ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ติงแก้รัฐธรรมนูญนิรโทษกรรม สร้างความแตกแยกรอบใหม่มากกว่าสมานฉันท์ ห่วงวิธีการนายกฯ อาจผลักประชาชนออกจากกระบวนการปฏิรูป และเกิดความหวาดระแวงวาระซ่อนเร้นพรรคร่วมฯ เชื่อบ้านเลขที่ 111 ได้คืบเอาศอก รุกนิรโทษกรรมคดีอาญาต่อแน่นอน
วันนี้ (20 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวถึงแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่พร้อมจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอาจนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดในคดีการเมืองหรือคืนสิทธิทางการเมืองให้แก่กรรมการบริหารพรรคการเมือง ที่ถูกยุบพรรคการเมือง โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้ง และแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ว่า แนวคิดดังกล่าวนอกจากจะไม่สามารถสร้างความสมานฉันท์ได้แล้ว ยังจะเพิ่มอุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมือง เพราะความขัดแย้งในขณะนี้ไปไกลกว่าประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประการสำคัญ ปฏิรูปการเมืองด้วยการตั้งธงนิรโทษกรรมผู้ที่มีคดีการเมืองนั้นจะทำให้ประชาชนหวาดระแวง และรู้สึกว่ากระบวนการปฏิรูปการเมืองมีวาระซ่อนเร้นหรือเป็นการไกล่เกลี่ยผลประโยชน์ในหมู่นักการมืองเท่านั้น
“โดยเฉพาะวิธีการที่ให้แต่ละพรรคการเมืองไปทำประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาภายใน 2 สัปดาห์นั้น เป็นกระบวนการที่กลับหัวกลับหาง อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากกระบวนการมีส่วนร่วมและการลงประชามติของประชาชน ถ้ากระบวนการปฏิรูปการเมืองไม่ได้เริ่มต้นจากประชาชนและสังคม ไม่มีทางประสบความสำเร็จ เพราะนักเลือกตั้งไม่มีวันเห็นด้วยกับการถูกปฏิรูป ผมเป็นห่วงว่าวิธีการแบบนี้กำลังจะผลักประชาชน และสังคมออกจากกระบวนการปฏิรูปในที่สุด” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า เชื่อในเจตนาดีของท่านนายกฯ ที่ตั้งใจให้มีการปฏิรูปการเมืองแต่วิธีการแบบนี้น่าจะเกิดจากการถูกบีบและถูกกดดันจากพรรคร่วมมากกว่า ส่วนแนวคิดนิรโทษกรรมเฉพาะคดีการเมืองไม่เกี่ยวกับคดีอาญานั้น ไม่ทราบว่าใช้หลักการอะไรมากำหนด เพราะไม่ว่าคดีการเมืองหรือคดีอาญา ต่างก็สร้างผลเสียหายต่อประเทศทั้งนั้น และคดีการเมืองคือการกระทำที่ละเมิดรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด และในกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ส่วนใหญ่ในช่วงมีอำนาจหรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็สมรู้ร่วมคิดก่อคดีอาญามาทั้งนั้น เรื่องนี้จะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เชื่อว่าหากบรรดาบ้านเลขที่ 111 และกลุ่ม 109 คน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ได้รับการนิรโทษกรรมแล้วจะรุกคืบนิรโทษกรรมในคดีอาญาอย่างแน่นอน เพราะหลายคนมีความผิดทั้งคดีการเมือง และคดีอาญา เรื่องนี้แกนนำพันธมิตรฯ คงจะต้องหารือกันเพื่อกำหนดท่าทีอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง