xs
xsm
sm
md
lg

ถอดรหัสคำพูด นช.ทักษิณ “สมเกียรติ” ชี้เป็นคำประกาศสงคราม!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ผู้จัดการออนไลน์ - “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” วิเคราะห์คำพูด “ทักษิณ” โฟนอิน ระบุละเมิดศาล-เบื้องสูง เป็นการประกาศสงคราม พร้อมต่อรองในตัว โดยใช้มวลชนเป็นเครื่องมือ ชี้ความแตกต่างม็อบพันธมิตรฯ–นปก.8 ประการ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องภารดรภาพและที่มาของเงินสนับสนุน อัดนักวิชาการ-สื่อที่ออกมาขู่ว่าคำพูดของแกนนำทำให้คนน้อยลง ยันพันธมิตรฯ มาเมื่อมีภัยและกลับไปทำงานเมื่อสถานการณ์สงบเพื่อนำเงินมาหนุนต่อ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณหลังเที่ยงคืน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ณ ทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังหนีโทษจำคุกในคดีที่ดินรัชดาอยู่ต่างประเทศ ได้โทรศัพท์เข้ามายังที่ชุมนุมของ นปช.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและผู้ดำเนินรายการ “ความจริงวันนี้” ทางช่องเอ็นบีที เป็นผู้สัมภาษณ์

นายสมเกียรติ ได้กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวพาดพิงกระบวนการยุติธรรมและศาลยุติธรรมของไทย โดยระบุว่า เป็นกระบวนการยุติความเป็นธรรม ทั้งยังมีการกล่าวพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงโดยมิบังควรด้วย ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวประโยคหนึ่งว่า ไม่มีใครเอาตนกลับมาได้ นอกจากพระบารมี พระเมตตา รวมทั้งพลังของพี่น้องประชาชน ที่จะเอาตนกลับ

“ทักษิณ คุณรู้ไหมว่าคุณออกแถลงการณ์วันที่ 22 ตุลาฯ กล่าวหาใครว่าสมคบ ทำให้บ้านเมืองเสียหาย บอกว่าชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ จำได้ไหม ประโยคข้างต้นแสดงว่าทักษิณร้องขอและพร้อมจะต่อสู้” นายสมเกียรติ ระบุ พร้อมชี้ให้เห็นด้วยว่า ประโยคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามมวลชนของเขาว่าจะเก็บเขาไว้เมืองนอกสิบปีตามอายุความของคดีหรือ? ยิ่งเป็นการตอกย้ำความต้องการจะสู้ตายของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้

แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าวเปรียบเทียบพันธมิตรฯ กับแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นปช.ว่า มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ พันธมิตรฯ ใช้สีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ส่วน นปก. ใช้สีแดง ส่วนระบอบการเมืองนั้น พันธมิตรฯ ยึดถือ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขณะที่ นปก.ยึดถือกับระบอบเผด็จการรัฐสภาโดยทุนสามานย์

“ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรียกขานประชาชนว่า ‘พสกนิกรของพระองค์’ ถ้าเป็นระบอบทุนนิยาสามานย์เรียกว่า ‘ประชาชนของผม’ อย่างเช่นแถลงการณ์ของทักษิณวันที่ 22 แล้ววันนี้มาอ้อนประชาชนของผมว่า พี่น้องประชาชนของผมจะเก็บผมไว้เมืองนอกสิบปีเชียวหรือ” นายสมเกียรติกล่าว

ข้อที่สี่ การต่อสู้ของพันธมิตรฯ เป็นยุทธวิธีแบบอหิงสาแบบจำแนก ส่วน นปก.นั้นใช้ยุทธวิธีอันธพาลทางการเมืองและความรุนแรง ข้อห้า เครื่องยึดเหนี่ยวของ พันธมิตรฯ คือ อุดมการณ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วน นปก.คือ ระบอบทักษิณและเครือข่ายโกงชาติ

สำหรับเป้าหมายสูงสุดของ พันธมิตรฯ คือ ธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขณะที่ อีกฝ่ายหนึ่งมีเป้าหมายสูงสุด คือ สร้างความปั่นป่วนให้เกิดสงครามประชาชน เพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ ขณะที่ลักษณะความสัมพันธ์ของคนในที่ชุมนุม กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มคนที่อดทน มีภราดรภาพ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขและมีประชาชนทุกชนชั้นมารวมกัน ส่วนกลุ่มนปก.นั้นเป็น ม็อบชั่วคราวหรือเรียกว่า “ม็อบแดดเดียว” หรือ “ม็อบฝนสลาย”

“พี่น้องครับ วันนี้ระบอบทักษิณสู้ สู้ ต่อรอง สู้คือคำที่บอกว่า พี่น้องจะทิ้งผมไว้เมืองนอกสิบปีหรือครับ คำว่า ‘ไม่มีใครเอาผมกลับประเทศไทยได้นอกจากพลังของพี่น้องประชาชน’ นี่คือประกาศสู้ไหม แต่เราอย่าไปประมาทเขา” นอกจากนี้นายสมเกียรติยังกล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามต่อรองด้วยการอ้างถึงพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ขณะที่ความแตกต่างระหว่างพันธมิตรฯ กับ นปก.ข้อสุดท้ายนั้น นายสมเกียรติระบุว่า พันธมิตรฯ ได้รับเงินสนับสนุนมาจากประชาชน แต่ นปก. ทรราชเป็นผู้จ่ายเงินสนับสนุน

“ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประชาชนเป็นผู้จ่ายครับ แม่ยก พ่อยก เป็นผู้บริจาค ประชาชนเป็นผู้ให้ แต่ม็อบ นปก. ประชาชนเป็นผู้รับ แต่ระบอบทรราชย์เป็นผู้จ่าย”

ต่อมาแกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้กล่าวยืนยันว่า ที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีความปลอดภัยแน่นอนเพราะวันนี้ทหารได้ส่งเจ้าหน้าที่มาคุ้มครองแล้วจำนวน 14 กองร้อย อย่างไรก็ตามนายสมเกียรติได้กล่าวเตือนว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณในวันนี้คือการประกาศสงครามครั้งใหญ่ ซึ่งครั้งต่อไปจะเกิดความรุนแรงมากกว่านี้

สวนนักวิชาการ-สื่อ อย่าขู่พันธมิตรฯ คนน้อย

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีนักวิชาการ สมาคมสื่อ และนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งได้ส่งข้อความมาถึงตนและระบุว่า ขณะนี้พี่น้องพันธมิตรฯ ได้ลดจำนวนลงจนน่าใจหาย ขอให้แกนนำทบทวนการปราศรัย ซึ่งนายสมเกียรติกล่าวว่าไม่เป็นความจริง

“วันนี้พวกคุณสื่อมวลชน พวกนักวิชาการ พวกนักพัฒนา พวกดัดจริตมาเสนอหน้าตอนใกล้ร้อยเมตรสุดท้าย ต้องส่งมาใหม่ว่า พันธมิตรฯ มานับแสนๆ คนจนน่าใจหาย เพราะยามทุกข์ยาก พันธมิตรฯ ก็มา ยามที่สงบเขาก็กลับบ้านเพื่อไปหาทรัพย์ หาอาหารมาบริจาค ต้องเข้าใจเขาด้วย เขาเป็นผู้ดำรงชีพด้วยทานบารมี พันธมิตรฯ ของเราทุกครั้งที่ได้รับก็จะแบ่งให้พันธมิตรฯ ครึ่งหนึ่ง คุณต้องเชื่อในพันธมิตรฯ” นายสมเกียรติยืนยัน พร้อมกล่าวว่า พันธมิตรฯ อยู่ในสังคมภราดรภาพ และรักกันฉันพี่น้องแม้จะมาจากคนละสายเลือด

“แสดงว่าสำหรับพันธมิตรฯ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่เหนืออุดมการณ์ ครอบครัว พี่น้อง สายเลือดและพรรคการเมือง” นายสมเกียรติกล่าว พร้อมยกตัวอย่างความรักชาติของ พันธมิตรฯ คนหนึ่งที่ทำงานในโรงแรมใน จ.ภูเก็ต ซึ่งลางานมาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ โดยระบุในใบลายื่นต่อหัวหน้าว่า “ลาโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้รับชัยชนะ” ซึ่งหัวหน้าก็ตอบมาว่า “อนุมัติโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้รับชัยชนะเช่นกัน”

ตอนท้ายของการปราศรัยนายสมเกียรติได้กล่าวถึงเรื่องตลกในการชุมนุมของกลุ่ม นปก. ในงานความจริงวันนี้ที่ จัดชุมนุมกันวานนี้ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ว่านายวีระ มุสิกพงศ์ ได้หลุดคำพูดมาหนึ่งคำโดยกล่าวเรียก พ.ต.ท.ทักษิณว่า น.ช. หรือ นักโทษชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวติดตลกว่า คำพูดนี้น่าจะทำให้ นายวีระโดนหักค่าตัวอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังหนีโทษจำคุกในคดีที่ดินรัชดาอยู่ต่างประเทศ ในการชุมนุมของ นปช.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานวานนี้ (1 พ.ย.)
กำลังโหลดความคิดเห็น