โฆษกเพื่อไทย ยื่นหนังสือร้อง “พัชรวาท” สอบสลายม็อบแยกสามเหลี่ยมดินแดง อ้างทหาร-ตำรวจกระทำการเกินความจำเป็น แถมไม่ชอบด้วยกฎหมาย จี้ให้สอบเหตุเสียชีวิต 2 การ์ด นปช.ถูกฆ่าลอยน้ำ พร้อมร้อง ป.ป.ช.ดำเนินคดีนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องสั่งสลายการชุมนุม
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยและเครือข่าย ได้ยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่านทาง พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก เลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนการสลายการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีทีปรากฏหลักฐานชัดเจนทหารหน่วยรบจำนวนมากพร้อมอาวุธสงครามได้เข้าสลายปราบปรามการชุมนุมของประชาชนบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 13 เมษายน จนเป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บางคนบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่งด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เหตุที่ต้องยื่นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบก็ด้วยเห็นว่าในการสลายการชุมนุมนั้น แม้นายกฯ หรือผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีอำนาจให้ทหารเข้าดำเนินการได้ก็ตาม แต่ต้องใช้วิธีการที่เหมาะสม คือควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเป็นผู้ดำเนินการแล้วให้ทหารเป็นผู้ช่วย แต่ผู้มีอำนาจของรัฐบาลกลับสั่งให้ทหารที่มีความชำนาญในการรบกับข้าศึกศัตรูของประเทศชาติเข้าปฏิบัติการโดยมีอาวุธสงครามพร้อมกระสุน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการเกินความจำเป็นและไม่ชอบด้วยกฎหมายขัดต่อหลักความพอดีแก่เหตุและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเหตุกรณีสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 บริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอาวุธมีเพียงกระบองโล่ และแก๊สน้ำตา กลับถูก ป.ป.ช.เอาผิดสั่งให้ดำเนินคดีอาญา แต่ครั้งนี้ปรากฎหลักฐานชัดเจนมากกว่าเพราะเป็นการใช้อาวุธสงครามที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ถึงแก่ชีวิตและให้ทหารหน่วยรบเข้าดำเนินการเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนมากพร้อมทั้งขอให้ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของการ์ด นปช.2 คนที่ถูกทำร้ายและพบเป็นศพลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้สูญเสียที่มีญาติมาแจ้งข้อมูลไว้กับพรรคจำนวน 8 คน รวมถึงประชาชนที่สูญหายรายอื่นๆ ด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ชุมนุมจากการให้ข่าวที่บิดเบือนแต่เพียงด้านเดียวของฝ่ายรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรณีที่กล่าวหาง่าผู้ชุมนุมยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ทั้งที่ยังไม่มีการตรวจสอบ แต่กลับด่วนสรุปโดยการกล่าวหาใส่ร้ายผู้ชุมนุมถือเป็นการใส่ร้ายประชาชนโดยไม่ละอาย และไร้สำนึกความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง แต่กรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงประชาชนกลับอ้างว่าเป็นลูกกระสุนกระดาษ ไม่มีหัวกระสุนจริงจึงทำให้มีผู้บาดเจ็บนับร้อยคน เพราะความจริงแล้วเป็นการใช้กระสุนจริงๆ ยิงใส่ประชาชนโดยไม่มีการสาธิตการใช้กระสุนดังกล่าวให้ปรากฏต่อประชาชน ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนจึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีหน้าที่ตามกฎหมายได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลร้ายและความเสียหาย อันจะทำให้ความยุติธรรมดำรงอยู่ในสังคมไทยอย่างแท้จริงจากการปฏิบัติหน้าที่ที่เกินกว่าเหตุ และเกินกว่ากฎหมายกำหนด
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า จากนี้ไปตนเองจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปยื่น ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเข้าสลายการชุมนุม นอกจากนี้ตนเองได้ไปตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องหาที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการสลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงและถูกจับตัวไปขังที่คุก จำนวน 23 คน จากรายชื่อก็ไม่ตรงกับรายชื่อที่ญาติมาแจ้งหายทั้ง 8 คน
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการย้าย พล.ต.ท.อัศวิน ณรงพันธ์ ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มาช่วยราชการที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้นมองว่าทั้งสองคนต้องเป็นแพะ เพื่อต้องการเอาพวกพ้องตัวเองเข้าไปทำงานจะได้ไม่มีการสอบสวนเอาผิดกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน