ปชป.จัดงานวันครบรอบ 63 ปีคึกคัก “อภิสิทธิ์” ยอมรับรัฐบาลทำงานแค่ 3 เดือน แต่นานเหมือนเป็นปี เพราะต้องต่อสู้กับระบอบทักษิณที่ฝังรากลึกมากว่า 6 ปี ย้ำให้สิทธิการชุมนุมแต่ต้องไม่กระทบความมั่นคง ชี้วิกฤตบ้านเมืองในขณะนี้เกิดจากฝีมือรัฐบาลในอดีต
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดงานทำบุญทางศาสนา 3 ศาสนา คือ พุทธ พราหมณ์ และอิสลาม เนื่องในโอกาสครบรอบ 63 ปีของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรคทยอยเดินทางเข้าร่วมงานจำนวนมาก เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรค นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา รวมทั้งรัฐมนตรี ส.ส. และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก ขณะที่บริเวณงานได้มีการจัดบูทอาหาร 4 ภาค เพื่อให้ผู้มาร่วมงานรับประทาน ส่วนทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้ตั้งโต๊ะลงทะเบียนรับจัดหางานแก่ประชาชนผู้สนใจด้วย นอกจากนี้ยังมี ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นางพรทิวา นาคาสัย นายโสภณ ซารัมย์ ได้นั่งรถตู้ 4 คันมาร่วมแสดงความยินดี แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง พร้อมสมาชิกจำนวนหนึ่ง
โดยนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างพบกลุ่มผู้สนับสนุนที่เป็นชาวมุสลิมว่า รัฐบาลทำงานมา 3 เดือน 1 สัปดาห์ แต่รู้สึกนานเป็นปี เข้ามาเป็นรัฐบาลรู้เลยว่าบ้านเมืองแตกแยก รู้สึกขัดแย้งรุนแรงอยู่หลายพื้นที่หลายวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการข้าราชการ ทำให้รู้สึกไม่ง่ายเลย เพราะความคาดหวังประชาชนมีสูง ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และเศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟู
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือน 1 สัปดาห์ ได้ทุ่มเทเต็มที่ อย่างน้อยไม่ให้ใครมาพูดได้ว่าเราไม่รับผิดชอบ ไม่ทุ่มเท ไม่ขยัน แต่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาผลกระทบให้พี่น้องเกษตรกร การช่วยเหลือค่าครองชีพ 2,000 บาท ในขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น เราต้องดูแลคนด้อยโอกาส คนว่างงาน และเศรษฐกิจในชนบท เรื่องปัญหาการเมืองเชื่อว่าหลายคนกังวลอยู่ เพราะมีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล มีวิดีโอลิงก์โจมตีว่าเขาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ขอถามกลับว่า 3 เดือน 1 สัปดาห์ที่เราอยู่ในอำนาจได้พิสูจน์ให้เห็นหรือยังว่า รัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตยจริง กล้าพูดได้ว่าเทียบตั้งแต่ปี 2544-2552 ผ่านมา 5 รัฐบาลแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้ฟังเสียงของประชาชน ไม่ก้าวก่าย คุกคาม แทรกแซงองค์กรต่างๆ อยู่มา 3 เดือน แต่มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า คนที่อ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยมา 6 ปี
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลให้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม แต่หากทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ถ้าปราศรัยกระทบความมั่นคงก็ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมอยู่ ส่วนตำรวจ อัยการ ศาล ก็ต้องดำเนินการอย่างเป็นกลาง คนที่เดือดร้อนก็ใช้กระบวนการกฎหมาย รัฐบาลไม่อยากใช้กำลังเข้าปะทะ ถามว่าทำได้หรือไม่ ก็ทำได้ แต่ถ้ามีการใช้กำลังปะทะคงมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลจะใช้วิธีนุ่มนวลที่สุด
“ขอย้ำว่าที่บ้านเมืองวิกฤตทุกวันนี้ เป็นเพราะรัฐบาลในอดีตทำตามอำเภอใจ ตัดสินเองว่าคนนั้นคนนี้ไม่มีสิทธิ์พูด ห้ามออกทีวี คนที่ไม่พอใจก็ยัดข้อหาและจับ วันนี้เราต้องพิสูจน์ว่าเราบริหารประเทศโดยไม่ละเมิดกฎหมาย ถ้าทำสำเร็จจะช่วยส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลไม่ได้อยู่เฉย จะทำทุกอย่างภายใต้กฎหมายให้เรียบร้อย ถ้าใครคิดว่ามีอำนาจทำตามใจชอบ ตัวเองถูกฝ่ายเดียว บ้านเมืองก็ยังขัดแย้งอยู่ เดี่ยวนี้มีการพูดกันว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องฟังเสียงทหาร ข้าราชการ หรือกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เพราะเป็นหนี้บุญคุณ ขอบอกว่าที่ผ่านมาทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น เรามาด้วยระบบรัฐสภาและยึดแนวทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กรณีที่มีการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ไม่ปฏิเสธ แต่การแก้ไขต้องมาแก้ดีๆ ไม่ใช่ทะเลาะกัน ต้องฟังความเห็นของทุกฝ่าย อย่าให้ใครกล่าวหาว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง ท้ายที่สุดอำนาจสุดท้ายอยู่ที่รัฐสภาจะพิจารณา ที่ผ่านมาก็พยายามเชิญชวนฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายค้านก็ตั้งแง่ ดังนั้นก็พูดคุยกันต่อไป”