xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ปรับลดงบปี 53 เหลือ 1.7 แสนล้าน แฉแดงถ่อยฉุดจีดีพีร่วง ลบ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ที่ประชุม ครม.เห็นชอบปรับลดงบปี 53 ลง 2 แสนล้าน เหลือ 1.7 แสนล้าน เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง “มาร์ค” มั่นใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐไม่สูญเปล่า หลัง “เสื้อแดง” ป่วนเมืองกระทบเศรษฐกิจทรุด คาดจีดีพีดิ่งเหวลบ5

วันนี้ (21 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้นำตัวเลขการเติบโตและรายได้ของรัฐบาลมาดู และได้ปรับลดกรอบวงเงินงบประมาณ ปี 53 ซึ่งเดิมตั้งไว้ที่ 1,900,000 ล้าน เหลือ 1,700,000 ล้านบาท เป็นการปรับลดลง 200,000 ล้านบาท เพื่อให้การขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 350,000 ล้านบาท ซึ่งจะอยู่ในกรอบของกฎหมาย และอยู่ในกรอบที่เราคิดว่าสามารถรักษาแนวทางเรื่องวินัยการคลังเอาไว้ได้ อันนี้เป็นการปรับ ซึ่งได้แจ้งให้ทุกกระทรวงทราบเพราะอีก 2 สัปดาห์จะเอารายละเอียดงบประมาณตัวนี้กลับมาให้ครม.ผ่านความเห็นชอบเพื่อส่งสภา และพร้อมๆ กันในอีก 2 สัปดาห์คือจะได้ดูว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 โครงการต่างๆ ถ้าไม่สามารถเข้ามาอยู่ในงบประมาณปี 53 ได้จะใช้แหล่งเงินไหน ซึ่งกระทรวงการคลังจะเสนอมาในวันเดียวกัน

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาเดินหน้าแก้ไขปัญหา เรื่องการท่องเที่ยว ประเด็นแรกในมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่า แลนดิ้งฟรี ค่าเข้าอุทยาน ได้มีการต่ออายุไปเป็น 1 ปี ประการที่ 2 เร่งรัดงบประมาณที่เคยอนุมัติไว้ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการ การท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ประการที่ 3 ได้มอบให้กระทรวงการคลังเร่งปรับปรุงโครงการที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ ซึ่งพบว่าที่ผ่านมาสินเชื่อยังมีวงเงินที่ใช้ไปน้อยมาก คือสามารถปล่อยออกไปได้น้อยมาก ตรงนี้จะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อสามารถใช้เงินตรงนี้ได้มากยิ่งขึ้น สุดท้ายในแง่การทำความเข้าใจกับต่างประเทศ เพื่อให้เห็นถึงความปลอดภัยการเข้ามาท่องเที่ยวจะมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาและชี้แจงผ่านกลไกต่างๆ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีมาตรการเพิ่มเติมเข้ามาอีกในส่วนของการท่องเที่ยว

เมื่อถามว่าที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องการสูญเสียรายได้ที่กระทบต่อการท่องเที่ยวมีสัดส่วนเท่าไหร่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีตัวเลขอยู่ เป็นการประมาณการจากสมาคมต่างๆ แต่เป็นตัวเลขที่ถือว่าปรับลดลงมาก และเรากำลังไล่ตามตัวเลขว่า ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์เป็นต้นมาจะเห็นได้ชัดว่า มีการยกเลิก ลดลงของคนที่เดินทางเข้ามาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจน่าจะปรับลดลงมากกว่า -2 หรือมากกว่า จากเดิมซึ่งเคยมีประมาณการกันว่า อาจจะเป็น 0 ถึง -1 หรือ 0 ถึง -2 หรือมากกว่า ซึ่งอาจจะถึง -4 หรือ -5

เมื่อถามว่างบประมาณแสนล้านจะชัดเจนอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอรายละเอียดอีก 2 สัปดาห์ถึงจะมีความชัดเจนว่าส่วนไหนจะถูกตัดอย่างไร เมื่อถามว่าต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากที่วางไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรายังต้องไปไล่ทำรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นรอบ 2 ทั้งนี้ เรามีข้อจำกัดหากจะกระตุ้นมากกว่านั้นจะมีคำถามเรื่องแหล่งเงินจะมาจากไหน เราต้องดูในกรอบของหนี้สาธารณะไม่ให้โตเกินไป ตนเคยคาดการณ์ไว้เองว่าหนี้สาธารณะในที่สุดจะต้องขึ้นไปร้อยละ 60 หรือ 60 กว่าๆ จะต้องให้ยื่นอยู่ตรงนั้น เราคงไม่สามารถไปไกลกว่านั้นได้

เมื่อถามว่าเศรษฐกิจไทยจะทรุดอีกยาวนานแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับต่างประเทศด้วย ตอนนี้สัญญาณค่อนข้างที่จะสับสนอยู่ เพราะบางช่วงเริ่มมีข่าวดีในบางประเทศ แต่บางช่วงยังมีปัญหา แม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศยังค่อนข้างที่จะผันผวนมาก

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีปัจจัยหลายตัวที่เห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจจะติดลบลง เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบโดยตรง ขณะที่ส่วนอื่นๆ มีเรื่องของความเชื่อมั่นผู้บริโภค ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้กระทบอยู่แล้ว ทำให้เราต้องปรับประมาณการเศรษฐกิจลงไป

เมื่อถามว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกที่ทำไปก็เท่ากับสูญเปล่าหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงไม่สูญเปล่า เพราะถ้าไม่ทำก็จะต้องหนักกว่านี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้น เราก็ต้องแก้ไขปัญหาไป

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตยืนยันว่านายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง มีความผิดวินัยร้ายแรงจะกระทบต่องานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โดยหลักถ้า ป.ป.ช.มีมติ ก็จะแจ้งไปที่ อ.ก.พ. ซึ่งจะมีกรอบเวลาในการดำเนินการต่อไป ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของกฎหมาย ทั้งนี้ ระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งก็ทำงานกันเต็มที่ เมื่อถามว่าจะมีการสับเปลี่ยนตัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้ยังไม่แน่ใจว่า ป.ป.ช.แจ้งมติเป็นทางการหรือยัง

เมื่อถามว่า มีการพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่กระทบการท่องเที่ยวซึ่งฝ่ายความมั่นคงบอกว่าจะประเมินสถานการณ์ทุกวัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มีการพูดอะไรเพิ่มเติม เพราะทราบดีว่าขณะนี้เหลือทางเจ้าหน้าที่ที่จะรายงานกลับมาอีกครั้งว่าปัญหาที่เขาอยากจะไปคลี่คลายแก้ไข เดินหน้าไปตามเป้าหมายแล้ว เมื่อถามว่าในที่ประชุมพูดกันหรือไม่ว่าเสื้อแดงจะกลับมาอีกรอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้มีการพูดคุย







กำลังโหลดความคิดเห็น