สภาป่วน!! เกิดศึกดอกไม้งาม “รังสิมา” ซัด “น้องยิ้ม” ไม่มีสมอง

สภาวุ่น เกิดมวย ส.ส.หญิง ซัดกันอ่วม หลัง “วิสาระตี” ส.ส.หน้าใหม่เชียงราย ซักฟอกกล่าวหา “กษิต” ไม่มีคุณสมบัตินั่งตำแหน่งรัฐมนตรี อ้างสมัยเป็นเอกอัครทูตชอบทะเลาะต่อตีข้าราชการ ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง เรียกหาประโยชน์ ซัดไม่เคารพศาสนาด่าทอเลขาฯ สังฆราช เหน็บไปถึง “มาร์ค” เอาของเน่ามายัดกระป๋อง จนถูก “รังสิมา” ประท้วงว่าไร้สมอง เขียนโพยอ่าน ก่อนซัดกันไปมาก่อนยอมลดราวาศอก จูบปากทำหน้าที่ต่อ

วันนี้ (20 มี.ค.) ที่รัฐสภา น.ส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายกษิตไม่เหมาะสมที่จะเป็น รมว.ต่างประเทศ โดยเฉพาะประสบการณ์และประวัติในการทำงาน สมัยที่รับราชการเป็นทูตประจำประจำประเทศต่างๆ เคยทะเลาะกับทูตและข้าราชการด้วยกัน ทั้งทูตแรงงานขณะประจำอยู่ประเทศญี่ปุ่น และยังทะเลาะกับอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ รวมทั้งยังชกต่อยนักเรียนทุนในต่างแดน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมแสดวงหาผละประโยชน์ โดยบีบบังคับขอเปียโนจากนายไพบูลย์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสินค้าระหว่างประทศ แต่อ้างว่าจะนำไปให้ผู้ใหญ่ ซึ่งเปียโนดังกล่าวหน้าตาคล้ายกับที่บ้านของท่าน นอกจากนี้ยังใช้อำนาจขอตั๋วเครื่องบินจากการบินไทย 500 ใบต่อปี โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ปรากฏว่าเครือญาติของท่านได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน และไม่ทราบว่าท่านมีส่วนร่วมอะไรด้วยหรือไม่ กับคนที่ชื่อเป๊บซี่ ซึ่งเป็นพ่อค้าเงินในตลาดมืด

น.ส.วิสาระดี กล่าวต่อว่า นายกษิตยังมีพฤติกรรมส่อไปในทางที่ไม่เคารพศาสนา เพราะมีพระเจ้าอาวาสวัดคลองบางกุ้ง ซึ่งเป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เคยไปเยี่ยมท่านที่สถานทูต เพื่อเผยแผ่ศาสนาพุทธ แต่นายกษิตกลับพูดว่า “หลวงพ่อมากินไกลจังเลยนะ” ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่นอกจากไม่เหมาะสม ทั้งยังดูถูกผู้ที่เป็นถึงเลขานุการพระสังฆราช โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ท่านไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และสนิทกับนักบวชนอกรีต ทำให้เรายิ่งประหวั่นพรั่นพรึงต่อพฤติกรรมของท่านด้วย

ทั้งนี้ ทำให้ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ลึกขึ้นประท้วงทันทีว่าผู้อภิปรายไม่ควรเอาศาสนามาพูดในที่ประชุมสภา และขอให้ผู้อภิปรายอยู่ในประเด็นด้วย ไม่ใช่เอาเอกสารมาอ่าน

อย่างไรก็ตาม น.ส.วิสาระดี ยืนยันว่า พูดอยู่ในประเด็นและการพูดก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่เคยรู้จักกับนายกษิตมาก่อน และไม่รู้ว่าที่นายกษิต เป็น รมว.ต่างประเทศได้ มาเป็นตัวแทนของใคร เป็นเพราะพันธมิตรฯ และตอบแทนบุญคุณที่ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ทั้งๆ ที่บุคคลดังกล่าวถือเป็นผู้ก่อการร้าย ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ นักลงทุนต่างประเทศไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุน จนทำให้รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งทุ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะแค่ปลดนายกษิตออกก็ภาพลักษณ์ได้แล้ว ซึ่งงบประมาณที่ทุ่มลงไปนั้นก็เป็นงบประมาณที่ต้องไปกู้ต่างประเทศมา ทำให้คนไทยต้องเป็นหนี้จากการกระทำของนายกษิต ทั้งนี้ ตนขอยกคำพูดของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าเรื่องปลากระป๋องเน่าก็ยังพอให้อภัยได้ เพราะไม่รู้ว่าเน่ามาก่อน แต่นายอภิสิทธิ์ กลับเอาปลาที่เน่าแล้วไปใส่กระป๋อง อย่างนี้ถือว่านายอภิสิทธิ์ใจดำกับประชาชนมากๆ

เมื่ออภิปรายถึงตอนใกล้สรุป น.ส.วิสาระตี ระบุว่ารู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นส.ส.ในสมัยแรก และได้เป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลพร้อมกัน เหตุเพราะเกิดจากการกลั่นแกล้งของศาลรัฐูธรรมนูญที่สั่งให้ยุบพรรคพลขังประชาชน จนต้องย้ายพรรคมาอยู่พรรคเพื่อไทยและได้มาเป็นฝ่ายค้านในสภา

ทำให้บรรยากาศเริ่มเกิดการปะทะคารมกันมากขึ้น ระหว่าง ส.ส.หญิงฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เมื่อ น.ส.พัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า การอภิปรายของ น.ส.วิสาระดี ที่ได้อภิปรายตำหนิพฤติกรรมของนายกษิต รวมถึงนำข้อมูลที่ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมของนายกษิตมาอภิปรายด้วย รวมทั้งขอให้ถอนคำพูดที่พาดพิงสถาบันศาลรัฐธรรมนูญที่กล่าวหาว่ากลั่นแกล้ง ทั้งที่เสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาของศาลซึ่งถือเป็นที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นศาล ขณะที่ น.ส.วิสาระดีโต้กลับว่า ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับนายกษิต จึงไม่ใช่การพูดเรื่องส่วนตัว จากนั้น ส.ส.หญิงฝ่ายรัฐบาล ได้ดาหน้าลุกขึ้นมากล่าวโจมตี น.ส.วิสาระดีอย่างรุนแรง

ซึ่ง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงน.ส.วิสาระตีว่า อภิปรายโดยอ่านเอกสารทุกคำพูด ถ้าริบเอกสารนั้นมา เขาก็จะพูดไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้พูดจากสมองเขาเอง ถ้าพูดจากใจจริงจะไม่ก้าวร้าวแบบนี้ ทำให้ส.ส.หญิงของพรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงขอให้ถอนคำพูด เพราะถือว่าเป็นการเสียดสีดูถูกผู้หญิงด้วยกัน และยังเป็นการดูถูกประชาชนในพื้นที่ที่เลือกเข้ามา จึงเกิดการโต้เถียงกันดุเดือดระหว่าง 2 ฝ่าย ทำให้นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานในที่ประชุม ต้องพยายามไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ให้อยู่ในความสงบ และขอให้ น.ส.รังสิมา ถอนคำพูด แต่น.ส.รังสิมายังคงตอบโต้ว่าเป็นความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่การใส่ร้าย หากน.ส.วิสาระดีมั่นใจในตัวเองก็ต้องพูดโดยไม่อ่านเอกสาร และขอให้อภิปรายแบบนี้อีกรอบโดยไม่ต้องอ่าน ตนก็ยินดีจะถอน แต่นายสามารถยังคงยืนยันว่าให้ถอนคำพูด ซึ่งทำให้ให้ น.ส.รังสิมายอมถอนคำพูด แต่ยังคงทิ้งท้ายว่า แต่ถ้าอภิปรายเหมือนเดิมก็จะโดนหนักนี้ว่า ไม่มีมันสมอง

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นก็มีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของประธานสภาฯว่าไม่มีมาตรฐานในการพิจารณา ทั้งที่มีผู้ประท้วงให้ผู้อภิปรายถอนคำพูดที่หมิ่นสถาบันศาล แต่ประธานสภาฯ กลับไม่พิจารณา แต่กลับเข้าข้างเอนเอียงสั่งให้ น.ส.รังสิมาถอนคำพูด จนเกิดการประท้วงกันตามมาจนวุ่นวาย ซึ่งประธานสภาฯได้ขอให้ทุกฝ่ายหยุดประท้วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วิสาระดี ได้ลุกขึ้นอภิปรายต่อด้วยสีหน้าไม่ดีและขอยุติการอภิปราย โดยเน้นย้ำว่า โดนอย่างนี้ก็ถือว่าได้แจ้งเกิดแล้ว แต่พฤติกรรมของ น.ส.รังสิมาถือว่าดูถูกประชาชนชาวเชียงรายมาก จากนั้นส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างเข้ามาหา พร้อมจับมือและยกนิ้วให้ น.ส.วิสาระดี โดยกล่าวชมเก่งมาก จากนั้นนายนที สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้นำ น.ส.วิสาระดีเดินไปหา น.ส.รังสิมา เพื่อขอโทษขอโพยกัน ในฐานะ ส.ส.หญิงรุ่นน้อง ซึ่ง น.ส.รังสิมาก็รับไหว้

ต่อมา นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย อภิปรายในส่วนของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ถึงความไม่สง่างามว่า การเอาคนไม่เคารพกฎกติกาบ้านเมือง มาเป็นรัฐมนตรี ไม่เหมาะสม กับธรรมเนียมประเพณีมาเป็น ทำไมนายกฯถึงตบรางวัลให้เป็น รมว.ต่างประเทศ ที่ถือเป็นกระทรวงเป็นหน้าเป็นตา ต้องไปสร้างความสัมพันธ์และไมตรีที่ดีให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศ นายกฯต้องตอบแทน แสดงมิตรไมตรีให้กับแกนนำพันธมิตรฯกล้าหาญชาญไชย ทำผิดกฎหมายไปยึด NBT ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ จึงต้องให้ตำแหน่งนี้ แต่คนที่เคยผ่านงานระดับเอกอัครราชทูต ควรมีมารยาท น่าเชื่อถือต่อเยาวชนและในสังคม ซึ่งจะต้องไม่โกหกตลบตะแลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายนางฐิติมา ได้มีการนำวิซีดีภาพและเทปบันทึกสัมภาษณ์ของ นายกษิต 4 ชุด นำภาพนายกษิต เข้าพบสมเด็จ ฮุนเซ็น โดยเฉพาะขึ้นปราศรัยกับการชุมนุมพันธมิตรฯมาเปิดกลางที่ประชุม พร้อมระบุว่า การที่นายกษิตไปร่วมชุมนุมเป็นผู้ร่วมการชุมนมปิดสนามบิน ถือเป็นผู้ก่อการร้ายสากล พร้อมได้นำคำสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศที่นายกษิตย้ำในการร่วมชุมนุมว่า”เราขอเชิญมาร่วมในช่วงเย็น อาหารอร่อย ดนตรีก็ไพเราะ”คำพูดเราจะให้คนที่มีพฤติกรรมที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายอย่างนี้มา เป็น รมว.ต่างประเทศ จึงไม่ไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีต่อไป