xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” สวน “นช.แม้ว” ยันไม่เคยกินข้าวกับองคมนตรี-จวกสภาไร้เกียรติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ชี้ศึกอภิปราย สะท้อนภาพ สภาไร้เกียรติ เปลือย “เป็ดเหลิม-สากกะเบือ” ล่อนจ่อนเป็นโมฆะบุรุษ จวก “แม้ว” โฟนอินเลอะเทอะ ไม่รู้ถูกรู้ผิด หวังแค่ปลุกเสื้อแดงป่วนชาติ เพื่อประโยชน์ตัวเอง พร้อมยืนยันไม่เคยไปกินข้าวกับองคมนตรี ตามคำกล่าวหา “นช.แม้ว” วอน “มาร์ค” กล้าเชือดตำรวจ หลังอภิปรายผ่านฉลุย คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ พังอีกรอบ หลังพิมพ์แบงก์ 3 แสนล้านดอลล์ ซื้อพันธบัตรคืนจากจีน


คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand"

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2552 ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำเสนออย่างหลากหลายเช่นเคย

“สวัสดีครับท่านผู้ชม และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อยู่ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2552 เหมือนเช่นเคยนะครับ Good Morning Thailand สวัสดีตอนเช้าประเทศไทย ที่เริ่มด้วยเสียงใหญ่ๆ ของ Louis Amstrong โลกมันช่างวิเศษเช่นนี้ ช่างสวยสดงดงาม ช่างน่าอยู่อะไรแบบนี้

จริงๆ แล้วโลกใบนี้มันก็ดูน่าอยู่ครับ ถ้าเรารู้จักปล่อยวางบ้าง เรื่องราวต่างๆ นั้น มันเป็นเรื่องราวที่สมมติทั้งสิ้น ทุกอย่างมีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การต่อสู้ช่วงชิงอำนาจ การพยายามกลับมามีอำนาจ การทำทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนอย่างที่คุณทักษิณพูด คุณทักษิณได้โฟนอินมาเมื่อวานนี้มั้ง ในงานเชียงใหม่ คุณทักษิณก็โฟนอินในคำพูดที่ ผมคิดว่าคุณทักษิณเอง ต้องเข้าใจนะครับ และคุณทักษิณเองก็เหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจ น่าสนใจมากคุณทักษิณ บอกว่า ทุกคนมันก็ต้องตายกันทั้งนั้น ให้เลิก ลด ละ นี่คือ ปัญหาใหญ่คุณทักษิณคือ การไม่รู้จักตัวเอง

ผมจำได้สมัยที่ผมบวช ผมบวชครั้งแรกสุดผมบวชปี พ.ศ.2541 บวชกับหลวงพ่อญาท่าน วัดกุดโพนทัน จ.หนองบัวลำภู ผมบวชที่นั่น สิ่งแรกที่พ่อแม่ครูอาจารย์สั่งผมคือว่า ให้ผมไปอยู่กุฏิแยกโดดเดี่ยวเลย ไม่ให้รวมกับใคร และไม่ให้ใครเจอผมด้วย และไม่ให้ผมพูดกับใคร ท่านบอกจะได้อยู่กับตัวเอง จะได้รู้จักตัวเอง จะได้เข้าใจว่าตัวเองนั้นคือใคร ผมคิดว่าเรื่องสำคัญมาก จะต้องรู้ถ้าคนๆนึงไม่รู้จักถ้าไม่รู้จักว่าตัวเองคือใครแล้ว ทำอะไรไว้บ้าง ถูกผิดชั่วดีอย่างไร จะมาอ้างธรรมะ แบบเลอะเทอะอย่างนี้ก็ไม่มีความหมาย

วันนี้เรามีข่าวแจกของนะครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แคลิฟอร์เนีย คือ คุณสาคร คุณวรรณา ศิริรัตน์ คุณสุชาติ คุณอรวรรณ คุณโจ คุณกัลยา จิระประภาสุข ได้ทำเสื้อมาขาย คือ PAD CONCERT@ LOS ANGELES MARCH 14 2552 นะครับ Size เป็น Size L นะครับ มีอยู่ 3 ตัวเท่านั้น คนที่โทรศัพท์เข้ามาสายที่ 10 , 20 และ 30 ก็จะได้รับเสื้อตัวนี้ไป เสื้อตัวนี้ทีมงานของ ASTV ที่เพิ่งกลับมาหลังจากที่ไปเที่ยวกันอย่างโชกโชน โดยผ่าน 193 วันที่เหน็ดเหนื่อยสาหัส ก็ไปทำเรื่องคอนเสิร์ตการเมือง เที่ยวอย่างโชกโชน และปล่อยให้ผมรีบกลับมาก่อนเพื่อน เพื่อที่จะมาลำบากยากเย็น ทนทรมานสังขารอยู่ พวกเขาก็กลับมาอย่างมีความสุข ความสบาย ไม่เป็นไรครับ วันหลังผมค่อยเอาคืนทีหลังบ้าง

พ่อแม่พี่น้องครับ ท่านผู้ชม วันนี้ก็มีข่าวเหมือนเดิมนะครับ สรุปง่ายๆ ก็คือ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยสรุปง่ายๆ ก็คือข่าวเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จริงๆ แล้วมีการ์ตูนผู้จัดการอยู่ 2 ชุด ซึ่งผมคิดว่าสามารถจะอธิบายได้คร่าวๆ พอสมควร ชุดแรกเอาชุดของโอบามาร์ค ก่อนได้ไหมครับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นัยที่แท้จริง และพฤติกรรมที่เห็นคืออะไร นี่เป็นรูปการ์ตูนในผู้จัดการ ASTV วันนี้ครับ เขียนว่า “ไมตรีจิตระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลในสภาวันก่อน” คุณ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีอาชีพเปิดเต็นท์ขายรถ และทำอู่ซ่อมรถพรรคเพื่อไทย ก็บอกว่าหิวหรือ “เอากล้วยไปกิน” ส่วนอีกฝั่งคือ คุณรณฤทธิชัย คานเขต ก็ยื่นกล้วยให้เหมือนกัน ก็บอกว่า “ลื้อก็กินซิ เอ้า อั๊วป้อนให้” กล้วยนั้นเป็นสัญลักษณ์ของลับ ซึ่งเขาพูดกันเป็นภาษาควาย ที่ตกสระอาไปในสภา ได้ยินอย่างเด่นชัด มันก็เลยทำให้วันนี้ อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ ได้เขียนบทความลงใน ASTV ผู้จัดการ ถึงสภาจกเปรต สภาบัดซบ ไปอ่านดูครับ มีเรื่องราวต่างๆ ซึ่งไม่ใช่น่าสังเวช มันเป็นโรคเรื้อรังของสังคมการเมืองเมืองไทย

การเมืองเมืองไทยมันจะไม่มีวันเจริญหรอก ถ้าหากเราไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ยิ่งเห็นเรื่องราวต่างๆวันนี้ ยิ่งเห็นคำพูด หรือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ที่พระราชดำรัสที่ออกมาแล้วใช้ได้กับทุกวงการ ที่พระองค์ท่านตรัสว่า ผู้ใดมีหน้าที่อะไรให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อันนี้เป็นหลักธรรมขั้นสูงพี่น้อง ใครเป็นตำรวจก็เป็นตำรวจที่ดีที่สุด ตำรวจที่ตงฉิน ตำรวจที่ดำรงความยุติธรรม ไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ถ้าเป็นข้าราชการก็เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ถ้าเป็นพ่อค้า ต้องเป็นพ่อค้าที่มีคุณธรรม ถ้าเป็นครูต้องเป็นครูที่รักนักเรียน รักการเรียนการสอน รักที่จะให้ความรู้แก่เด็ก รักที่จะดูแลเด็กเหมือนลูกเหมือนหลาน เหมือนกัน

การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ การถูกเลือกตั้งเข้ามา เขาถึงเรียกกันว่าท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แต่บทบาทของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แต่ไหนแต่ไรแล้ว มันไม่เคยเป็นส่วนสนับสนุนสถานภาพของสภาอันทรงเกียรติ วงเล็บนะครับ ได้มีเกียรติจริงๆเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรืออาจจะเป็นเพราะว่าที่มาของ ส.ส.นั้นมันสกปรก น้ำเน่า เราก็เลยได้ ส.ส.ส่วนใหญ่ที่มีธาตุแท้เป็นกุ๊ย เป็นสถุลเข้ามา บางคนเป็นนักเลงหัวไม้ บางคนเป็นมาเฟียแถวบ่อนดอนเมือง กระทำตนกระโดดถีบหน้าอก อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แล้วก็อย่างที่เห็นเมื่อวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยกนิ้วกลางให้ หรือว่ามันจะถึงจุดจบของการเมืองน้ำเน่าไปแล้ว เห็นเราพูดเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ คนเบื่อมาก อภิปรายอย่างไรก็ตาม ถ้าตราบใด ส.ส. หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้คำนึงถึงเกียรติยศที่ตัวเองได้มาในการเป็น ส.ส.และพยายามรักษาเกียรติอันนั้นไว้ เหมือนกับคำโบราณที่เขาบอกว่า “เกียรติศักดิ์รักของข้า มอบไว้ให้แก่ตน” ถ้าคนไม่เข้าใจในเกียรติตรงนี้ หรือเก็บ รักษาเกียรติตรงนี้เอาไว้ ต่อให้คุณเป็น ส.ส.ที่คนขานว่าผู้ดับเบิลทรงเกียรติ ก็ไม่มีความหมาย

จริงๆ แล้วเกียรติ มันไม่ได้อยู่ที่การเป็น ส.ส.หรือเป็นรัฐมนตรี บางคนเป็นรัฐมนตรี ไปไหนมาไหนข้าราชการเดินกุมเป้ากางเกง และโค้ง มีคนบริการให้ มีคนนำทางให้ แหวกทางให้ นั่นคือเกียรติภายนอก แต่เกียรติภายในรัฐมนตรีคนนั้นเป็นคนที่คดโกง ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ทำทุกวิถีทางที่ให้ตนเองได้ประโยชน์ ไม่คำนึงถึงส่วนรวม เพราะฉะนั้นเกียรติในลักษณะนั้น พี่น้องครับ ไม่มีความหมายเลยแม้แต่นิดเดียว

การอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกอัน ก็สามารถจะอธิบายด้วยภาพของโอบามาร์ค เหมือนกันนะครับ โดย บัญชา-คามิน เป็นภาพมวยที่ชกกัน มีเสียงคนพากย์ คุณมาร์คของพวกเรานั่งอยู่ ก็ประกาศว่า “แก๊ง” ระฆังนะครับ “ยกที่ 1 คุณเฉลิมพุ่งเข้าแย็บซ้าย แย็บขวา ฮุกเข้าลำตัว จนคู่ต่อสู้งอตัวลงไป สลับกับเข่าศอก เข่าศอก คู่ต่อสู้ล้มแล้วครับ” โอบามามาร์ค ก็หาว “ต่อมา คุณเฉลิม ก็ตามเข้าไปซ้ำ พุ่งหมัดใส่ฝ่ายตรงข้าม แตกแล้วครับ แตกแล้ว คุณเฉลิมยังไม่หยุด กลับตามเป็นชุด” ในที่สุดคนดูทนไม่ไหว เลยบอกว่า “พี่เหลิม นั่นคุณประดิษฐ์ อภิสิทธิ์ อยู่บนเวทีนี้” การ์ตูนอันนี้ก็สะท้อนให้เห็นชัดว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ไร้สาระมาก เพราะถ้าอภิปรายการทำงานของท่าน นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ดันไปอภิปรายเบื้องหน้าเบื้องหลังข้อกล่าวหาว่า คุณประดิษฐ์ เป็นคนฟอกเงินโฆษณา อันนั้นเป็นอีกเรื่องนึง

จริงๆ แล้วเรื่องการฟอกเงินถ้ามีหลักฐานจริงไม่ต้องอภิปรายหรอกครับ เอาหลักฐานยื่นให้ กกต.ทันที แล้วให้สัมภาษณ์ เปิดให้สัมภาษณ์ทันทีเลย ยังจะดีเสียกว่าไปเสียเวลาไปโชว์ตัวเอง ว่าตัวเองรู้ข้อมูล เป็นเรื่องที่น่าสนใจ พี่น้องจำได้หรือเปล่า ท่านผู้ชม ผมเคยพูดครั้งนึงว่า ลักษณะคุณเชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ หรือที่เขาเรียกว่า สากกระเบือ หรือคุณเฉลิม อยู่บำรุง เป็นลักษณะที่มาถึงจุดๆ นี้ในสังคมไทย ในวันนี้ เวลานี้ กลายเป็นคนที่พูดอะไรแล้วไม่มีใครเชื่อ เหมือนเป็นโมฆะบุรุษไปแล้ว ไม่ว่าท่านจะแสดงออกอย่างไรก็ตามบนเวทีในสภา ด้วยท่าทีที่ขึงขัง ด้วยชาร์ตต่างๆ ท่านอธิบาย พูดจากระแนะกระแหน ประชดประชัน ข่มขู่ แต่พออภิปรายจบ เอเเบคได้ทำโพลล์ออกมาทันทีเลย น่าสนใจมากท่านผู้ชมครับ ประชาชนส่วนใหญ่บอกว่า คำพูดของคุณเฉลิม ไม่น่าเชื่อถือ คำว่า ไม่น่าเชื่อถือ คุณเฉลิม อาจจะเอาข้อมูลที่ถูกต้องมาก็ได้ แต่ว่าในอดีตที่คุณเฉลิมทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะมาตลอด พูดอะไรไม่เคยตรงต่อความจริง พูดอย่างทำอย่าง มันเลยเป็นตราบาปที่อยู่ในตัวคุณเฉลิมมาตลอด และพฤติกรรมของคุณเฉลิมในอดีตที่เป็นนักการเมือง และมีลูก ซึ่งมีปัญหากับสังคม เป็นที่รับทราบกันมาตลอด

เมื่อเป็นที่รับทราบกันมาตลอดแล้ว มันเลยทำให้การพูดจาของคุณเฉลิม ไม่ว่าจะตั้งใจเพียงแค่ไหน หรือข้อมูลไม่ว่าจะแม่นยำ หรือถูกต้องเพียงแค่ไหน ไม่มีความหมายเลยท่านผู้ชม ไม่มีสาระเลยแม้แต่นิดเดียวท่านผู้ชม น่าเสียดายมาก น่าเสียดายตรงที่คุณเฉลิม ไม่รู้จะรู้จักหยุดคิดหรือเปล่าว่าตัวเองเล่นการเมืองมาหลายสิบปีแล้ว แต่พอมาอายุ 61, 62 ปรากฏว่ากลายเป็นโมฆะบุรุษ ไปเรียบร้อยแล้ว พูดจาไม่มีใครเชื่อถือเลย อันนี้มีหลักฐานจากโพลที่ออกมา อันนี้เป็นเรื่องซึ่งต้องเตือนให้คุณเฉลิมทราบนิดนึงนะครับว่านี่คือจุดจบในชีวิตของคุณนะครับ

สุดท้าย การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ก็สามารถที่จะอธิบายได้เหมือนกันจากการ์ตูนของ “ยุคหล้อย” หล่อ + ห้อย คือ อภิสิทธิ์ + เนวิน หล่อ คือ มาร์ค ห้อย คือ เนวิน หล่อ + ห้อย เขาเรียก ยุคหล้อย ช่องที่ 1 มีเป็นรูปคุณทักษิณ ยืนอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วก็มีลูกน้องรายงานมา “นาย จะโทร.มาบอกผลอภิปรายว่า แถวๆ นั้นมีร้านค้าไหม” คุณทักษิณ ถามว่า “มี ถามทำไม” ลูกน้องก็พูดต่อ “ก่อนอื่น นายไปซื้อกระโถนเตรียมไว้ก่อน” คุณทักษิณก็งง “วะ จะบอกผลอภิปราย ให้อั๊วซื้อกระโถนทำไม” ลูกน้องก็บอกว่า “เอาไว้รองตอนกระอักเลือดที่รู้เรื่องงูเห่าในพรรคเรา กลุ่มเบ้อเริ่ม”

อันนี้ก็เป็นบทบาท หรือว่าเป็นเรื่องราวอีกอย่างที่พิสูจน์ชัดว่า การเมืองในขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร ในพรรคเพื่อไทยนั้นรวนเรอย่างมากมาย อย่างน้อยที่สุด หลายๆ คนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย อาจจะไปรับปากคุณเนวินแล้ว ว่างวดนี้จะต้องมาอยู่พรรคภูมิใจไทยแน่ เพราะฉะนั้นแล้ววิธีแสดงออกให้เห็นถึงว่าตัวเองนั้นพร้อมจะมาอยู่ภูมิใจไทย ก็คือต้องทำตามที่คุณเนวินบอก ประเด็นคุณเนวิน ต้องการให้คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อค้านักการเมือง พ่อค้าที่เข้ามาเล่นการเมือง เพื่อหวังผลทางการเมืองไปช่วยกิจการของตัวเองนั้น และคุณบุญจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทั้งคู่เป็นเด็กสร้างของคุณเนวิน ชิดชอบ ทั้งคู่ เขาต้องการจะให้เห็นว่า เนวิน นั้นมีอำนาจ มีบารมีพอ ที่จะให้คนมาลงคะแนนเสียงให้ คุณชวรัตน์ สูงที่สุดคือ 246 เสียง ก็สูงเท่ากันละครับ แต่ว่าที่ไม่ไว้วางใจต่ำที่สุด คือ 167 คือ พูดง่ายๆ ว่า ความไว้วางใจนั้นเท่ากันหมด ยกเว้น ท่านทูตกษิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 237 คือคุณประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คุณกรณ์ จาติกวณิช คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล และคุณบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ได้คะเเนนเสียงไว้วางใจ 246 เท่ากันหมด ยกเว้น ท่านรัฐมนตรีกษิต 237 หายไป 9 เสียงแปลว่าอะไร แปลว่า 9 เสียงไม่ได้มาจากไหนหรอก มาจากพรรคร่วมด้วยกัน หลายคนซึ่งไม่พอใจ

ส่วนคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจมากที่สุด คือ คุณกษิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 184 เสียง รองลงมา คือท่านนายกรัฐมนตรี คือ 176 เสียง รองลงมาคือ คุณประดิษฐ์ คุณกรณ์ 174 คะแนนเสียงไม่ไว้วางใจน้อยที่สุด คือ คุณชวรัตน์ 167 เสียง ตรงนี้แหละครับ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เพราะการลงคะแนนเสียงในสภาของประเทศไทยไม่ได้บอกอะไรเลยพี่น้อง กลับบอกให้เห็นว่าใครกำลังจะไปอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร ย้ายไปกับใคร ตรงนั้นมากกว่าพี่น้อง ท่านผู้ชม

เพราะฉะนั้นแล้ว บทบาทของรัฐสภาไทยจึงเป็นบทบาทที่มีปัญหามาก มีปัญหาในเรื่องของบุคลากร มีปัญหาในเรื่องของกระบวนทัศน์ มีปัญหาในเรื่องของวิธีคิด และที่สำคัญที่สุดมีปัญหาในเรื่องของจริยธรรม ศีลธรรม คุณธรรม และพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่ได้ทำตนให้เหมาะสม กับคำว่า ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ

ก็อย่างที่พี่น้องและท่านผู้ชมเข้าใจดีว่า ในสภานั้นก็พยายามที่จะป่วน ถ้าล่มได้ก็ล่ม ล้มไปเลย เมื่อล้มในสภาไม่ได้ ก็ต้องหาเรื่องกันนอกสภา กระบวนการหาเรื่องนอกสภาก็มีหลายกระบวนการเหลือเกิน จากการซึ่งจะชุมนุมคนเสื้อแดงวันที่ 26 มีนาคมนี้ แต่ก่อนชุมนุมคนเสื้อแดงก็วางแผนเอาไว้แล้ว ว่าจะไปชุมนุมที่เชียงราย เชียงใหม่ และชัยภูมิ ได้มีการเตรียมกันอย่างดี มีการจัดรถ มีการจัดตั้งกันเรียบร้อย เงินทองก็แจกกันเรียบร้อย

ที่เชียงราย ผมเคยพูดให้ท่านผู้ชมและพี่น้องพันธมิตรฯ ฟังเมื่อ 2-3 วันที่แล้วนะครับว่า ผมตั้งข้อสงสัยถึงอธิการบดีมหาวิทยาราชภัฏเชียงราย ว่าท่านคิดอย่างไรถึงให้กลุ่มคนพวกนี้ไปจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนในมหาวิทยาราชภัฏการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนถ้าจะทำกันจริงๆ ก็ทำได้ ไปเช่าสถานที่ก็ได้ แต่สถาบันการศึกษา ซึ่งตัวสถาบันการศึกษาไม่เคยที่จะตอบสนองการขอเสนอไปจัดรายการให้ความรู้ประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ว่าสถาบันการศึกษานี้กลับเปิดตัวอย่างเต็มที่ ผมก็เลยอยากจะบอกว่า ท่านอธิการบดีมหาวิทยาราชภัฏเชียงราย และท่านอาจารย์บางคนในมหาวิทยาราชภัฏเชียงราย ท่านอาจจะต้องเสริมปัญญาท่านมากกว่าเก่านิดนึงนะครับ ไม่ได้ว่าท่าน แต่ผมคิดว่าข้อมูลอะไร หรือความคิดอะไร กระบวนทัศน์อะไรที่ท่านได้นั้น ท่านได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน แล้วยิ่งถ้าท่านมีความคิดอย่างนี้ แล้วยังไปสอนเด็กในเรื่องสังคมวิทยา หรือรัฐศาสตร์การเมืองแล้ว ผมคิดว่าเด็กเชียงรายที่เรียนหนังสือกับท่านจะเข้ารกเข้าพงกันเป็นแถว ผมก็เลยหลุดปากออกไปว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วเด็กที่จบมหาวิทยาราชภัฏเชียงรายคงมีปัญหา อาจจะเป็นเด็กบางส่วน ในเรื่องของกระบวนทัศน์ แนวความคิดนะครับ ก็ฝากเอาไว้นิดนึงนะครับ

คุณทักษิณ ในการจัดที่เชียงราย เชียงใหม่ ชัยภูมิ นั้น ได้เห็นชัดว่ากระแสของเสื้อแดง ของคุณทักษิณแผ่ว เพราะว่าเสื้อแดงขายอยู่อย่างเดียว คือ ขายคุณทักษิณ ทุกอย่าง ในสภาออกมาสู้ ในสภาออกมาอภิปรายก็เพื่อคุณทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นคุณสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล คุณเฉลิม อยู่บำรุง ใครก็ตามที่ลุกขึ้นมาแสดงออกเพื่อคุณทักษิณหมดเลย ไม่เห็นมีใครทำเพื่อชาติบ้านเมืองสักคน เพราะฉะนั้นแล้วเสื้อแดงทำก็เพื่อคุณทักษิณ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการจัดทุกครั้งคุณทักษิณ ต้องโฟนอินเข้ามาตลอดเวลา แต่ว่าความแผ่วของคุณทักษิณ เห็นได้ชัด จากที่เชียงรายเตรียมเอาไว้ 210 โต๊ะ 2,000 กว่าคน แต่ขายบัตรได้ หรือมากันแค่ร้อยโต๊ะ ขายบัตรคงไม่ได้ขายหรอกครับ ก็คงจะตั้งไว้เท่านั้นเอง เอาเงินไปแจกตามหมู่บ้าน แล้วให้เดินทางมา ที่ชัยภูมิสนุก เตรียมเอาไว้ 300 โต๊ะ 3,000 คน แต่มาแค่ 40 โต๊ะ 30 กว่าโต๊ะ 300 กว่าคนเท่านั้น ที่สนามกีฬา 700 ปีเชียงใหม่ ก็น่าสนใจ สนามกีฬา 700 ปี เชียงใหม่ เป็นสนามกีฬาที่จุคนได้มากเหลือเกิน แต่ปรากฏว่า เท่าที่ดูแล้ว เขาเตรียมว่าจะมากัน 20,000 - 30,000 คน ปรากฏว่ามาได้เเค่หมื่นคนเท่านั้นเอง ไม่ได้เต็มอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว นี่คือปัญหาใหญ่ และคุณทักษิณ ก็โฟนอินมา น่าสนใจมาก สิ่งหนึ่งที่คุณทักษิณโฟนอินมานั้น อยากให้ฟังเสียงคุณทักษิณนิดนึงนะครับ ว่าคุณทักษิณได้โฟนอินมาว่าอย่างไร และพูดจาพาดพิง อาจจะถึงผมก็ได้ หรืออาจจะถึงบางคนซึ่งมีสถานภาพเหมือนกัน ลองฟังคุณทักษิณพูดสักนิดนึง”

(เปิด VTR พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี)

ทักษิณ - ผมได้ฟังจากน้องๆ สื่อมวลชน บอกว่า ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน อ่อนแอ ไม่มีกำลัง คะแนนเสียงน้อย สื่อมวลชนจะรวมกันทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งผมก็งงๆ ว่าทำไมต้องสื่อมวลชนต้องทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน สื่อมวลชนมีหน้าที่เสนอความจริง ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก เสร็จแล้วต่อมา ผมก็ทราบว่า ได้ทราบจากลูกชายเจ้าของหนังสือพิมพ์คนนึง ผมบอกว่า นี่หนุ่ม ทำไมหนังสือพ่อถึงตีอาจังเลย ตีรัฐบาลจังเลย โดยไม่มีเหตุผล เขาก็มาบอกผมว่า คุณอาครับ ช่วยเหลืออะไรเลยไม่ได้จริงๆ เพราะว่า มีองคมนตรีท่านนึง ไปกินข้าวกับพ่อ เดี๋ยวผมจะบอกชื่อนะครับ ไปกินข้าวกับพ่อ แล้วบอกว่า แอบอ้างว่า ทางวังไม่เอาผมแล้ว ต้องการให้ผมพ้นออกจากตำแหน่งไป ผมก็งงมาก ตอนนั้นผมยังเป็นนายกฯอยู่นะครับ และต่อมา ผมก็ยังไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้น มีข่าวเรื่องการลอบสังหารผม แล้วจนในที่สุดมีเรื่องคาร์บอมบ์ เมื่อเดือนสิงหาคม

พี่น้องครับ ผมมาทราบภายหลังจาก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ไปหาผมที่ประเทศจีน เมื่อไม่นานมานี้ บอกว่า ต้นปี 2549 เขาถูกเรียกไป ไปพบกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ซอยสุขุมวิท เสร็จแล้วเขาก็บอกว่า พล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่า ได้ไปพร้อมองคมนตรี 2 ท่าน ได้ไปกราบบังคมทูล 901 ว่า เขาจะทำงานถวาย เพราะผมไม่จงรักภักดี ผมยังไม่รู้เลย ว่าผมไม่จงรักภักดีอย่างไร และผมเชื่อว่าเป็นการแอบอ้าง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงอยู่สูง ไม่ทรงยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่มีการกล่าวอ้างเช่นนั้น

รับที่จะจัดการผม ซึ่ง พล.อ.พัลลภ ในตอนแรกก็รับมา แต่ก็ยังไม่ทำอะไร ตอนหลังมาโกรธผมด้วยเรื่องส่วนตัวอะไรไม่ทราบ และเข้าใจผิดผม ก็เลยมีการลงมือ ถึง 2 ครั้ง แต่ปรากฏว่าดวงผมคลาดแคล้ว ก็เลยไม่เป็นอะไร ผมคงไม่เสียเวลาเล่ารายละเอียดมาก

เสร็จแล้วต่อมา จึงมีการดำเนินการผมด้วยคาร์บอมบ์ ซึ่ง พล.อ.พัลลภ บอกว่ารู้ และเด็กก็ใช้ลูกน้องเขา แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ คนที่ทำคือไอ้ชุดปฏิวัตินั่นแหละ

แล้วท่านจำจ่ายักษ์ได้ไหมครับ จ่ายักษ์ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนขณะที่ผมยังไม่พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บอกว่า ถ้าคาร์บอมบ์แล้วไม่ตาย จะปฏิวัติ แล้วถ้าปฏิวัติสำเร็จ คนเป็นนายกฯ ชื่อสุรยุทธ์

(ตัดเข้ารายการ Good Morning Thailand )

“พี่น้องครับ ได้ยินคำพูดคุณทักษิณแล้ว ผมว่าลองฟังเสียง นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ดีไหมครับ เมื่อคืนนี้ คุณปอง อัญชะลี ได้รับทราบข่าวนี้ เลยโทรศัพท์ไปถามคุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล เชิญฟังนิดนึงได้ไหมครับ คุณจิตตนาถ พูดว่าอย่างไร ไม่มีใช่ไหมครับ

คุณจิตตนาถ ซึ่งเผอิญเป็นลูกชายผม ก็ตอบปฏิเสธไปหลายๆ อย่างว่า คุณจิตตนาถ บอกว่า ไม่เคยรู้จัก คุณทักษิณ ถ้าเจอกันก็เจอกันในงานใหญ่ เช่นงานแสดงสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ซึ่งคุณทักษิณไป รู้ว่าเป็นลูกชายผม ก็เดินเข้ามาแล้วก็ทักทายเฉยๆ มีเพียงแค่นั้นเอง การเจอกันนั้นไม่มี

ลูกชายเจ้าของหนังสือพิมพ์อีกฉบับที่ไม่เอาคุณทักษิณ คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้าครับ ฉบับอื่นผมไม่รู้ แต่ว่าฉบับนี้ไม่มีแน่ อีกอย่าง นายจิตตนาถ ชื่อ ปั๊ป ไม่ใช่ชื่อ หนุ่ม ผมไม่เคยรับประทานอาหารกับองคมนตรีท่านใดเลย ไม่เคยเจอหน้าด้วย ได้เจอหน้าครั้งเดียวในชีวิต คือ ท่าน พล.ต.กำธน สินธวานนท์ เจอที่ไหนรู้ไหมครับ ท่านเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อท่านเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยรังสิต วันนั้นมหาวิทยาลัยรังสิตได้มอบดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขา ผู้นำสังคม ให้กับผม คนที่ได้รับก็มีหลายคน มีผม มีท่านมุ้ย ท่านไกรฤกษ์ เกษมสันต์ รู้สึกจะมี 3-4 คน ก็ได้เจอท่าน พล.ต.กำธน สินธวานนท์ หรือมีชื่อว่า พี่โด่ง ก็ทักทายกันธรรมดา เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่คุณทักษิณพูด ก็เป็นเรื่องที่เหมือนเดิม มันเป็นเชื้อไวรัสซึ่งติดกัน คุณทักษิณ พูดสับปลับ พูดจาไม่ตรง คุณเฉลิม ก็พูดจาไม่ตรง เลยมาจนถึงคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ในรายการเมื่อวานนี้ คุณสมชาย ก็ขึ้นเวทีตอน 1 ทุ่ม พูดว่าไงรู้ไหมครับ ผมขออ่านเลยนะครับพี่น้อง “ช่วง 2 เดือนครึ่งที่เป็นนายกฯ ไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง หรือเสียชื่อคนเชียงใหม่ จากนี้ไปจะตั้งหน้าตั้งตาทำความดี เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป” นายสมชาย กล่าวและว่า “มีเรื่องลับจะบอกว่า ระหว่างที่เป็นนายกฯ ได้พบกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลายครั้ง ได้บอกเป็นการส่วนตัวว่าได้ติดตามการเมืองไทยตลอด และเปิดดู D Station ทุกวันด้วย”

พี่น้องครับ คุณสมชาย บอกว่า มีเรื่องลับจะบอก ว่าระหว่างคุณสมชาย เป็นนายกฯ ระหว่างเป็นนายกฯ ได้พบกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลายครั้ง ได้บอกเป็นการส่วนตัวว่าได้ติดตามการเมืองไทยตลอด และเปิดดู D Station ทุกวันด้วย พี่น้องครับ พวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร พออยู่ใกล้กันแล้ว ปั้นน้ำเป็นตัวทุกคน

พี่น้องจำได้ไหมครับว่า 2 ธันวาคม 2551 คุณสมชาย พ้นจากการเป็นนายกฯ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน และพี่น้องรู้ไหมครับว่า D Station ออนแอร์วันแรกวันที่เท่าไหร่ วันที่ 19 มกราคม 2552 เดือนครึ่งกว่าให้หลัง 47 วันให้หลังที่คุณสมชาย ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ถูกปลดออกจากตำแหน่งนายกฯ เพราะฉะนั้นแล้วที่คุณสมชายเป็นนายกฯ แล้วไปบอกเล่าให้ฟังว่า ตอนเป็นนายกฯ ไปเจอสมเด็จฮุน เซน แล้วสมเด็จฮุน เซน บอกว่า ติดตามการเมืองตลอด แล้วดู D Station ตลอดเลย ดูที่ไหนครับ โกหกชนิดที่เรียกว่านึกไม่ถึง

เดี๋ยวพักกันสักครู่ แล้วกลับมาเรื่องการเมือง หรือเศรษฐกิจต่อ ในช่วงครึ่งหลังนะครับ”

(เบรก)

“ท่านผู้ชมครับ กลับมาสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ Good Morning Thailand อีกครั้งหนึ่งนะครับ เมื่อกี้พูดค้างอยู่นิดหนึ่ง ขอต่อเรื่องอีกสักนิดหน่อยไม่ว่ากันนะครับ

คุณทักษิณได้พูดมาเมื่อวันอาทิตย์ พูดอย่างนี้ครับ พูดบอกว่า จะขอพูดถึงต้นตอของปัญหาและหนทางแก้ไขเพิ่มเติม ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ซึ่ง 27 มีนาคม ก็คือวันศุกร์นะครับ คนที่เกี่ยวข้องที่ผมพูด ถึงจะโกรธอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทุกฝ่ายก็มีวันตาย เราเอาชาติรอดดีกว่า เอาประเทศให้ผาสุกดีกว่า เอาความสบายพระราชหฤทัยของในหลวงดีกว่า

นี่คือปัญหาใหญ่ของคุณทักษิณ คือคุณทักษิณนึกจะพูดอะไรก็พูด พูดโดยที่ไม่ได้คิดเลย ตัวเองนี่ก่อปัญหา สร้างปัญหามาให้ตลอด แล้วจู่ๆ ก็บอกว่า ทุกฝ่ายต้องมีวันตาย ถ้าคุณทักษิณรู้ว่าในที่สุดแล้วมันก็อนัตตา ก็คือตาย เพราะฉะนั้นทำไมคุณทักษิณไม่ทบทวนตัวเองบ้างว่าได้ทำอะไร คือปัญหาของใหญ่ของคุณทักษิณนะครับพ่อแม่พี่น้อง และท่านผู้ชม คือเป็นคนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองนั้นผิด ชีวิตนี้ไม่มีวันผิด ทุกอย่างตัวเองถูกหมด นั่นคือปัญหาใหญ่ที่สุดของเขา และเป็นปัญหาซึ่งคุณทักษิณต้องแก้ด้วยตัวคุณทักษิณเอง

ข่าวเมื่อวานนี้ ข่าวที่ออกมาชิ้นหนึ่ง คือ คุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาวคนโตคุณทักษิณ ได้เสียชีวิตไปแล้ว ในขณะนี้ก็ตั้งศพอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส คุณเยาวลักษณ์นั้น เป็นพี่สาวคนโต และเป็นคนที่ไม่สบายมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว เป็นแม่ของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คุณยิ่งลักษณ์ที่คนเขาบอกว่าเป็นน้องคุณทักษิณนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นหลาน มีศักดิ์เป็นหลาน คุณยิ่งลักษณ์นั้นเป็นลูกสาวของคุณเยาวลักษณ์ แล้วก็มอบให้เป็นน้องของคุณทักษิณ ให้เข้าใจที่นี้ก่อนนะครับ ส่วนคุณเยาวลักษณ์นั้นไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับการเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นคนที่ไม่สบายมาตลอด ก็ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่ที่สงบ ส่วนท่านผู้ชมที่มีอะไรที่ไม่ดีกับตระกูลชินวัตร ก็แยกแยะเสียบ้างนะครับ มีแค่บางคนเท่านั้นเอง คุณเยาวลักษณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันทั้งสิ้น

พี่น้อง มีคำพูดที่คุณทักษิณพูดอยู่คำหนึ่ง ผมก็เลยอยากจะอธิบายให้ฟังนิดหนึ่ง คุณทักษิณพูดบอกว่า เขาพูดกับพี่น้องสื่อมวลชน พี่น้องสื่อมวลชนก็บอกว่า ตอนนี้จะมาเป็นฝ่ายค้านแทนแล้ว จะยืนอยู่ข้างฝ่ายค้าน ปัญหาใหญ่ที่สุด พี่น้องรู้ใช่ไหม ท่านผู้ชมรู้ใช่ไหมว่าการที่เราต้องมี ASTV มา และก็มีจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่า เรามีหน้าที่ที่จะเอาความจริงมาพูด น่าขบขันมากที่คุณทักษิณ บอกว่าสื่อมวลชนมีหน้าที่ที่จะเสนอความจริง ก็มิใช่เพราะว่า ASTV เสนอความจริงหรือ มิใช่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์เสนอความจริงหรือ เราถึงต้องโดนระบอบทักษิณกลั่นแกล้งมาตลอด หาเรื่องปิด หาเรื่องรังแกมาตลอด

เอาล่ะครับ ผ่านคุณทักษิณไปดีกว่า แล้วค่อยดูกันอีกทีหนึ่ง

เมื่อวานนี้อัยการสูงสุดก็ได้เดินหน้าลากตัวนักโทษชายทักษิณ แจ้งมาบอกว่า ผลการเจรจาสนธิสัญญาไทย-ฮ่องกง คืบหน้า จริงๆ จะคืบหน้าหรือไม่คืบหน้าไปแค่ไหน ขอให้มีการดำเนินการตลอดไป เพราะการดำเนินการแสดงว่ารัฐบาลเอาใจใส่จริง เพิ่งจะเริ่มมีการขยับกันเป็นรูปธรรมในยุครัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น ก่อนหน้านั้นสมัยคุณสมัคร สุนทรเวช คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อมีการขยับแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเรื่องที่ทำให้คุณทักษิณจะต้องคำนึงอย่างหนักว่าตัวเองนั้นจะเที่ยวบินมาที่ฮ่องกง แล้วก็ใช้ฮ่องกงเป็นฐานในการพบปะลูกน้อง ลิ่วล้อของตัวเอง เพื่อมอบนโยบายหรือมอบเงินให้กลับไปสร้างความวุ่นวายให้ประเทศนั้นคงไม่ง่าย

ส่วนนักการเมืองสายพรรคเพื่อไทยที่ยังจงรักภักดีต่อคุณทักษิณเต็มตัว ก็คงจะประสบปัญหานิดหนึ่ง เพราะว่าถ้าจะบินไปที่ดูไบก็คงจะลำบากเหมือนกัน เพราะเวลาบินมันตั้ง 7-8 ชั่วโมง สู้มาฮ่องกง มาฮ่องกงช็อปปิ้งก็ได้ ทานอาหารจีนอร่อยๆ ก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วอย่างน้อยที่สุดก็มีการเดินหน้าต่อไป

คุณอภิสิทธิ์ เมื่อวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ก็ได้ไปที่ จ.ชลบุรี ก็อย่างที่พี่น้องก็ทราบว่า มีฝ่ายพันธมิตรฯ ร่วม 500 คน ที่ขนาดบอกว่าให้ไปแค่การ์ดอาสานะ แล้วฝ่ายเสื้อแดงก็มีประมาณ 100 กว่าคนที่มา คุณอภิสิทธิ์ก็รู้สึกมีความสุขดีที่ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมา จากนี้ไปหวังว่าคุณอภิสิทธิ์จะกล้าตัดสินใจอะไรต่ออะไรหลายอย่างได้แล้วนะครับ เพราะว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เท่าที่ทราบมาปีหนึ่งอภิปรายได้เพียงครั้งเดียว เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์อยู่ได้ตลอดจนถึงสิ้นปีนี้ โดยที่ไม่มีใครมาแตะต้อง ผมเพียงแต่หวังว่าคุณอภิสิทธิ์จะทำสิ่งที่ถูกให้มันถูก อะไรที่ไม่มีคุณธรรม อะไรที่มันผิด ก็จัดการมันเสีย ผมหวังว่าคุณอภิสิทธิ์จะกล้าตัดสินใจในเรื่องตำรวจเสียที จะกล้าตัดสินใจในเรื่องตำรวจเสียทีนะครับ และผมคิดว่าต้องกล้าตัดสินใจโดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงผู้อื่นเลยแม้แต่นิดเดียว

วันนี้มีข่าวต่างประเทศหลายๆ ข่าว แต่ก่อนที่จะไปข่าวต่างประเทศ เอาข่าวตำรวจเสื้อเหลืองในดงเสื้อแดง อยู่ในดงจริงๆ นะครับ มีข่าวที่ลงในเว็บไซต์ผู้จัดการ พูดถึงท่านผู้กำกับ ตำรวจคนหนึ่ง ท่านชื่อผู้กำกับชัยยุทธ เป็นผู้กำกับ สภ.โนนสัง

อ.โนนสัง นั้นอยู่ใน จ.หนองบัวลำภู คุณชัยยุทธ วงศ์โคกสูง เป็นคนอีสานโดยแท้จริง คุณชัยยุทธนั้นเป็นตำรวจฝ่ายเสื้อเหลืองจริงๆ เพราะว่าในโรงพักนั้นสั่งให้ติด ASTV เพื่อให้ลูกน้องได้ดู คุณชัยยุทธพูดจาชัดเจน บอกว่าข่าวสารจาก ASTV เป็นสาระ และข้อมูลสำคัญที่คนไทยทุกคนจำเป็นต้องติดตาม เพราะข่าวสารที่ได้จะไม่สามารถหาได้จากช่องฟรีทีวีทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงชุมนุม 193 วันที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตามชม ASTV ก็จะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย และความเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากระบอบทักษิณ ส่งผลเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ตลอดจนมีการล่วงละเมิดสถาบันสูงสุดของคนไทยอย่างไร

คุณชัยยุทธก็พูดต่อว่า ยอมรับว่าเคยถูกมองว่าบ้าที่เป็นตำรวจแต่กล้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ มาถึงรัฐบาลนอมินี ซึ่งตนจะตอบไปว่า ยิ่งเป็นตำรวจยิ่งต้องกล้าที่จะยืนหยัดบนความดีและความถูกต้อง เพราะตำรวจเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

คุณชัยยุทธ พูดต่อว่า ในช่วงชุมนุมพันธมิตรฯ 193 วันนั้น สมาชิกครอบครัวของคุณชัยยุทธจะเดินทางไปๆ มาๆ ร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลหลายรอบ ช่วงไหนไม่ได้ไปก็ติดตามชมถ่ายทอด ASTV อย่างต่อเนื่อง และเมื่อเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมอย่างรุนแรงในวันที่ 7 ตุลาคม ภรรยาทั้งโกรธ เสียใจ และร้องไห้ และเผลอด่าตำรวจจนลูกพูดแซวแม่เพื่อคลายความเครียด ว่า พ่อก็เป็นตำรวจนะ

คุณชัยยุทธพูดถึงในฐานะที่อยู่ในอำเภอซึ่งเป็นเสื้อแดง ท่านพูดบอกว่า คนที่โนนสังจะรู้ว่าตนเป็นตำรวจเสื้อเหลืองท่ามกลางดงเสื้อแดง ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านจะมีความเชื่อฝังใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นคนดี เพราะข้อมูลด้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การโกงบ้านโกงเมือง ตลอดจนการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือชาวบ้าน ไม่มีโอกาสได้รู้ ก็จะมีคำพูดแบบคนลังเลถามคุณชัยยุทธ ว่า ทักษิณน่าจะดีอยู่นะผู้กำกับ หรือทักษิณมีอะไรไม่ดีบ้างล่ะท่านผู้กำกับ ซึ่งคุณชัยยุทธก็จะบอกให้ติดตามข้อมูลจาก ASTV แล้วคิดเอาเอง ซึ่งระยะหลังคนที่เคยลังเลก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น เพราะได้เห็นความชั่วช้าสามานย์ของระบอบทักษิณชัดเจน จากการที่ได้ติดตาม ASTV อย่างต่อเนื่อง

ท่านผู้กำกับ สภ.โนนสัง ก็พูดตรงเป้าเป๊ะเลยต่อมา ท่านพูดว่า การปฏิรูปสื่อซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ที่ยังขาดการให้ข้อมูลตามความเป็นจริงอันชั่วร้ายของกลุ่มเสื้อแดงที่ทำต่อชาติบ้านเมือง คนที่ไม่ได้ชม ASTV จะไม่รู้ความจริง ยิ่งทำให้คนไทยแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย เพราะรู้ข้อมูลไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงเป็นอย่างยิ่ง

ท่านผู้ชมครับ ท่าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ วงศ์โคกสูง ผู้กำกับ สภ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู นั้นเป็นถิ่นคนเสื้อแดง คุณชัยยุทธได้พูดคำพูดที่กินใจมาก ถูกต้อง เขาเรียกว่าตอกไปที่หัวตะปูเลย ท่านพูดบอกว่า การที่คนได้รับข้อมูลไม่เท่ากันมันก็เลยทำให้เกิดปัญหา การที่ได้รับข้อมูลเพียงฝ่ายเดียวมันเกิดปัญหา ผมเพียงแต่หวังว่าข้อมูลที่เท่ากันนั้น รัฐบาลน่าที่จะดำเนินการให้มันจริงจังกว่านี้ จนกระทั่งวันนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมที่รัฐบาลทำให้เห็นว่าได้รับข้อมูลเท่ากัน ผมคิดว่าปัญหาการปฏิรูปสื่อนั้นเป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องทำ แต่การจัดการเรื่องเกี่ยวกับให้ข้อมูลกับประชาชนให้เท่าเทียมกันนั้น เป็นเรื่องด่วน อุปมาอุปไมยเหมือนไฟไหม้บ้าน ถ้าไฟไหม้บ้านจะมัวคิดวางแผนซ่อมบ้านใหม่พร้อมกันไปทีเดียว มันไม่มีทางทำได้ ไฟไหม้บ้านต้องรีบดับไฟก่อน และการดับไฟนั้นมันช่วยไม่ได้ที่บางครั้งกระบวนการดับไฟจะต้องไปกระทบกระเทือนเฟอร์นิเจอร์บ้าน พื้นบ้านก็อาจจะต้องเปียกบ้าง มันต้องจำใจนะครับ หรือแม้กระทั่งอาจจะต้องทุบผนังบางผนังออก เพราะฉะนั้นผมหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะตัดสินใจเด็ดขาดพอสมควรในเรื่องของการทำให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูลเท่าเทียมกัน สำคัญมากนะครับ ทำให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูลเท่าเทียมกัน

ท่านผู้ชมครับ เดี๋ยวเราจะไปข่าวต่างประเทศสักนิดหนึ่งดีไหมครับ ข่าวต่างประเทศนั้นมีอะไร 2-3 อย่างที่ต้องเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ ข่าวอันหนึ่งเป็นข่าวของมิเชล โอบามา คือเป็นภรรยาของบารัก โอบามา

มิเชล โอบามา ทำให้คนอเมริกันฮือฮาพอสมควรด้วยการตัดสินใจที่จะลงมือทำสวยผักในทำเนียบขาว ทำไมถึงฮือฮาล่ะครับ ถ้าเป็น น.ส.หรือนางอะไรก็ตาม หรือว่าเจน หรือว่ามาร์กาเร็ต หรือดรูวส์ ทำสวนผักไม่มีใครสนใจหรอก แต่เธอเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของทำเนียบขาว นั่นคือเธอเหมือนกับเป็นผู้นำของสตรีในประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วเธอตัดสินใจมาลงทำสวนผักสวนครัว เธอบอกว่าเธอจะปลูกผักและจะใช้ลักษณะเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี

การซึ่งภรรยาผู้นำของประเทศ หรือว่าการที่ท่านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านบอกว่า ณ วันนี้ท่านชอบทานผัก ผลไม้ อาหารที่ปราศจากสารพิษ ท่านปฏิเสธทุกอย่างที่เกี่ยวกับสารพิษ กระบวนการที่ทำแล้วก่อให้เกิดสารพิษท่านไม่เอา พูดเพียงแค่นี้ก็มีผลกระเทือนครับ ระหว่างท่านนายกฯ พูด กับผมพูดนั้นไม่เหมือนกัน ผมพูดมีแต่คนหัวเราะเยาะ แล้วก็บอกว่าสนธิมันโกหกอีกแล้ว ท่านนายกฯ พูดคนก็จะเชื่อทันที แต่ผมพูดนี่ต้องให้เวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง พอมีเรื่องเกิดขึ้นคนถึงจะเชื่อ เพราะฉะนั้นแล้วการที่มิเชล โอบามา ออกมาทำเช่นนี้ ก็เลยเป็นที่ฮือฮากันมาก มิเชล โอบามา เขาก็เป็นผู้หญิงซึ่งในขณะนี้โด่งดังมาก เพราะว่าสถาบันแฟชั่นของอเมริกาเชิดชู เทิดทูนมิเชล โอบามา มาก เพราะว่าเธอเน้นการออกแบบของนักออกแบบชาวอเมริกัน มากกว่าที่จะไปประเภทพวกกุ๊ตชี่ ชาแนล เหมือนกับคนอื่น เพราะฉะนั้นมิเชล โอบามา ก็เลยเป็นเหมือนกับตัวอย่างของคนรักชาติด้วย ใช้ของอเมริกัน แต่ก็มีข้อเพิ่มเติมให้นิดหน่อยนะครับ ไม่ได้ไปบลัฟอะไรคุณมิเชล โอบามา นิดหนึ่งว่า โครงการเกษตรที่ทำให้เป็นตัวอย่างนั้น เมื่อ 48 ปีที่แล้ว คนที่เริ่ม 48 ปีที่แล้ว คนที่เริ่มคนแรกชื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระองค์นี้เป็นผู้ที่เริ่มก่อน 48 ปีที่แล้ว

คือโครงการส่วนพระองค์ที่สวนจิตรลดา ในสวนจิตรลดานั้น องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เริ่มโครงการต่างๆ ให้ดู ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักที่ปราศจากสารอินทรีย์ เป็นโครงการที่ไม่ใช่ธุรกิจ แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นโครงการ พระองค์ท่านทรงทำโครงการทดลองเพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องเกี่ยวกับงานทางด้านเกษตรกรรม เป็นโครงการตัวอย่างให้ผู้สนใจสามารถเข้ามาทำการศึกษานำไปดำเนินการเองได้ เป็นโครงการที่ดำเนินการโดยที่ไม่หวังผลตอบแทนทางธุรกิจ โครงการมีเยอะครับ พระองค์ท่าน โครงการปุ๋ยหมัก โครงการโรงกระถางผักตบชวา โรงโคนม บ่อปลานิล บ้านพลังแสงอาทิตย์ บ่อหนักแก๊สชีวภาพ โครงการนม โรงนม UHT ศูนย์คอมพิวเตอร์ ถังพักนม เยอะแยะไปหมด แต่งานที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นน่าเสียดาย ไม่มีใครไปต่อยอด

ต่อยอดอย่างไรล่ะครับ ก็คือจริงๆ พระองค์ท่านก็ไม่ได้เหนือกว่ามิเชล โอบามา มาก พระองค์ท่านทำให้ดู นี่คือความไม่ใส่ใจของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ไม่เว้น ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดไหน แม้กระทั่งรัฐบาลชุดนี้ก็เช่นกัน มีของดีๆ ในโครงการพระราชดำริที่ไม่เคยเอามาออกมาทำ แล้วให้ทุกคนรับทราบรับรู้ ก็เป็นเรื่องราวที่น่าเสียดาย มีของดีอยู่ในมือแต่ไม่รู้จักใช้ของดีนั้นให้เป็นประโยชน์

ท่านนายกฯ เมื่อวานนี้ได้เปิดงานต้นกล้าอาชีพ สร้างเถ้าแก่คืนสู่ภูมิลำเนา จริงๆ แล้วท่านผู้ชมทราบไหมครับว่าในขณะนี้ประเทศจีนกำลังเน้นเรื่องนี้อยู่ ประเทศจีนกำลังเน้นเรื่องระดับเถ้าแก่ ชนชั้นกลาง ชนชั้นต่ำ พวก SMEs จริงๆ ประเทศจีนเขาเน้นมาก เพราะว่าเขามองว่า ถ้าเศรษฐกิจมันตกไปเรื่อยๆ ชนชั้นกลางกับคนซึ่งทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ มันอยู่ไม่ได้ 2 ชนชั้นนี้จะร่วมมือกับชนชั้นรากหญ้า ก็คือชาวนาของจีน แล้วก็ก่อให้เกิดปัญหา ก่อให้เกิดปัญหาอย่างมากที่สุด ตรงนี้ประเทศจีนจะมีความสั่นคลอนทางด้านสถาบันทางการเมืองมาก แล้วผมก็เห็นด้วยครับท่านผู้ชม ว่าธุรกิจที่ควรได้รับการส่งเสริมมากที่สุดคือธุรกิจของชาวบ้าน และธุรกิจของชนชั้นกลาง ผมคิดว่าหมดยุคแล้วที่เราจะไปส่งเสริมธุรกิจชั้นใหญ่ หมดยุคจริงๆ

วันนี้สหรัฐอเมริกามีข่าวชิ้นหนึ่ง ซึ่งต้องเรียนให้ท่านผู้ชมทราบ แล้วก็อย่าไปตกใจนะครับ ผมเป็นคนพูดมาตลอดเวลาเรื่องข่าวอเมริกา อเมริกาในขณะนี้มีปัญหา พี่น้องจำได้หรือเปล่าว่าผมเคยพูดให้ฟังว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกที่นายกรัฐมนตรีประเทศหนึ่ง กำลังขอร้องให้กับนายกรัฐมนตรีอีกประเทศหนึ่ง บอกว่าคุณรับผิดชอบต่อหนี้ที่คุณเป็นหนี้ผมหน่อยสิ สมัยก่อน IMF หรืออเมริกา เป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาลลาตินอเมริกา ไม่พูดอย่างนี้นะ บุกเข้าไปยึดเลย และใช้นโยบาย IMF รื้อประเทศนั้น แต่วันนี้เวิน เจียเป่า ได้เตือนไปที่อเมริกา บอกว่า เฮ้ย เพื่อนฝูง ไอ้เงินพันธบัตรรัฐบาลที่พวกอั๊วเอาเงินพวกอั๊วไปซื้อน่ะ ลื้อรู้ไหม ลื้อรักษาค่าเงินดอลลาร์หน่อยได้ไหม อย่าให้มันตก เพราะว่าค่าเงินดอลลาร์ถ้าลื้อไม่รักษา มันตกมาน่ะ เงินที่อั๊วไปซื้อพันธบัตรลื้อมันก็ตกตาม เท่ากับมูลค่าทรัพย์สินอั๊วตกตาม นี่คือสิ่งที่เวิน เจียเป่า พูด

พี่น้องรู้ไหมเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ ที่ผมพูดจำได้ใช่ไหมผมพูดเรื่องนี้ไป มันเกิดขึ้นตรงที่ว่า ในขณะนี้คนอเมริกันและคนทั่วโลกกำลังพูดถึงเงินโบนัสของ AIG ว่าไม่ชอบธรรม ไม่มีจริยธรรม แต่เขาลืมสังเกตเรื่องนี้ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรียกว่า Shit hits the fan คือว่าผมเคยเล่าให้ฟังไง มีพัดลมเพดาน แล้วมีคนนั่งข้างบนแล้วขี้ลงมาบนพัดลม แล้วพัดลมจะตีขี้ ขี้มันจะกระจายหมด วันนี้เบอร์นานเก ก็คือผู้ว่าฯ แบงก์ชาติของอเมริกากำลังปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไกธ์เนอร์ เขาจะทำอย่างไรพี่น้องรู้หรือเปล่า เขาจะให้อเมริกา Federal ไปซื้อพันธบัตรออกมาเลย 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นและซื้อได้อย่างไร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ไม่ยากเลยนี่ครับ เคยเห็นแบงก์ดอลลาร์ไหม ผมให้ดูก็ได้

แบงก์ดอลลาร์ บรรทัดที่ 2 เล็กๆ พี่น้องที่อยู่อเมริกาคงรู้อยู่แล้ว แต่พี่น้องที่อยู่ในเมืองไทยยังไม่รู้ เขาเขียนว่า In God We Trust ในพระเจ้าเราเชื่อถือ ก็คือเงินดอลลาร์คือเงินของพระเจ้า แปลกไหมครับ แปลว่าอะไร แปลว่าอเมริกาจากนี้ไปจะเริ่มพิมพ์แบงก์ขึ้นเพิ่มแล้ว อีก 3 แสนล้านเหรียญ เพื่อมาซื้อพันธบัตรที่พวกจีนมาซื้อไว้ ซื้อเข้ามาเก็บ แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ ค่าเงินดอลลาร์มันก็ตกเหวสิครับ ทีนี้อาเฮีย อาเวิน เจียเป่า ก็ร้อง ไอ๊หยา ซี้เลี้ยวอ่า นึกออกไหมครับ คอยดูวิกฤตอันนี้จะเกิดขึ้น ไม่ต้องเชื่อสนธิ แต่สนธิไม่เคยพูดอะไรผิด

ด้วยเหตุนี้สิ่งที่วิกฤตมันจะเกิดขึ้นสังเกตจากอะไร ราคาทองคำพี่น้อง ทองคำจะขึ้นอีก อ่ะเดี๋ยวจะบอกว่าผมไม่บอกนะ ทองคำจะขึ้นอีก จากนี้จะค่อยๆ ขึ้น ขึ้นบ้าง ลดบ้าง แต่จะขึ้นมากกว่าลง เหตุผลเพราะ 3 แสนล้านเหรียญนี่ล่ะ ที่จะซื้อหนี้ ซื้อพันธบัตรออกมาก่อน และอเมริกากำลังจะขอเงินเพิ่มอีกก้อนหนึ่ง 1 ล้านล้านเหรียญ หลังจากที่ขอไปเรียบร้อย เพื่อซื้ออะไรรู้ไหม ซื้อทรัพย์สินเฮงซวยห่วยแตกที่แบงก์มันถืออยู่ เข้ามาสู่กองกลาง ตั้งบริษัทกลางขึ้นมา ชื่อบริษัท Investment Corp. คล้ายๆ เทมาเส็กของสิงคโปร์นั่นล่ะ แต่เทมาเส็กสิงคโปร์เอาเงินสดของตัวเองลงแล้วไปซื้อทรัพย์สินคนอื่น แต่ไอ้นี้คล้ายๆ บสท.เมืองไทย ซื้อทรัพย์สินรัฐ ซื้อทรัพย์สินแบงก์ ก็คือว่าเศรษฐกิจอเมริกาต้องการอุ้มธนาคาร

พี่น้องครับ สักวันหนึ่งเรามาคุยกันเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจโลกในอนาคต ผมจะบอกให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ผมจะพูดไว้ก่อนเป็นแนวนำทางไว้ก่อน วันนี้พี่ปองกับน้องเก๋นั่งฟังอยู่ ให้ฟังดีๆ เป็นแนวนำทาง ผมกำลังชี้ว่า จากนี้ไปเศรษฐกิจโลกจะไม่มีวันฟื้น จะฟื้นในลักษณะที่ฉาบฉวยและหลอกลวง เมื่อฟื้นแล้วจะลงไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่าฟื้นตรงนี้ แล้วลงมาแค่นี้ แล้วฟื้นมาแค่นี้ แล้วลงมาแค่นี้อีก ตรงนี้จะทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองของโลกนั้นเปลี่ยนไปหมด พี่น้องครับ โลกนั้นแบ่งเป็นหลายช่วง ช่วงที่อาณาจักร จักรวรรดิ์ของอังกฤษล่มสลาย และยุโรปล่มสลายนั้น คือช่วง ค.ศ.1950 (2493) ช่วงนั้นคือการขึ้นมาของสหรัฐอเมริกา

ผ่านมา 50 ปี อเมริกาเริ่มร่วงตั้งแต่ปี 2003 แล้ว และจะร่วงไปเรื่อยๆ และการเมืองทั่วโลกจะเปลี่ยนหมด เชื่อผม ผมพูดวันนี้มีหลักฐาน การเมืองโลกจะเปลี่ยนหมด การเมืองใหม่จะเข้ามาหมดทุกๆ จุด เพราะว่าโลกจะถูกทุนสามาย์ปู้ยี่ปู้ยำอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แล้วเวลาคนเขามาเล่าให้ฟังว่า ทุนสามานย์นั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะทุนคุณทักษิณอย่างเดียว ทุนสามานย์คือทุนเก็งกำไร และผมจะเล่าให้ฟัง ทุนสามานย์ได้ทำร้ายทำลายประเทศไปอย่างไรบ้าง

พี่น้องครับ ข่าวสนุกๆ บางข่าวนะครับ เขาว่าเศรษฐกิจตกครั้งนี้ มีคนไปสมัครเป็นดาราเต้นระบำโป๊เยอะเหลือเกินที่อเมริกา แล้วได้คนมีคุณภาพด้วย บางคนจบปริญญาตรีฮาร์วาร์ด บางคนทำงานเป็นผู้บริหารระดับการตลาด สวย 20 กว่าต้นๆ เกือบๆ 30 หน้าอกหน้าใจงดงาม ไปเป็นสกริปเปอร์ในไนท์คลับ เขายกตัวอย่างว่า ยอดคนสมัครในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว 3 เท่าตัว แล้วก็เป็นคนมีการศึกษาทั้งนั้น เยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้นขอให้เอาเงินรอด มีเงินมีทองรอดเสียก่อน ทุกคนพร้อมที่จะทำงานได้ แล้วรายได้ไม่ใช่เป็นที่ผิดหวังนะครับ รายได้ปีละ 1-3 แสนเหรียญ เหมือนนักศึกษาไทยเดี๋ยวนี้ บางคน พี่น้องรู้ไหม หาลำไพ่พิเศษ ผู้หญิง ขับรถราคาแพง ปื๊ด..ไปจอดที่สถานบริการแห่งหนึ่ง เป็นชื่อเมืองในยุโรป อย่าไปรู้เลยชื่อเมืองอะไร แล้วก็ไปบอกเจ้าของสถานบริการ หรือมาม่าซัง บอกว่าวันนี้ขอ 10,000 มาม่าซังก็จะจัดคิวว่า 10,000 ก็คือ 2 ครั้งๆ ละ 5,000 บาท เขาก็จะหาลูกค้าให้เสร็จ พอหาลูกค้าเสร็จ นักศึกษาสาวนั้นก็ขึ้นไป บริการ 2 ชั่วโมงได้ 10,000 แล้วก็ขับรถกลับบ้าน ไม่สนใจแล้ว เขาเรียกว่า Freelance

พี่น้องเริ่มเข้าใจคำว่า Freelance หรือยังครับ ไม่ได้มีเบอร์ ไม่ได้มีชื่อ แต่จะมีเบอร์ติดต่อกันตลอดเวลา ได้ข่าวว่าหนุ่มๆ ASTV หลายคนก็เป็นคนที่ไปใช้บริการนั่นเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าใคร ถ้าอยากทราบส่งโทรศัพท์มา เดี๋ยวผมจะเผยว่าหนุ่ม ASTV มีใครบ้าง

พี่น้อง วันนี้มาเรื่องสายที่ได้เสื้อที่ระลึกคอนเสิร์ตการเมือง LA นะครับ คือคุณสุนันทา สุขจิต สงขลา คุณกัลยารัตน์ ถิ่นทอง นครสวรรค์ คุณอรุณ ศิริเทพ เชียงราย โอ้โห ทุกภาค

ความเห็นจากทางบ้านนะครับ คุณสุชัย ทำไมฝ่ายความมั่นคงปล่อยทักษิณโฟนอิน - นั่นสิครับ / คุณประมูล นครสวรรค์ อยากให้เรียกทักษิณว่านักโทษชาย มากกว่าใช้คุณนำหน้า / คุณสุรีรัตน์ กทม. พันธมิตรฯ ควรตั้งพรรคได้แล้ว เพราะจากการอภิปรายเห็นว่า ปชป.พึ่งไม่ได้ / คุณแสง สงขลา เมื่อไรจะมีคนจัดการกับฟรีทีวีที่ชอบบิดเบือนและตำรวจที่สั่งฆ่าประชาชนเสียที / ตำรวจน่าน ช่วยพูดเรื่อง กบข.ด้วย เพราะพันธมิตรฯ เราเป็นข้าราชการเยอะ

พี่น้องครับ วันนี้ What a Wonderful World .. Good Morning Thailand จำต้องอำลาจากไปนะครับ เหนื่อยแต่ว่าอยู่ตัวแล้วเดี๋ยวนี้ ตี 4 ปั๊บรู้สึกตัวทันทีเลย ไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเจอกันอีกทีนะครับ เดี๋ยวต่อจากรายการนี้เป็นรายการของพี่ปองและน้องเก๋ ปกติธรรมดา เจ็บๆ คันๆ แร่เนื้อโรยเกลือ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องครับ”







กำลังโหลดความคิดเห็น