาน ฉะนั้น พรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องเสนอข้อเท็จจริงว่าพรรคเพื่อไทยเสนอข้อเท็จที่ไม่มีความจริง โกหก และทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด 9 เรื่อง คือ 1.กล่าวหาว่าสุภาพสตรีคนหนึ่งโดนทำร้าย โดยโดนลากศีรษะจากพลเรือน แต่พรรคเพื่อไทย บอกว่า ทหารใช้กำลังด้วยความรุนแรงนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯชี้แจงเรื่องนี้แล้ว
2.กล่าวหาว่า มีการทำลายศพคนเสื้อแดงที่วัดสุ่นประชาสรรค์ ซึ่งเจ้าอาวาสและญาติผู้ตาย ชี้แจงแล้วว่า ไม่จริง 3.กล่าวหาว่ารัฐบาลทำลายศพ และนำขึ้นรถบรรทุกไป จ.ลพบุรี โดยมีผู้ชายคนหนึ่งหลบหนีออกมาได้จากท้ายรถนั้น มีการยืนยันจากผู้ชายคนนั้นแล้วว่าไม่ได้พูดแบบนั้น 4.มีการสร้างเหตุวินาศกรรมกลางเมือง โดยใช้รถแก๊ส ถังแก๊สราดน้ำมัน รถเมล์เอ็นจีวีนั้น แกนนำคนเสื้อแดงอ้างว่า ไม่รู้เรื่อง 5.กล่าวหาว่าทหารใช้กระสุนจริงยิงประชาชนในแนวราบ แต่มีการยืนยันว่า เป็นการยิงเพื่อป้องกันเหตุที่คนเสื้อแดงขับรถเมล์พุ่งชนเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ เจ้าหน้าที่ระบุว่าใช้กระสุนจริงยิงยางรถเท่านั้น
6.การทำร้าย นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ โดยมีการอ้างว่า เป็นการจัดฉากนั้น พยานหลายคน ยืนยันว่า มีความพยายามทำร้ายร่างกายและชีวิตนายนิพนธ์ จริง 7.การเสนอภาพที่อ้างว่าทหารลากคนจากรถเมล์และยิงจนเสียชีวิตนั้น ตรวจสอบแล้วว่าเป็นการตัดต่อ และไม่แสดงภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งผู้ที่อ้างว่า เสียชีวิตแล้วยืนยันแล้วว่าไม่ได้เสียชีวิต 8.การกล่าวหาว่าพระเสียชีวิตนั้น ไม่มีหลักฐานยืนยัน และขอให้วัดช่วยแสดงใบสุทธิด้วยว่ามีชีวิตหรือเสียชีวิตหรือไม่ 9.การกล่าวหาว่าศพผู้ชายสองรายที่โดนมัดทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยพรรคเพื่อไทย อ้างว่า เป็นการ์ดคนเสื้อแดงนั้น การชันสูตรพิสูจน์ศพ พบว่า ทั้งสองศพเสียชีวิต 24-48 ชั่วโมงแล้วธรรมดา ฉะนั้น พรรคเพื่อไทย กล่าวเรื่องเท็จในสภา พยายามสร้างความรู้สึกให้ประชาชนเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล สร้างความขัดเเย้ง แตกแยก ความไม่สงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวว่า เชือกที่พบกับศพนั้น เป็นเชือกไนลอนธรรมดา ไม่ใช่เชือกฟาสต์โรพของทหาร พรรคเพื่อไทยพยายามโยง ว่า ทั้งสองคนโดนมัดมือตาย และเป็นการ์ดคนเสื้อแดง โดยพรรคเพื่อไทยแสดงภาพสั้นๆ ในช่วงอภิปราย หากมีความบริสุทธิ์ใจต้องกล้าแสดงภาพทั้งหมดและส่งให้ประธานสภาด้วย
นายศุภชัย กล่าวเสริมว่า ญาติของ นายชัยพร กันทัง และ นายณัฐพงษ์ ปองดี รปภ.บ.กรุงไทยธุรกิจบริการ จก.ที่เสียชีวิตนั้น ญาติของ นายชัยพร ระบุว่า ทั้งไม่สนใจการเมือง ทั้งสีแดงและสีเหลือง นายชัยพร เข้าเวรตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.และเวลา 03.00 น.วันที่ 14 เม.ย.มีคนพบ นายชัยพร เป็นครั้งสุดท้าย โดยตอนนั้นไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุม และการชุมนุมยุติไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้น เวลา 20.00 น.นายชัยพร โทรศัพท์บอกภรรยา ว่า กำลังจะกลับบ้าน และเวลา 00.15-03.00 น.นายชัยพร ดื่มสุรากับเพื่อนๆ โดยเพื่อนๆ ของนายชัยพรยืนยันแล้ว เมื่อพบศพ นายชัพพร ญาติจะฌาปนกิจที่ กทม.แต่มีคนมีฐานะจากจังหวัดแพร่ อ้างว่า จะช่วยค่าซองศพในฐานะคนจังหวัดเดียวกัน ส่วน นายณัฐพงษ์ ก็เช่นกัน เพราะญาติยืนยันว่า ไม่ได้เสียชีวิตเพราะการปราบปรามในการสลายการชุมนุม ตรงนี้ยืนยันว่า ช่วงที่สลายการชุมนุมนั้น สองคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ เรื่องนี้ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า โดนเชือกฟาสต์โรพของทหารมัดนั้น ภาพถ่ายของตำรวจพบว่าเป็นเชือกไนลอนธรรมดาที่ใช้ทั่วไปเท่านั้น