“ประวิตร” ชี้ “ทักษิณ” พาดพิงใครต้องรับผิดชอบคำพูด แต่กองทัพคงไม่ทำอะไร กรณีโจมตี “ป๋าเปรม” และจะไม่ขอร้องให้ “นช.แล้ว” หยุดเคลื่อนไหว เชื่อเหตุการณ์ไม่รุนแรงถึงขั้นใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้าน “บิ๊กป๊อก” เปิดปากเตือนอย่าล่วงเกินองคมนตรีผู้ทำงานถวายในหลวง ยันทหารไม่ใช่พวกใคร พร้อมทำงานตามรัฐบาลสั่ง อ้างทหารปกป้องสถาบันกษัตริย์อยู่แล้ว
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 31 มี.ค.ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้เป็นการคิดและทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะต้องรับผิดชอบในคำพูดที่พูดออกมา และประชาชนต้องใช้วิจารณญาณคิดและฟังท่านพูดว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดเป็นอย่างไร ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพาดพิงถึงใครต้องรับผิดชอบคำพูด ส่วนคนที่ถูกพาดพิงนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกแล้วว่าจะออกมาชี้แจงหรือไม่ชี้แจงเป็นสิทธิหน้าที่
เมื่อถามว่า พล.อ.เปรมถือเป็นเสาหลักของกองทัพ เราจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงไม่ดำเนินการอะไร เพราะตนเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่าน คงไม่ไปสอนหรือแนะนำท่านได้ ท่านมีแนวคิดของท่าน บ้านเมืองเป็นอย่างไรท่านก็รู้ และท่านรู้ว่าควรจะทำอย่างไร และสื่อเองก็รู้
เมื่อถามว่าการโจมตีประธานองคมนตรีเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูเองว่า เหมาะสมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์ เพียงแต่พยายามทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข แต่ต้องทำไม่ให้อยู่นอกเหนือกฎหมาย หรือทำให้ประชาชนเสียหายหรือบาดเจ็บ ซึ่งเราคงไม่ทำ
เมื่อถามว่า ในฐานะที่สนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณหยุดการเคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ขอร้อง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายเก่าของตน ไม่อยากพูดอะไรมาก ไม่อยากก้าวก่ายคนอื่น
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะทวงบุญคุณที่เคยตั้งท่านเป็น ผบ.ทบ.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นไปตามขั้นตอน หากตนไม่ได้เป็นคนอื่นก็ได้เป็น
เมื่อถามว่า สถานการณ์จะพัฒนาไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงไม่ใช้ ถ้าไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสถานที่ราชการที่สำคัญ ใครมีสิทธิอะไรทำไปตามกฎหมายที่มีอยู่ และขณะนี้รัฐบาลยังสามารถไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้อยู่
เมื่อถามว่า ขณะนี้สถานการณ์สุกงอมหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า สถานการณ์จะสุกงอมเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่รัฐบาลมีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
เมื่อถามถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้ทหารออกมาปกป้องสถาบัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทหารปกป้องสถาบันอยู่ แต่จะให้ออกมาอย่างไร เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งการที่เราส่งทหารเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เพื่อดูแลสถานที่ราชการ เพราะคนจำนวนมากทำให้มีความล่อแหลม หากเข้าไปสถานที่ราชการจะเกิดความเสียหาย
เมื่อถามว่ามีมาตรการป้องกันอย่างไร หากกลุ่มเสื้อแดงจะยึดทำเนียบ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรามีคนของเราอยู่ ไม่จำเป็นต้องวางมาตรการ ทหารดูแลสถานที่ราชการอยู่ ซึ่งการปฏิบัติจะทำตามขั้นตอน ไม่ให้ผิดกฎหมาย
ส่วนเหตุการณ์จะซ้ำรอยเหตุ 7 ตุลาคม 51 หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่าซ้ำรอยหรือไม่ เพราะ เราไม่มีรอยที่จะให้ซ้ำ
เมื่อถามว่า ตั้งข้อสังเกตหรือไม่เหตุใดกลุ่มเสื้อแดงจึงจ้องโจมตีทหาร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องถามเขา ตนตอบไม่ได้ ตนมีหน้าที่ดูแลทหารเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าทหารเขารู้
เมื่อถามว่าจะใช้ปืนยิงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้อยู่ภายใต้กฎหมาย และรัฐธรรมนูญ
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวพาดพิงโจมตีประธานองคมนตรีว่า อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติว่า หากสิ่งใดที่ทำให้คนไทยต้องแตกแยก โดยเฉพาะในภาวะเช่นนี้ ความแตกแยกของคนในชาติก็แย่แล้ว ดังนั้นไม่ควรแตกแยกกัน หากไม่ขัดแย้งและไม่ใช้ความรุนแรงน่าจะเป็นสิ่งที่ดี ตนเคยเรียนย้ำตั้งแต่สมัยที่เป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า ประธานองคมนตรีถวายงานให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นประชาชนคนไทยที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ไม่ควรไปล่วงเกิน
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานองค์กรกลาง ระบุว่า มีทหารบางกลุ่มรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อทำปฏิวัติ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ข่าวนี้ ยืนยันว่าตนปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาของกองทัพบก ซึ่งกองทัพบกไม่มีการปฏิวัติ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินว่า ท่านยุ่งการเมือง ขณะนี้ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ทหารไม่ได้เข้ามายุ่งการเมืองทั้งสิ้น รัฐบาลใดมาสั่งการเราก็ทำงานไปตามนั้น คนที่ว่า ทหารยุคการเมืองคือสื่อมวลชนไปอนุมานว่า เป็นอย่างนั้น ไม่ว่าจะเหลืองหรือแดงตนอยู่เหมือนเดิม
เมื่อถามย้ำว่า แต่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่ายุ่งการเมือง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องไปถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อถามย้ำว่า ส่วนตัวยังเป็นเพื่อนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงกล่าวพาดพิงกองทัพว่า มีการเลือกปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.อนุพงษ์กล่าววว่า ทหารไม่มีพวก ยืนยันตั้งแต่สมัยที่พันธมิตรโจมตี สื่ออนุมานเองว่า ตนเป็นพวกนั้นพวกนี้ไปจูบปากคนนั้นคนนี้ ยืนยันว่า ทหารกองทัพบก 2 แสนนายไม่มีพวก และกองทัพบกไม่สามารถเป็นพวกใดพวกหนึ่งได้ เราทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน ไม่เคยแบ่งสีใดสีหนึ่ง และช่วงที่ คมช.เป็นผู้ถืออำนาจรัฐ คมช.ไม่ได้ใช้ทหารในการดูแลความสงบ แต่ใช้ตำรวจดูแลมาตลอด ทั้งที่สนามหลวง เรื่อยมาจนถึงบ้านพักของ พล.อ.เปรม
“ประเด็นนี้อยู่ที่ผู้ถืออำนาจรัฐ ที่เข้ามาบริหารประเทศจะสั่งการอย่างไร ทั้ง 20 กระทรวง รวมทั้งกองทัพต้องปฏิบัติตามผู้ถืออำนาจรัฐว่าจะสั่งการอย่างไร ทั้งนี้ที่สมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศท่านไม่ได้ใช้ทหารแม้แต่นิดเดียว ท่านเลือกใช้ตำรวจ และให้ผมดูแลความมั่นคงภาคใต้ ส่วนปัญหาภายในท่านจะจัดการเอง ส่วนเหตุการณ์วันที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผมพูดหลายครั้งว่า เหตุการณ์ตอนนั้นไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉิน วันนั้นเป็นเหตุการณ์คนตีกัน แต่การที่คนเข้าไปยุ่งสถานที่ราชการ และทำให้เกิดความเสียหายอย่างวันที่ 7 ตุลาคม 51” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์ที่มีการยึดสนามบินสุวรณภูมินั้น ต้องไปดูว่ารัฐบาลมอบให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต รมว.มหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งท่านก็ทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งสถานการณ์เสร็จสิ้น ตนยืนยันว่า จะทำอะไร แล้วไปใช้กำลังกับประชาชน สังคมไทยรับไม่ได้ ทหารทำตามบทบาทภารกิจที่รัฐบาลสั่งแต่สิ่งที่เห็นว่า ทำได้ เช่นการรักษาสถานที่อย่างในปัจจุบันที่รัฐบาลสั่งจึงต้องไป
เมื่อถามว่า สถานการณ์จะพัฒนาไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนจะตอบในแง่ที่สร้างสรรค์ต่อประเทศชาติว่า ประเทศเราจะยืนอยู่บนความขัดแย้งไม่ได้ จะมีสองฝั่ง สองฝ่ายอย่างนี้ไม่ได้ คนไทยต้องเรียนรู้ที่จะอยู่บนความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน โดยอยู่ด้วยความสงบเรียบร้อยให้ได้ ไม่ใช่อยู่แล้วจะต้องแตกหักกันไปข้าง ดังนั้นผมจะพูดว่าผมจะรักษาความสงบเรียบร้อยให้ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นกับฝ่ายใด ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายอำนาจรัฐ เป็นเรื่องกลไกการเมืองก็ว่าไป
เมื่อถามว่า หากม็อบเสื้อแดงยึดทำเนียบรัฐบาล แล้วรัฐบาลสั่งให้ทหารสลายการชุมนุมกองทัพจะดำเนินการหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลประกาศชัดว่า จะไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ขณะนี้เราเพียงดูแลทำเนียบรัฐบาล ตามที่รัฐบาลสั่ง ทั้งนี้สถานการณ์ในอนาคตต้องมีความสงบเรียบร้อยเพราะประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า คนไทยต้องช่วยกันแก้ปัญหา มันใจว่าทุกอย่างต้องเรียบร้อยและคลี่คลายไปในทางที่ดี
เมื่อถามว่า หากสถานการณ์รุนแรงทหารจะออกมาควบคุมสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้สั่ง มีเพียงคำสั่งให้ดูแลสถานที่ราชการ แต่หากจะมีมาตรการนอกจากนั้น คงไม่มีใครสั่งการหรือมีการเตรียมการทัน เรามีหน้าที่รักษาสถานที่ราชการเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตร เรียกร้องให้ทหารออกมาปกป้องสถาบัน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การดำเนินการรัฐบาลมีนโยบายที่แน่ชัด และมีส่วนที่รับผิดชอบ ส่วนในจิตวิญาณของทหารทุกคนยืนยันว่า เราเป็นทหารของชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสถาบันทหารจะปกป้องสถาบันกษัตริย์ยิ่งชีวิต ดังนั้น เราจะไม่ทำอะไรที่นอกกรอบกฎหมาย นอกบทบาทภารกิจ การที่มีใครออกมาดำเนินการอย่างที่สื่อถาม ทหารจะต้องออกมาดูแล