ปดส.รวบสาวใหญ่หลอกลวงเหยื่อสามารถส่งไปทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่เกาหลีใต้ได้ แถมได้ค่าจ้างสูงด้วย เหยื่อหลายรายหลงเชื่อยอมกู้เงินนอกระบบมอบให้เดินเรื่อง แต่สุดท้ายต้องผิดหวัง สืบประวัติพบมีพฤติการณ์หลอกลวงทำมานานกว่า 10 ปี มีหมายจับเพียบ
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ บก.ปดส. พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พร้อมด้วย นายนิติชัย วิสุทธิพันธุ์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการกระทรวงแรงงาน นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สายสมร สุทธิไชยา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 395/5 หมู่ 13 ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหาจัดหาแรงงานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานส่งไปฝึกงานต่างประเทศโดยการหลอกลวงนั้นได้มาซึ่งเงิน ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2528 จับกุมได้ที่บริเวณซอยรามอินทรา 23 แขวงและเขตบางเขน กทม.
พ.ต.อ.ณพวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้รับการร้องเรียนจากแรงงานไทย จำนวน 12 ราย ว่าถูก น.ส.สายสมร หลอกลวงว่าสามารถส่งไปทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ และพนักงานประจำโรงงานพลาสติกที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีค่าตอบแทนสูง โดยผู้ที่สนใจจะต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการรายละ 42,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 504,000 บาท ซึ่งบางรายได้กู้เงินนอกระบบมาเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว
พ.ต.อ.ณพวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อปี 2551 ผู้เสียหายทั้งหมดได้เดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ แต่กลับไม่ได้ทำงานตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังถูกนายหน้าซึ่งประจำอยู่ที่ประเทศเกาหลี เรียกเก็บเงินอีกทอดหนึ่งโดยอ้างว่าต้องใช้เป็นค่าสมัครเข้าทำงาน เมื่อรู้ว่าถูกหลอกลวงทั้งหมดจึงเข้าขอความช่วยเหลือจากสถานทูต ก่อนถูกส่งตัวกลับประเทศไทย
ด้าน นายรุ่งกิจ ทวยสง อายุ 39 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับ น.ส.สายสมร จากเพื่อนสนิทซึ่งเป็นผู้ติดต่อให้เพราะตนมีความสนใจที่จะทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ และมีประสบการณ์เคยเดินทางไปทำงานด้านนี้ที่ไต้หวัน แต่ครั้งนั้นมีปัญหาส่วนตัวจึงต้องเดินทางกลับมา โดยก่อนจะตกลงเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้
“ผมได้ไปกู้เงินนอกระบบมา 50,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทำให้ต้องมีหนี้สินเพิ่มขึ้น และภายหลังเมื่อถูกส่งตัวกลับประเทศไทยแล้ว จึงรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นเข้าร้องเรียนกระทรวงแรงงานเพื่อติดตามตัวและดำเนินคดีกับ น.ส.สายสมร เพราะไม่อยากให้ไปหลอกลวงใครอีก” นายรุ่งกิจ กล่าว
จากการสอบสวน น.ส.สายสมร ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.สายสมร พบว่า มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วกว่า 10 ปี เคยถูกตำรวจ สน.วังทองหลาง จับกุมดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้ว นอกจากนี้ยังถูกออกหมายจับถึง 7 คดี ในท้องที่ สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น 3 คดี สภ.เมืองอุดรธานี 3 คดี และที่ สน.บางชัน 1 คดี ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น รับไว้ดำเนินคดีต่อไป