"ประธานองคมนตรี" เผย ไม่เคยฟัง "แม้ว"โฟนอินแม้แต่ครั้งเดียว ย้ำอีกครั้งไม่เกี่ยวข้องรัฐประหาร 19 กันยา โปรดเข้าใจให้ถูก องคมนตรีไม่เกี่ยวข้องการเมือง เตือนหลายครั้ง แต่ไม่ฟังไม่หยุด พร้อมโยนถามรัฐบาลจัดการ “ทักษิณ” ทำบ้านเมืองแตกแยก พร้อมชม “อภิสิทธิ์” คนดี ขอเชียร์นำพาประเทศพ้นวิกฤติ ขณะที่ “สุรยุทธ์” รับเคยถูกเชิญหารือถึงสถานการณ์วิกฤติบ้านเมือง แต่ไม่เกี่ยวข้องเหตุปฏิวัติ
วันนี้(25 มี.ค.) ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียติ หนองจอก เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่นที่ 11 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง หลังจากนั้น พล.อ.เปรม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินพาดพิงองคมนตรี ซึ่งอาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานว่า คำถามนี้ไม่น่าจะถามตน เพราะตนไม่ได้ดูแลประเทศ ต้องเป็นรัฐบาล
เมื่อถามว่า การโฟนอินที่พาดพิงองคมนตรีจะส่งผลกระทบทำให้ชาติเกิดความแตกแยกหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า “เอาอย่างนี้นะ ผมไม่เคยฟังคุณทักษิณเลย และท่านพูดกี่ครั้งกี่ครั้งผมก็ไม่เคยฟังเลย เพิ่งเมื่อวานนี้ผมถาม พล.อ.สุรยุทธ์ ให้ลองเล่าให้ฟังซิ ว่าเขาพูดอย่างไร เพราะผมไม่เคยฟังว่าเขาพูดอย่างไร”
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าคำพูดของ พ.ต.ท..ทักษิณ จะบิดเบือนข้อเท็จจริง พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตนคงตอบคำถามนี้ไม่ได้ เพราะไม่ได้สนใจว่าเขาพูดว่าอย่างไรด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่า เมื่อได้ฟัง พล.อ.สุรยุทธ์ รายงานถึงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วรู้สึกอย่างไร พล.อ.เปรม นิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวว่า รู้สึกว่าพูดบ่อย ๆ แล้ว จริงไม่จริงตนก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่ได้สนใจ
เมื่อถามว่า อยากฝากประชาชนคนไทยหรือไม่ เพราะประเทศไม่เคยแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายถึงขนาดนี้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า คำถามนี้ดี ซึ่งมันไม่ใช่คำถาม แต่เป็นสิ่งซึ่งเป็นความสำนึกที่จะต้องไม่แตกแยกกันเพื่อส่วนรวม
เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านอยากให้คนไทยหันมาสามัคคีปรองดองเพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอดใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวสั้น ๆ ว่า ใช่
เมื่อถามว่า อยากบอก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดการเคลื่อนไหวหรือไม่ และจะมีการเตือนหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า คุณพูดไปแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าท่านอยากเตือนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพูดเพื่อให้ประเทศชาติไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า เตือนมาหลายครั้งแล้ว และเตือนบ่อย ๆ ที่จริงการจะพูดว่าคนไทยแตกแยกไม่ถูก มีบางส่วนเท่านั้นเป็นส่วนน้อย ไม่ใช่ส่วนใหญ่ คนไทยส่วนใหญ่ยังรักใคร่กันดี และยังมีความเป็นไทยอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า การโฟนอินบ่อย ๆ จะทำให้ประชาชนเปลี่ยนความคิด ทางทหารจะมีส่วนช่วยเหลืออย่างไร ในการสร้างความสามัคคี พล.อ.เปรม กล่าวว่า น่าจะไปถามทหาร ทั้งนี้ทหารคือส่วนหนึ่งขององค์กรของชาติบ้านเมือง เขาก็รักชาติบ้านเมืองเหมือนกัน และทุกคนคงมีความเห็นใกล้เคียงกัน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ปักใจเจ็บว่าองคมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 พล.อ.เปรม กล่าวว่า ท่านพูดของท่านเอง ตนไม่รู้
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าองคมนตรีไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ไม่มีหน้าที่ที่จะไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้เลย โปรดเข้าใจให้ถูกถ้าใครยังไม่เข้าใจ โปรดเข้าใจให้ถูกว่าองคมนตรีไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองเลย เราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ
เมื่อถามว่า จะพูดได้หรือไม่ว่าปัญหาความแตกแยกที่เกิดขึ้น เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว พล.อ.เปรม ย้อนถามกลับสื่อมวลชนว่า คุณคิดเองก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการฟ้องร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะทำให้องคมนตรีเสื่อมเสียชื่อเสียง พล.อ.เปรม หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า “ผมว่าคงไม่ฟ้อง เพราะว่าผมไม่ทราบว่าท่านพูดอย่างไร”
เมื่อถามว่า ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพุ่งเป้ามาที่องคมนตรี แสดงว่าเป็นการสื่อถึงอะไร พล.อ.เปรม ย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “คุณก็ตอบเองซิ ผมไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างไรนะ”
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่กลับทำร้ายประเทศของตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณ ควรทบทวนบทบาทของตัวเองหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า คุณถามเองตอบเองก็ได้แล้ว
เมื่อถามว่า การกล่าวพาดพิงองคมนตรีจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ไม่มี เราทำงานของเราตามปกติ
เมื่อถามว่า ท่านอยากเห็นประเทศชาติของเราเป็นอย่างไรในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พล.อ.เปรม กล่าวว่า อยากเห็นเหมือนสื่อมวลชนเห็น
เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจรัฐบาลในส่วนไหนบ้าง พล.อ.เปรม กล่าวว่า รัฐบาลนี้ดี และตนก็เคยพูดว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ดี ดังนั้นเราคงจะหวังได้ว่า ท่านจะเป็นผู้นำที่ดี และจะทำให้ประเทศดีขึ้น
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะสามารถนำพาวิกฤตของประเทศได้หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวสั้น ๆ ว่า “ผมเชียร์”
จากนั้น พล.อ.เปรม ได้เอ่ยถามสื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่ามาหรือไม่ เพราะเมื่อเช้าหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ลงข่าวว่า รมว.ต่างประเทศของจีนจะเข้าพบตนในเวลา 15.00 น. ถือเป็นเรื่องจริง เพราะนัดกันไว้ ซึ่งหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ลงว่า ตนจะพูดกับ รมว.ต่างประเทศของจีน เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมันไม่จริง เพราะตนไม่มีหน้าที่ต้องทำอย่างนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล
เมื่อถามว่า จะหารือกับ รมว.ต่างประเทศของจีน เรื่องใดบ้าง พล.อ.เปรม กล่าวว่า มาเยี่ยมเยือนกัน พูดภาษาการทูต พูดภาษาดอกไมแค่นั้นไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า เหตุใด รมว.ต่างประเทศจีน ถึงได้มาพบท่าน พล.อ.เปรม กล่าวว่า เพราะเป็นเพื่อนกันจึงมาเยี่ยมกัน
เมื่อถามว่า จะฝาก รมว.ต่างประเทศของจีน ให้ส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กลับมาหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า พูดไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเรา
หลังจากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมองคมนตรีเมื่อวันที่ 24 มี..ค.ที่ผ่านมาว่า ประธานองคมนตรีได้พูดไปแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นห่วงในเรื่องของความแตกแยกของประชาชนคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้มีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้มีการแสดงความเป็นห่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวพาดพิงองคมนตรีหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นสถานการณ์ที่ทำให้ได้มีการพูดกัน ซึ่งทุกท่านคงได้ทราบแล้ว เพราะมีการรายงานจากสื่อต่าง ๆ ไปแล้ว
เมื่อถามว่า เป็นห่วงจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของทำเนียบองคมนตรีหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะทำงานในฐานะที่เป็นที่ปรึกษา ซึ่งคงมีการรวบรวมข้อมูลบ้างเป็นธรรมดาของที่ปรึกษา หากนั่งอยู่เฉย ๆ ก็คงไม่สามารถตอบคำถามได้
เมื่อถามว่า องคมนตรีส่วนใหญ่ไม่สบายใจเกี่ยวกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พูดคุยกันแล้วในที่ประชุม ส่วนจะไม่สบายใจหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ได้มีการหารือกันในที่ประชุม
เมื่อถามว่า ทางออกขณะนี้ควรเป็นอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่เราเองก็ตระหนักในสิ่งเหล่านั้น คงไม่เข้าไปก้าวก่ายในหน้าที่ของส่วนอื่น ๆ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่อยู่แล้วที่จะต้องดำเนินการ
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวท่านคิดว่าจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่มีข้อคิดเห็นส่วนตัว
เมื่อถามว่า จากการประชุมองคมนตรีจะมีการเสนอให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี เราพูดกันถึงว่าเป็นเรื่องที่มีความเป็นห่วงเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินแฉรอบสองในวันที่ 26 มี.ค.นี้ มีความหนักใจหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า อย่างที่เรียนไปแล้ว ตนไม่มีอะไรพูดไปมากกว่านั้น เพราะเรื่องความจริงจะต้องเปิดเผยออกมา เราไม่สามารถจะไปปิดบังความจริงได้ ยืนยันตรงจุดนี้ว่าความจริงจะต้องเปิดเผย
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นลูกผู้ชาย ว่าหากทำสิ่งใดก็พร้อมที่จะยอมรับ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า กล่าวว่า คงไม่ต้องไปยืนยัน แต่ตนเชื่อในกฎแห่งกรรม ไม่ว่าชายหรือหญิงต้องรับกรรมทั้งสิ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ท่านมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในการประชุมก่อนที่จะมีการทำรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการรัฐประหาร ซึ่งแน่นอนตนก็มีเพื่อน และมีคนที่รู้จัก ตนก็ต้องมีการพูดคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา และการพูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเราทุกคนที่สนใจ และเป็นห่วงเรื่องของบ้านเมือง เมื่อถามว่า ได้มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองประชุมกันจริงหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับการประชุม ไม่ได้เป็นลักษณะการประชุม
“ไม่ได้เป็นเซฟเฮ้าส์เลย ไม่ได้ลึกลับ เชิญมาเราก็ไป พูดคุยสถานการณ์การเมือง เพราะตอนนั้นบ้านเมืองมีปัญหา เราไม่ได้เป็นเป็นคนไปนัดเลย ส่วน พล.อ.พัลลภ ก็ถูกเชิญมาเหมือนกัน คนที่เชิญเป็นใครนั้น ก็ขอให้ไปถามคนที่พูดเอง ไม่ได้ไปวางแผนปฏิวัติเลย ยิ่งเราอยู่ในสถานะตรงนี้ไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร แต่บ้านเมืองมีปัญหา เชิญเราไปพูดคุยเราก็ไป เท่านั้นเอง “ พล.อ.อสุรยุทธ์ กล่าวว่า
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติครั้งที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้ยืนยันไปแล้วไม่ขอพูดซ้ำในเรื่องที่พูดไปแล้ว
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ท่านมีความเจ็บแค้นที่ได้มีการย้ายอออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะตนเข้าใจดีในช่วงที่เป็น ผบ.เหล่าทัพ ก็เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะโยกย้ายผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาทำงาน เมื่อตนเป็น ผบ.ทหารสูงสุด เองก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีความแค้นเคือง หรือ ย่อท้อ และทำตามหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ในทุก ๆ ตำแหน่ง