“อภิสิทธิ์” ชี้ “ทักษิณ” ไม่เหมาะพาดพิงดึงองคมนตรีเอี่ยวการเมือง วอนสังคมทุกฝ่ายอย่าเพิกเฉย ต้องร่วมกันตำหนิ ติติง ยัน “ปธ.องคมนตรี” ไม่เกี่ยวข้อง ปชป.และพรรคการเมือง ตอกกลับแค่เรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นย่อมรู้ถึงจังหวะต้องกู้ แก้วิกฤต ศก. งง ข้อเรียกร้อง “แม้ว” สับสน เดี๋ยวยุบสภา เดี๋ยวแก้ กม. ท้าถ้าบริสุทธิ์ใจให้กลับมารับกระบวนการยุติธรรม รบ.พร้อมเปิดเวทีคุยเดินหน้าปฏิรูปการเมือง เชื่อเคลื่อนไหวแบบนี้ หวังปลุกระดม
วันนี้ (29 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงเคลื่อนไหวกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออกว่า หากการชุมนุมไม่ผิดกฎหมายก็ชุมนุมไป ซึ่งในส่วนของรัฐบาลสามารถทำงานได้ตามปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่ตนอยากจะเรียนคือการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองควรเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองด้วยกัน ไม่ควรที่จะไปพาดพิงถึงประธานองคมนตรี หรือองคมนตรี เพราะความจริงแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ประธานองคมนตรี หรือองคมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยเฉพาะการกล่าวหาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เช่น กรณีที่ระบุว่าประธานองคมนตรีเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ประธานองคมนตรีวางมือทางการเมืองไปก็ไม่มีส่วนไหนที่จะมาเกี่ยวข้องทางการเมืองของพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะทราบอยู่แล้วว่าในตำแหน่งที่ท่านดำรงอยู่ในขณะนี้เป็นเรื่องยากที่จะให้ท่านมาชี้แจงหรือตอบโต้อะไร ไม่ควรอาศัยโอกาสนี้โดยคิดว่าท่านไม่อยู่ในฐานะที่จะมาชี้แจงได้มากนัก และไม่ควรฉวยโอกาสจากการที่ประชาชนส่วนหนึ่ง อาจจะไม่ทราบประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งประธานองคมนตรีดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นช่วงเวลาที่นานมาแล้ว และเป็นบุคคลที่ได้ช่วยทำให้บ้านเมืองพ้นภาวะวิกฤตมาในตอนนั้น หลังจากนั้นเมื่อดำรงตำแหน่งมา 8-9 ปี ก็เห็นว่าพอจึงเลิกไป จากนั้นได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐบุรุษ ฉะนั้นการที่ไปโจมตีท่าน หรือการกล่าวหาท่านคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม หากจะเรียกร้องอะไรทางการเมือง ควรจะเป็นเรื่องระหว่างนักการเมืองด้วยกัน
เมื่อถามว่า รัฐบาลดำเนินการอย่างไรได้บ้างนอกจากการออกมาพูดปกป้อง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมายก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่อยากจะให้ทุกคนได้ทราบข้อเท็จจริง และประชาชนคงมีวิจารณญาณเปรียบเทียบได้ ระหว่างการทำงาน คุณงามความดีของแต่ละบุคคลเป็นอย่างไร ฉะนั้น ตรงนี้เป็นข้อคิดที่อยากจะให้ไว้ ส่วนการเรียกร้องเพียงเพื่อประโยชน์ของกลุ่มบุคคลหรืออะไร ก็ไม่ควรที่จะก้าวล่วงไปถึงสถาบันอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลอยากจะยืนยันในจุดนี้ และจะดูแลหากมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการ
ต่อข้อถามที่ว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่พาดพิงสถาบันและโจมตีการทำงานของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งมองเห็นสถานการณ์ในปัจจุบันคงคิดค่อนข้างตรงกันว่าบ้านเมืองต้องการความสงบ อย่างที่เรียนคือ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วนรอบด้าน ไม่ใช่ว่าให้มีการฟังความข้างเดียว เพราะอย่างที่ยกตัวอย่างให้เห็นในแง่ประวัติการทำงานขององคมนตรีและองคมนตรี ย่อมยืนยันได้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสออกมาพูดและชี้แจงได้ตลอด
เมื่อถามว่า ความพยายามเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนต้องการบีบให้รัฐบาลเจรจาต่อรองในเรื่องต่างๆ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นความพยายามในส่วนผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่รัฐบาลต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาก่อน และต้องรักษาความถูกต้องในบ้านเมือง ซึ่งตนเคยเรียนหลายครั้งแล้วว่า การกลับเข้ามายอมรับกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างจะแก้ปัญหาของมันได้เอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกครั้งจะกระทบสถาบันสำคัญๆ รัฐบาลจะปกป้องได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประการแรกได้มีการดำเนินการบางส่วน แต่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เพราะรัฐบาลต้องดำเนินการในขอบเขตกฎหมาย ส่วนที่สองสังคมต้องช่วยกัน อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่เหมาะสม จะต้องออกมาตำหนิติติงกันบ้าง จะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่รอบด้านมากขึ้น
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินระบุว่าการกู้เงินของรัฐบาลเป็นการผลาญ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่จะวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลไม่เป็นไร ในส่วนของการกู้ยืมในช่วงที่ผ่านมาในเรื่องการขาดดุลงบประมาณเป็นเรื่องที่รัฐบาลที่แล้ว หรือรัฐบาลชุดก่อนโน้นก็ทำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่พยายามที่จะมาบิดเบือนว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ จริงๆ แล้วจังหวะเวลานี้ใครที่เรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นก็จะทราบว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วยซ้ำในการที่จะทำ เพราะไม่เช่นนั้นเราไม่มีอะไรที่จะปกป้องคุ้มครอง คนที่ตกงาน คนที่มีรายได้น้อย เกษตรกร ในยามที่เศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่มาจากภายนอกและรัฐบาลได้รับผลกระทบจากการเก็บรายได้ เพราะฉะนั้นการขาดดุลงบประมาณ ใครเรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นจะทราบว่าตอนนี้เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การกู้ยืมเงินมาเพื่อการลงทุนเป็นการเตรียมการสำหรับอนาคต และยืนยันว่าเราทำไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง ความจริงตนเห็นข้อเสนอที่เสนอมา ก็ไม่ได้พิเศษอะไรเลย โดยเฉพาะที่บอกว่า ไม่ให้กู้เงิน แต่ให้ไปแคะกระปุกคือเอาเงินสำรองออกมาใช้ ความจริงจะทำให้มีปัญหาอีกด้านหนึ่งด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ พุ่งเป้าไปที่รากหญ้า โดยเรียกร้องให้ช่วยเหลือสนับสนุนตัวเอง เพื่อกลับมาบริหารประเทศแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เขาก็สำรวจมาแล้วก่อนหน้านี้เอแบคโพลล์ก็สำรวจมาแล้ว ตนไม่เชื่อหรอก ว่าใครมาเป็นนายกฯแล้วจะไม่กู้เงินในตอนนี้ คนส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจเศรษฐศาสตร์ดี
ต่อข้อถามที่ว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่เป็นนักโทษ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ ความพยายามที่จะดำเนินการเราทำอยู่ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายจะทำอะไรนอกเหนือเกินเลยจากกฎหมายไม่ได้
เมื่อถามว่าการไปประชุมจี 20 จะแสดงจุดยืนอย่างไร หากสื่อมีการถามถึงสถานการณ์ภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวในแง่ของสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องภายในของเรา ขณะนี้เขาไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เขาจะเห็นว่าทุกอย่างเดินไปตามปกติ ส่วนใครจะใช้สิทธิเสรีภาพหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างก็ดำเนินการไป ซึ่งเวลานี้ก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ ปัญหาจริงๆ คือปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องมีการแก้ไขบนความมั่นคง และผลประโยชน์ของประชาชนจะเป็นใหญ่ ฉะนั้นยชาวโลกเขาสนใจใวนตอนนี้ว่า ทำอย่างไรเศรษฐกิจจะฟื้น ตนไปก็สนใจในแง่จุดยืนของเราในฐานะตัวแทนของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา หรือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเพิ่งเติบโตใหม่ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ภายในประเทศจะกระทบต่อการเจรจาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มี เพราะตอนนี้ได้ปรึกษาหารือกันนอกรอบมาอย่างต่อเนื่อง และได้คุยกับประธานาธิบดีของอินโดนีเซียเตรียมการเรื่องนี้ด้วยกัน นอกจากนี้ ทางนายกฯ กอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษก็ทำหนังสือมาเพื่อให้กำหนดว่าทำอย่างไรกับการใช้เวลาในการประชุมจี 20 ให้เกิดประโยชน์ ครอบคลุมประเด็นที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด
เมื่อถามว่า วันอังคารนี้มั่นใจหรือไม่รัฐมนตรี จะเข้าประชุม ครม.ในทำเนียบรัฐบาลได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันอังคารนี้ตอนเช้าตนจะเข้าถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากในวันพระราชสมภพ ตนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ขณะนี้โปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ ในช่วงเช้า หลังจากนั้นจะไปขึ้นเครื่องบินเดินทางไปร่วมประชุมจี 20 ทั้งนี้ระหว่างที่ตนไม่อยู่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีแทน อย่างไรก็ตาม ตนจะติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยแนวทางก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะเดินอย่างไร
เมื่อถามว่า โอกาสไปร่วมประชุมจี 20 จะคุยอะไรกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ในรายการทวิภาคีทั้งหลายยังไม่เรียบร้อย เพราะกำหนดการของผู้นำแต่ละคนค่อนข้างจะกระชั้นกันมาก แต่การพบปะอย่างไม่เป็นทางการ คงเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ฉะนั้นกำหนดการเวลานี้ไม่มีภารกิจที่ต้องเข้าทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าไปก็จะเข้า
ต่อข้อถามที่ว่า คิดว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจะบานปลายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราพยายามดูแลไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยและขอย้ำอีกครั้งว่า สังคมส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหาอีก และรัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า คิดว่ามวลชนคนเสื้อแดงจะเพิ่มจำนวนขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนไม่สามารถอบอกได้ เพราะเราเห็นความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในเรื่องตัวเลขของผู้เข้าร่วมชุมนุมบางช่วงก็มีมาก บางช่วงก็มีน้อย เป็นธรรมชาติของมัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเรียกร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าเรียกร้องอะไรแน่ ผู้สื่อข่าวบอกพ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้ยุบสาภา นายอภิสิทธิ กล่าวว่า เรียกร้องให้ยุบสภาแล้วจะแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ คงสับสนตัวเองอยู่
เมื่อถามว่า ขบวนการปรองดองจะช่วยอะไรได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนกระบวนการตรงนี้ทั้งหมด ถ้าใช้วิธีพูดทีละครั้ง พูดทีละคนจะมีแต่ความสับสน เดี๋ยวจะยุบสภา เดี๋ยวจะออกกฎหมาย ถ้ายุบสภาก็ออกกฎหมายไม่ได้ ถ้าจะให้ออกกฎหมายก็ต้องไม่ยุบสภา ถึงได้บอกว่าทั่งหมดนี้เอาเข้ามาอยู่ในกรอบของการทำงานเรื่องการปฏิรูปการเมือง เข้ามาพูดคุยกันหากมีความบริสุทธิ์ใจที่จะให้ระบบเดินหน้าเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็มาคุยกัน เปิดเวทีให้กว้าง รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว เข้ามาก็จบเรื่อง แต่การเรียกร้องแบบนี้เป็นความพยายามที่จะปลุกระดมกันมากกว่า
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีสมาธิในการทำงานได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีครับ มีสมาธิในการทำงาน เพราะตนสนใจงานของบ้านเมืองเป็นหลัก เมื่อถามว่า มองปลายทางการปลุกระดมหรือไม่ว่า ถ้าข้อเรียกร้องไม่สำเร็จ พ.ต.ท.ทักษิณจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ปัญหาของประชาชนให้เดินหน้า เมื่อถามว่า มั่นใจรัฐบาลจะอยู่ต่อไปได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวทันทีว่า มั่นใจครับ