“นช.แม้ว” โผล่จอหน้าทำเนียบ เชื่อมสัญญาณถึงลานพระรูป-หน้าบ้านป๋า ปั่นหัวคนเสื้อแดงอย่ากลับบ้านมือเปล่า บอกให้อดทนอีก 3 วัน อ้างจะได้เห็นสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง ปราศจากอำมาตย์ ไม่มีสองมาตรฐาน ปชช.มีสิทธิเท่าเทียม กินดีอยู่ดีทุกคน ปลุกนักเรียน-นศ.เข้าร่วม ด่าพ่อค้าดัดจริตกล่าวหาม็อบแดงทำชาติเสียหาย ทวงบุญคุณคราวที่แล้วใครช่วยพ้นวิกฤติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัย
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 8 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีทุจริตและโทษจำคุกอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดิโอลิงก็เข้ามาปลุกระดมคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล,ลานพระบรมรูปทรงม้า และหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยได้ทักทายคนเสื้อแดงว่า สวัสดีครับพี่น้องประชาชนชาวเสื้อแดง ที่มีหัวใจสีแดงและหัวใจรักประชาธิปไตย วันนี้พวกเรามารวมตัวกันเพราะเรากระหายอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง เราถูกบอกว่าเป็นประชาธิปไตยมานานแล้วแต่ไม่ใช่
“เรามากันเยอะ ผมชื่นใจมากๆ ผมจะกลับบ้านไม่ได้กลับบ้านไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เรื่องสำคัญพี่น้องได้ประชาธิปไตยเต็มใบ เราจะไม่กลับไปมือเปล่า เราจะกลับไปด้วยประชาธิปไตย เราขอสัมผัสประชาธิปไตยแท้ๆไม่ใช่ถูกหลอก ฝรั่งอ่าน Democracy เดม็อกเครซี แต่หลังเห็นอ่านว่า demo crazy แสดงความบ้า สองมาตรฐานมีการยึดสนามบินแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็ขำหมด เป็นนายกฯ ด้วยเสียงข้างมาก แต่พอไปทำกับข้าว ศาลเปิดพจนานุกรมให้พ้นตำแหน่งเลย”
นักโทษชายที่หนีคดีบอกว่า เราอยากเห็นสังคมมาตรฐานเดียวไม่ใช่ 2 มาตรฐาน สิ่งที่พี่น้องทำวันนี้ ถ้าสำเร็จมันเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งแผ่นดิน คนที่เกลียดเราก็ได้ประโยชน์ คนสีเหลือง และพวกเสื้อสีน้ำเงินก็จะได้ประโยชน์ แต่ไม่วายเราถูกกลั่นแกล้งมีการปลอมปน มีการแทรกแซง มีการสร้างสถานการณ์ว่าสีแดงก่อเรื่อง
“พี่น้องครับ อดทน พวกเราเป็นพวกรักความจริง พวกเราไม่เคยกลัวความจริง พวกเราเป็นคนรุ่นใหม่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่พิสูจน์ได้ เป็นสิ่งที่ความจริงต้องเป็นความจริง อำมาตยาธิปไตยที่เราไม่ต้องการเพราะพวกนี้บิดเบือนความจริง แทรกแซง สร้าง 2 มาตรฐาน ข่มขู่ผู้ทำมาหากิน มันหมดยุคนั้นไปแล้ว โลกเราไปถึงไหนแล้ว พวกคร่ำครึ ถ้าปล่อยไว้ ถ้าใครเป็นนายกฯ ที่เขาไม่รักก็ต้องมาเช่าห้องแถวเหมือนผม เขาต้องการนายกฯ ที่อยู่แล้วก็ไป แล้วก็ไป แล้วประเทศมันจะเจริญได้อย่างไร”
ด่าองคมนตรีอีก-อ้างจุ้นการเมือง
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า อำมาตยาธิปไตยที่เราพูดถึงมันคนละเรื่องกับคำว่าสถาบันองคมนตรี องคมนตรีส่วนใหญ่ไม่ยุ่งการเมือง มีสองสามคนเท่านั้นที่ยุ่ง ไอ้พวกที่ยุ่งเป็นพวก Elite หรืออภิสิทธิชนทั้งหลาย เราถึงเรียกว่าอำมาตย์ เราเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องการประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชน อำนาจการตัดสินใจเป็นของประชาชนเท่านั้น คนส่วนใหญ่ว่าต้องเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่คนแก่ 2-3 คนแอบอ้างพระบารมี แทรกแซงทุกอย่างจนประเทศปั่นป่วนทุกวันนี้ แล้วพาทหารใหญ่ปฏิวัติ ทหารก็แฮปปี้เพราะมีตังค์ทุกคน แต่ทหารเล็กทหารน้อยเหนื่อย ถูกใช้เป็นเครื่องมือ
“บรรดานักการเมืองเห็นการเมือง รัฐธรรมนูญแบบนี้ก็ไปซื้อ ส.ส.ทำมาหาแดก สร้างความเจ็บปวดต่อพี่น้องที่รักประชาธิปไตย ไม่มีครั้งใดอีกแล้วที่พี่น้องเห็นพ้องต้องใจขนาดนี้ ถ้าประชาธิปไตยไม่เบ่งบานวันนี้ก็ไม่รู้จะเบ่งบานที่ไหนอีกแล้ว เราต้องเพลง “อ้อม-สุนิสา” ที่บอกว่าขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอ แม้จะร้องไห้ พี่น้องครับผมฝันว่าประชาธิปไตยเป็นของประชาชน สังคมไทยมีเสรีภาพ เสมอภาค มีความยุติธรรม ปราศจากระบบ 2มาตรฐาน เป็นสังคมที่มีการดูแลพี่น้องคนไทยทุกส่วน คนสูงอายุได้รับการดูแลตลอด ซึ่งผมเคยคิดทำไว้ เป็นสังคมที่เปิดโอกาสให้คนไทยทำมาหากินอย่างสุจริต โดยเข้าหาแหล่งทุน แหล่งความรู้เสมอกัน เป็นสังคมที่คนไทยทุกคนมีงานทำ เป็นสังคมที่ลูกหลานได้รับการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเท่าเทียมกัน เป็นสังคมที่ลูกหลานเมื่อจบมาแล้วมองเห็นอนาคตที่ชัดเจนไม่ต้องจนเหมือนพ่อแม่ ไม่มีคนจนเหลืออยู่ในแผ่นดินไทย เป็นสังคมที่มีโครงสร้างพื้นฐานมั่นคง มีรถไฟฟ้า มีแหล่งน้ำทำมาหากินอย่างเท่าเทียม” พ.ต.ท.ทักษิณ วาดฝันอนาคตขึ้นมาล่อ
บอกม็อบแดง อดทนอีก 3 วัน
“พี่น้องอดทนอีก 3 วัน เขาบอกว่าจะปล่อยให้เราแห้งตาย พี่น้องที่อยู่ กทม. ผมรู้ว่าร้านอาหารบางร้านผลัดกันมาเติมให้คนเสื้อแดง วันนี้ต้องเติมกำลัง บอกพรรคพวกให้หมด ลูกหลานที่เรียนหนังสือ บอกมาที่นี่ ที่นี่มีสาระ มีอนาคตของลูกหลาน หยุดเดินศูนย์การค้ามาที่นี่ มาวางอนาคตดีกว่าจบมาไม่มีงานทำ พี่น้องครับ ผมได้ข่าวว่าสื่อก็ถูกบิด ถูกบอกว่าการออกมาครั้งนี้พี่น้องออกมาช่วยผม แต่ผมไม่แคร์ผมจะได้กลับบ้านหรือไม่มันเรื่องเล็ก แต่ประเทศไทยไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริงเรื่องใหญ่กว่า และผมก็ยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ผมเต็มใจและพอใจที่เป็นเหยื่อคนสุดท้ายของอำมาตยาธิปไตย”
สั่งเสียขอมีโอกาสเรียกร้อง ปชต.
“ผมขอมีโอกาสสุดท้ายเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง นั่นคือการเมืองของประชาชนเพื่อประชาชนโดยประชาชน เราสีแดงสู้วันนี้เป็นสีธงไตรรงค์ เราไม่ได้สู้เพื่อตัวเองหรือเพื่อทักษิณ เราสู้เพื่อประเทศไทยของเรา เราช้ากว่าคนอื่น เราโตไม่ทันคนอื่น ทั้งที่ศักยภาพเราดี แต่ก็เพราะว่าพวกอำมาตย์ทั้งหลาย พวกอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย พวกทหารใหญ่ พวกนักการเมืองทุจริตพอใจจะเห็นการเมืองเป็นอย่างนี้ แต่ถามพี่น้องไม่พอใจ ก็อดทนต่อไป ขอให้การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เราได้รับชัยชนะ เป็นชัยชนะเพื่อลูกหลาน”
อ้างต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง
“วันนี้เราไม่ได้ต่อสู้ที่ขัดต่ออุดมการณ์ ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประมุขอันนี้แน่นอน ท่านต้องการสิทธิเสรีภาพใช่ไหม ไม่ต้องการมีนักการเมืองห่วยๆ มาชี้นิ้วใช่ไหม ต้องการความเสมอภาคใช่ไหม ต้องการสวัสดิภาพใช่ไหม ต้องการให้พ่อแม่พ้นความยากจนใช่ไหม อยากเห็นอนาคตลูกหลานมีความเจริญกว่าท่านใช่ไหม เขาให้ท่านทำหน้าที่ แต่หน้าที่นั้นถ้าขัดอุดมการณ์ท่านก็ทำซื่อบื้อ ไม่ใช่เพื่อใครเพื่อประเทศไทยของเรา การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อผม ผมเป็นส่วนเล็กๆ ของประเทศ วันนี้สื่อต่างประเทศก็ไม่เข้าใจ”
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดเป็นภาษาอังกฤษกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ด้วยสำเนียงกระท่อนกระแท่น สรุปใจความว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับตัวเขา แต่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศ เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง เพื่อให้ประเทศไทยมีเสรีภาพ มีความเสมอภาคและภราดรภาพ
อ้างไม่จองเวรใคร ให้เป็นไปตามกรรม
“พี่น้องครับผมไม่จองเวรใครทั้งสิ้น ขออโหสิกรรม ใครจะทำอะไรผมก็ตามถือเป็นบุญกรรม ผมขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่าบุญกรรมที่เขาทำเป็นของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม วันนี้อยากให้พี่น้องคนไทยทั้งหลายโดยเฉพาะพวกที่มีส่วนในประวัติศาสตร์ ได้ช่วยสูดหายใจเอากลิ่นอายประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เต็มปอดแล้วอีกไม่นาน หัวใจสีแดงของเราจะพองโต ที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ และเป็นสังคมที่ลูกหลานมีอนาคต
พี่น้องมาแล้ว อย่ากลับบ้านมือเปล่า นี่คือสิ่งที่เราสู้มาเพื่อลูกหลานของเรา พอแล้วกับประชาธิปไตยวับๆ แวมๆ ที่เราเจอมา 40-50 ปี ต่อไปต้องเป็นประชาธิปไตยที่สดใส ไม่มีอีแอบผลุบเข้าผลุบออก พี่น้องครับที่รับฟังอยู่ ช่วยกันเติมพลังคน เติมพลังขบวน พลังใจ เพื่อให้เราได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง”
หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวจบ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดงที่ทำหน้าที่ถามประจบประแจง พ.ต.ท.ทักษิณตลอด ได้ถามว่า วันพรุ่งนี้เรายังมีนัดหมายกันอีกหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า “พี่น้องไม่หนีผมจะหนีได้ยังไง ถ้าพี่น้องสู้ ผมต้องสู้ให้หนักกว่า 100 เท่า ถ้าครั้งนี้ไม่ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับบ้าน เสียหายมาก”
พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวตำหนินักธุรกิจที่ออกมาให้ข่าวว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงทำให้เสียหายทางเศรษฐกิจ โดยบอกว่า วันนี้ก็ค้าขายกันไม่ได้อยู่แล้วอย่ามาอ้าง ต้องทำให้เข้มแข็งซะทีเดียว ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า consolidate ทำการเมืองให้เข้มแข็งโปร่งใส เดี๋ยวต่างประเทศก็จะมาช่วยเอง และรู้ๆ กันอยู่ ผลสุดท้ายครั้งที่แล้วประเทศรอดเพราะใคร เกือบหมดตูดกันเป็นแถว โดยนายวีระได้กล่าวเสริมว่า นักธุรกิจพวกนี้ดัดจริตและเป็นหัวคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเป็นการรวมพลใหญ่ขั้นแตกหักครั้งแรกของคนเสื้อแดงซึ่งถือว่ามีจำนวนคนมาร่วมชุมนุมมากที่สุดตั้งแต่จัดชุมนุมมา แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็กล่าวปราศรัยด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยและกัดกรามเป็นบางครั้ง รวมทั้งกะพริบตาตลอดเวลาขณะที่พูด จะยิ้มเล็กน้อยก็ต่อเมื่อนายวีระพูดสรรเสริญเยินยอเท่านั้น