xs
xsm
sm
md
lg

ขยับเมื่อสาย เมื่อขยับแล้วก็ยังเปะปะ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ในที่สุดก็มีการปรับผังรายการใหม่ของสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 หรืออีกชื่อหนึ่งในนามช่อง “เอ็นบีที” เริ่มดีเดย์ไปแล้วตั้งแต่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยบอกว่านี่คือการปรับโฉมใหม่

เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเต็มรูปแบบ สถานีข่าวดีประเทศไทย เน้นการนำเสนอข่าวสาร แนวทางแก้ปัญหาของชาติ รวมพลังในการแก้ปัญหา เพื่อสื่อถึงประชาชน ให้สาระความรู้ คืนกำไรให้สังคม ให้สาระข้อมูลรอบด้านเป็นกลาง เชื่อถือได้ ฯลฯ

นั่นเป็นความพยายามของ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่อาสามากำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งสื่อของรัฐอื่นๆ อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นยังเชื่อว่าเป็นความปรารถนาดี ต้องการให้ใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนอย่างรอบด้าน

แต่นี่มันอยู่คนละบรรยากาศ คนละสถานการณ์ ไม่อยากจะบอกว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือสถานการณ์สู้รบ ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเข้ามาทุกทีแล้ว และความหวังสุดท้ายที่ยังเชื่อว่า จะสามารถจะพลิกกลับตีโต้ระบอบสามานย์ได้ก็มีเพียงแนวรบด้านสื่อเท่านั้น

ที่ผ่านมา รัฐบาล และรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านสื่อของรัฐกลับเงื้อง่า ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในช่อง 11 มาเป็น “สถานีข่าวดีประเทศไทย” ก็ต้องใช้เวลานานประเภท “กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้”

ไม่อยากจะเอ่ยชื่อเปรียบเทียบกับยุคของ จักรภพ เพ็ญแข ที่พอมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯก้นยังไม่ทันร้อนก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นสั่งฟันฉับฉับ จนเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาทำเพื่อเป้าหมายให้ฝ่าย “ระบอบทักษิณ” ได้ประโยชน์ก็ลงมือทำทันทีโดยไม่ลังเล

พออำนาจเปลี่ยน พลิกกลับมาอยู่ในมือของตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่สังคมที่เคยฝากความหวังเอาไว้ กลับไม่เห็นผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากเห็นสัญลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงจากเอ็นบีทีมาเป็นรูปหอยสังข์สีม่วงที่อธิบายว่าเป็นสีประจำกรมประชาฯ แต่กว่าจะลงมือทำต้องรอนานถึง 3 เดือน

นี่ยังไม่ต้องมาพูดถึงประเด็นที่ว่าเมื่อลงมือทำแล้วจะเข้าเป้าหมายตามที่สังคมอยากเห็นอยากให้เปลี่ยนแปลงตามแนวทางนั้นหรือไม่

เพราะหากพิจารณาจากผังรายการแม้จะมีการเพิ่มหรือรายการที่มีสาระ เพื่อเด็ก เพื่อการศึกษา หรือเพื่อสังคมมากขึ้นก็คงไม่มีใครขัดข้อง ถือเป็นเรื่องที่ดี

แต่อีกมุมหนึ่งก็คือมันเป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติอย่างที่ประเมินกันไว้ ฝ่ายตรงข้ามกำลังไล่ตีรุกเข้ามาประชิดพระนคร ซึ่งจะว่าไปแล้วฝ่ายรัฐบาลนั่นแหละที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมทำอะไร จึงเหมือนเปิดทางให้พวกเขาบุกเข้ามาได้ง่ายเสียอีก

นั่นก็คือการเปิดทางโล่งให้ฝ่ายนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ปลุกระดม จาบจ้วง ทำร้าย ทำลายบุคคลสำคัญที่เป็นเสาหลักของบ้านเมืองมั่วไปหมด เป็นพฤติกรรมซ้ำซาก จนชาวบ้านที่ห่างไกลข้อมูล หรือฟังข้อมูลข้างเดียว จากผิดคิดว่าเป็นถูก เกิดความเชื่อคล้อยตาม

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสื่อกลับนิ่งเฉย นอกจากไม่ชี้แจงให้ประชาชน โดยเฉพาะบรรดา “รากหญ้า” ทั้งหลายทั่วประเทศได้เข้าใจว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด หรือชี้ให้เห็นข้อหาความผิดของ นักโทษที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ว่าฉกรรจ์แค่ไหน อย่างไรบ้าง

แต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านใช้วิจารณญาณ เอาเอง มันก็เข้าทาง “แม้ว”

นอกจากนี้ยังปล่อยให้วิทยุชุมชนหลายคลื่นทั่วประเทศให้ร้ายทำลายสถาบันเบื้องสูง หรือแม้กระทั่งปลุกระดมมุ่งร้ายรัฐบาลโดยตรง แต่ที่ผ่านมากลับ “ไม่นำพา”

อย่างไรก็ดีแม้จะรู้ดีว่ารัฐบาลหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอาจจะไม่มีอำนาจโดยตรงในการควบคุมดูแลบรรดาคลื่นความถี่ต่างๆ เนื่องจากยังเป็นช่วงสุญญากาศ เพราะต้องรอการเกิดขึ้นของ กสทช.มารับผิดชอบก่อนก็ตาม แต่ก็ยังเชื่อว่า หากมีความ “กล้าหาญ” ก็ย่อมจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้

ดังนั้น นาทีนี้แม้ว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่อง 11 จาก เอ็นบีทีมาเป็น “สถานีข่าวดีฯ” มีการปรับผังรายการใหม่ เน้นสาระบริการสังคม แม้เป็นสิ่งที่ดี แต่ถือว่ายังไม่ตรงเป้าหมาย และยังเปะปะ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการชี้แจงความจริงให้ปรากฏ ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรม การคดโกง การจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงของ นักโทษชายทักษิณ ให้สังคมส่วนใหญ่ได้รับรู้ ซึ่งวิธีการอาจเชิญนักวิชาการ หรือสื่อ หรือใครก็ได้ที่รู้เท่าทันมาให้ความรู้

ซึ่งน่าจะดำเนินการได้ตั้งนานแล้ว เงื้อง่าอยู่ได้ตั้งนาน !!

กำลังโหลดความคิดเห็น