นายกฯ เมินคำสั่ง “นักโทษแม้ว” ให้ยุบสภา ชี้ไม่ใช่ทางออกออกบ้านเมือง ย้ำการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการปฏิรูปการเมืองให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ส่วนใครถูกพาดพิงให้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง ชี้ชาวบ้านมีวิจารณญาณ ย้ำ “ม็อบแดง” ไม่กระทบการทำงานรัฐบาล
วันนี้ (28 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นากยรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการบีบบีงตับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มายังกลุ่มผุ้ชุมนุมคนเสื้อแดงว่า เห็นแต่ในข่าวถือเป็นเรื่องเก่าๆ ในส่วนรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาประชาชน ยังเชื่อว่ามีความกังวลกับเรื่องที่เป็นปัญหาในปัจจุบันและอนาคต ส่วนเรื่องความเป็นธรรม ได้ย้ำหลายครั้งว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอให้มาอย่าในกระบวนการที่เป็นไปเรียบร้อย ความหมายคือ ไม่ให้การแก้ปัญหาตรงนี้กระทบต่อการแก้ปัญหาของประชาชน ยังยืนยันว่าการแก้ปัญหาทางการเมืองก็แล้วแต่ ขอให้เข้ามาสู่กระบวนการ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ พูดทุกครั้งแต่ครั้งนี้มีการเปิดเผยชื่อบุคคลเกี่ยวข้อง หากพาดพิงบุคคลใด ท่านก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการกระทำใดที่เป็นการผิดกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
เมื่อถามอีกว่าจะทำอย่างไรหากประชาชนเชื่อในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าประชาชนมีวิจารณญาณ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องอธิบายข้อเท็จจริง แต่ในส่วนของรัฐบาล อย่างที่เรียนคิดว่าขณะนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการคือ การแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง เพราะถือว่า ประชาชนทุกข์มามากใน 2-3 ปีที่ผ่านมา วันนี้รัฐบาลยืนยันว่าความขัดแย้งทางการเมืองทั้งหลาย พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรม และพร้อมที่จะให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ขออย่าให้กระบวนการนี้กระทบต่อการแก้ปัญหาของประชาชน ส่วนการเสนอให้ยุบสภาไม่แน่ใจว่าข้อเสนอเป็นอย่างไรแน่
ถามว่า รัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอความปรองดอง การล้างไพ่ นายอภิสิทธิ์กล่าวแย้งว่า ยังไม่รู้ว่าข้อเสนอจริงๆเป็นอย่างไร เพราะแต่ละครั้งเสนอไม่เหมือนกัน การที่จะเสนอให้ยุบสภานั้น เมื่อก่อนไม่ได้เสนออย่างนี้ การยุบสภา หรืออะไรก็ตามที่เป็นการเปลี่ยนแปลงตามวิถีทางประชาธิปไตย เมื่อถึงเลาที่เหมาะสม เมื่อมีเงื่อนไขที่เหมาะสมก็สามารถดำเนินการได้ ถ้าเราไปเลือกตั้งแล้วมีกลุ่มซึ่งขัดแย้งกันแบบนี้รุนแรง แม้กระทั่งมีการขัดขวางการเดินทางอะไรกัน คงไม่สามารถจะเป็นการเลือกตั้งที่จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนคิดว่ากระบวนการที่จะคลี่คลายปัญหาการเมืองที่ดีที่สุดคือ การมาพูดคุยเพื่อวางแนวทางร่วมกัน จะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน คงจะเป็นการเรียกร้องจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะความเห็นในสังคมมีความหลากหลาย
เมื่อถามว่าจะมีการทำความเข้าใจกับนายชุมพล ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่เห็นด้วยกับการคตั้งสถาบันพระปกเกล้าเป็นแกนนำในการปฏิรูปการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายชุมพล ได้ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวไม่มีอะไรขัดแย้ง เพียงแต่ นายชุมพลมองว่า เรื่องอาจทำได้เร็วขึ้น เราสามารถพูดคุยกับคนที่เข้าสู่กระบวนการได้ ในช่วงการประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา และจริงๆสิ่งที่นายชุมพลพูดกับสิ่งที่ตนเสนอไปก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน คือการดูภาพใหญ่ของการปฏิรูปไม่ได้ใช้เวลานาน หากมีบางประเด็นที่ทำได้ก่อนก็ไม่ได้ปฏิเสธ ส่วนระยะที่ 2 มีเรื่องอื่นที่ต้องเพิ่มเติมสามารถทำได้
เมื่อถามว่า การเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบที่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา รัฐบาลก็เดินหน้า เมื่อถามอีกว่า นานเข้าดูเหมือนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะปลุกระดมให้เสื้อแดงเคลื่อนไหวหนักขึ้น รัฐบาลจะทำงานลำบากหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นความรุนแรง ถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นไม่มีใครได้ แม้แต่ฝ่ายที่เรียกร้องถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นมาก็ไม่เป็นประโยชน์ ดีที่สุดคือ เข้าสู่กระบวนการของการพูดคุยกัน รัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าจะคุยกันได้เมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาติดภารกิจ แต่เชื่อว่าภายหลังจากกลับจากเดินทางประชุม จี 20 คงจะพูดคุยกันได้ ส่วนจะพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่นั้นคงไม่ เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่ต้องพูดคุยกันก่อน ถ้าพรรคการเมืองสามารถกำหนดกรอบ วิธีการ กลไกได้ ก็เป็นเรื่องของกลไกที่จะดูว่าจะมีใครมาดำเนินการบ้าง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศชัดว่าจะไม่ลงเลือกตั้งครั้งหน้าหากมีการนิรโทษกรรมขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาต้องดูภาพรวมกับคนส่วนใหญ่
