ตำรวจ ปดส.ตามรวบอดีตนักข่าวกับพวก อ้างตัวเป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน แถมแจกนามบัตรของจริง ระบุ สามารถจัดส่งไปทำงานที่แคนาดาและสิงคโปร์ ก่อนเรียกเก็บค่าหัวคิวคนละ 1.5 แสน พร้อมค่าทำวีซ่าอีก หมื่นแปด มีผู้ใช้แรงงานตกเป็นเหยื่อกว่า 300 คน
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชน และสตรี (บก.ปดส.) นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน, พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์, พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบก.ปดส., พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส., พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมชาติ หรือ ธนกฤต นาคบรรจง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/10 หมู่ที่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายสมศักดิ์ เจือจันทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ที่ 17 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และ นางปัญจาภรณ์ หรือ สำรวย หรือ สมพร สายแฉ่ง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/14 หมู่ที่ 2 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 876-878/2552 ลงวันที่ 28 มี.ค.52
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้มอบหมายให้ ผอ.กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ให้ช่วยติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่แอบอ้างเป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน ทำการหลอกลวงประชาชน ว่า สามารถจัดส่งคนงานไปยังทำงานต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศแคนาดา และสิงคโปร์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก ว่า สามารถจัดส่งให้ไปทำงานยังประเทศแคนาดา และสิงคโปร์ได้ โดยอ้างว่า ต้องการแรงงาน 3,000 คน ไปเป็นคนงานสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ได้ค่าจ้างวันละ 2,800-9,000 บาท จากนั้นก็ได้นัดคนงานประมาณ 300 คน ไปพบที่สถานทดสอบฝีมือแรงงาน เคทีซี ตั้งอยู่เลขที่ 37/8 หมู่ที่ 3 ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกลา จ.ปทุมธานี ในวันที่ 19 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวต่อว่า เมื่อคนงานมาตามนัดหมาย นายสมศักดิ์ ก็ได้แอบอ้างว่า ตัวเองเป็นอธิบดีกรมจัดหางาน พร้อมทั้งชี้แจงกับคนงานทั้งหมด ว่า ต้องการแรงงานหลายตำแหน่งไปทำงานที่ประเทศแคนาดา รวมทั้งมีการแจกเบอร์โทรศัพท์ของ นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางานตัวจริง ประกาศกรมการจัดหางานเรื่องรายชื่อองค์กรและกลุ่มบุคคลที่จัดส่งคนงานไปประเทศดังกล่าว โดยจะมี นายสมชาติ กับ นางปัญจาภรณ์ จะเป็นผู้จัดการเรื่องทั้งหมด แต่คนงานจะต้องจ่ายเงินค่าบริการจัดหางานคนละ 150,000 บาท และค่าทำวีซ่าคนละ 18,000 บาท
หลังจากเวลาผ่านไปนาน 3 สัปดาห์ กลุ่มผู้เสียหายเห็นว่า นานผิดปกติ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายพิชัย ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ไว้ จึงทำให้ทราบว่าทั้งหมดถูกหลอกลวง ทางกรมการจัดหางานจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุม นายสมชาติ กับ นางปัญจาภรณ์ ได้ที่สถานทดสอบฝีมือแรงงาน เคทีซี ตั้งอยู่เลขที่ 37/8 หมู่ที่ 3 ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกลา จ.ปทุมธานี และจับกุม นายสมศักดิ์ ได้ที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขาอ่อนนุช เขตพระโขนง ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองเคยเป็นผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ประจำอยู่ที่กระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ ยังเปิดบริษัทเทรนนิ่ง ไทย-ญี่ปุน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางาน แต่สัญญาหมดอายุ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.51 ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 19 พ.ย.51 ที่ผู้เสียหายอ้างนั้น ตนได้นัดคนงานมาชี้แจงเรื่องจัดส่งไปทำงานที่ประเทศแคนาดาจริง แต่ยังไม่มีการรับเงินเลย และตนก็ไม่เคยอ้างว่าตัวเองเป็นอธิบดีกรมการจัดหางานตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายนับสิบราย เดินทางมาชี้ตัวยืนยันว่า นายสมศักดิ์ ได้แอบอ้างตัวเป็นอธิบดีกรมการจัดหางานจริง จึงแจ้งข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจและการกระทำนั้น และแจ้งข้อหาร่วมกันจัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ตามพ.ร.บ.จัดหางาน พ.ศ.2528 ม.30, 82 มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาท
ด้าน นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสามคนได้หลอกลวงผู้เสียหายจริง เนื่องจากขณะนี้ประเทศแคนาดาไม่ออกวีซ่าให้ จึงไม่สามารถส่งแรงงานไปทำงานที่ประเทศดังกล่าวได้ จึงฝากเตือนผู้ใช้แรงงานที่จะเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศให้ตรวจสอบกับกรมการจัดหางานโดยตรง เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
