xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.เรียก"ปลัด พม."สอบ พิรุธทำเอกสารเท็จ ขู่ฟันวินัย-อาญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิฑูรย์ นามบุตร
กมธ.ป.ป.ช.เตรียมเรียกปลัด พม.แจงกรณีปลากระป๋องเน่า สัปดาห์หน้าพบพิรุธหนังสือทางราชการ 2 ฉบับขัดแย้งกันเอง ขู่ฟันวินัย-อาญา ฐานทำเอกสารเท็จรายงานเจ้ากระทรวง

วันนี้ (5 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมส่วนใหญ่มีมติให้รับเรื่องกรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ร้องขอให้ตรวจสอบกรณีการแจกถุงยังชีพ ซึ่งมีปลากระป๋องที่หมดอายุ โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าชี้แจง เนื่องจากมีหนังสือทางราชการ 2 ฉบับที่มีความขัดแย้งกันเอง โดยฉบับแรกนายวัลลภได้ทำหนังสือที่ พม.0201/1493 ลงวันที่ 19 ม.ค.52 ถึงนายวิฑูรย์ ในฐานะรมว.การพัฒนาสังคมฯในขณะนั้น โดยระบุว่าขอชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า ทางสำนักงานปลัดกระทรวงได้รับการประสานแจ้งว่านายวิเชน สมมาตร มีความประสงค์จะบริจาคถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนใน จ.พัทลุง จำนวน 5 พันชุด โดยจะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งเอง ทางสำนักงานปลัดจึงได้ประสานแจ้งไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พัทลุง (พมจ.พัทลุง) ทราบ เพื่อดำเนินการตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค โดยมีถุงยังชีพที่ส่งมอบและดำเนินการแจกจ่ายให้ประชาชนแล้วจำนวน 1,500 ชุด ทั้งนี้ในช่วงปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมาสำนักงานปลัดฯ ไม่เคยมีการจัดซื้อถุงยังชีพแต่อย่างใด

นายชาญชัย กล่าวต่อว่า จากการประสานขอข้อมูลจากทางอย.และคณะกรรมการที่ลงไปตรวจสอบโรงงานที่ผลิตปลากระป๋องนั้น นายทนง ทองกิ่งแก้ว เจ้าของโรงงานที่ผลิต ภายใต้บริษัท ทองกิ่งแก้วฟู้ดส์ จำกัด ระบุว่า เป็นการขายหน้าโรงงานแต่ไม่ทราบคนจัดซื้อ เป็นการจ่ายเงินสด ส่วนจะนำปลากระป๋องชุดดังกล่าวไปบริจาคหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่มีข้อน่าสงสัยว่าภายหลังเกิดเหตุนายทนงกลับบอกว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บปลากระป๋องล๊อตดังกล่าวคืนมาทั้งหมด ซึ่งเป็นการขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่พูดมาตั้งแต่ต้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า พม.จ.พัทลุงได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรว่า นายวิเชนไม่ได้บริจาคของที่ จ.พัทลุง แต่เป็นการจัดส่งมาจากส่วนกลาง นายชาญชัย กล่าวว่า แสดงว่าหนังสือที่ปลัดกระทรวงทำถึงรัฐมนตรีกับการชี้แจงของ พมจ.พัทลุงขัดกัน เพราะมีหนังสืออีกฉบับหนึ่งทาง พม.จ.พัทลุง ได้ทำถึงสำนักงานปลัดกระทรวงเลขที่ พท.0004/132 ซึ่งระบุว่า ตามหนังสือที่พม.0201/707 ลงวันที่ 9 ม.ค.52 แจ้งว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับการประสานจากนายวิเชนที่มีความประสงค์บริจาคถุงยังชีพ โดยจะบริการจัดส่งให้ถึงพื้นที่จำนวน 5 พันชุดนั้น ทาง พม.จ.พัทลุง ได้รับถุงยังชีพจำนวน 1,500 ชุด ซึ่งจัดส่งถึงพื้นที่วัดท่าสำเภาเหนือ ต.ชัยบุรี อ.เมือง พัทลุง เมื่อวันที่ 11 ม.ค.เรียบร้อยแล้ว แต่ได้มีการเขียนด้วยลายมือกำกับในตอนท้ายของหนังสือว่า “ไม่มีเพราะรับที่พัทลุง”

“ต้องตรวจสอบว่าเอกสารใดเป็นเอกสารเท็จแน่ โดยปลัดกระทรวงต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ หากพิสูจน์ได้ว่านายวิเชนไม่ได้ไปบริจาคในพื้นที่อาจต้องโดนดำเนินคดีอาญา ฐานทำเอกสารรายงานเท็จต่อรัฐมนตรี ผมไม่ได้กล่าวหาว่าปลัดกระทรวงผิด แต่ท่านต้องมาชี้แจงในสัปดาห์หน้า ถ้าไม่มาหรือชี้แจงไม่ตรงกับความจริงผมจะแจ้งความดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และอาจถึงขั้นถูกย้ายทันที” นายชาญชัย กล่าว

ส่วนจะเอาผิดถึงอดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ได้หรือไม่นั้น นายชาญชัย กล่าวว่า ต้องสอบไปตามข้อเท็จจริง โดยไม่ได้กำหนดว่าขอบเขตอยู่ที่ใคร สอบถึงใครคนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครปิดข้อเท็จจริงได้ ดังนั้น ต้องขอความร่วมมือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้จัดเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อง่ายกับการตรวจสอบ ในส่วนของนายทนงนั้น ทางกรรมาธิการฯต้องเรียกมาสอบด้วย ถ้าไม่มาชี้แจงก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญาเช่นกัน และอาจจะให้กรมสรรพากรลงไปสอบถึงการเสียภาษีที่ผ่านมาด้วย แต่เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้จะตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่าบริษัทดังกล่าวเคยขายสินค้าให้กับกระทรวงกี่ครั้ง หากพบว่าผิดปกติรับรองมีคดีอาญาตามมาอีกหลายเรื่องแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญชัยได้แจกเอกสารการชี้แจงของนายทนงต่อ อย.ให้กับผู้สื่อข่าวด้วย โดยเอกสารระบุถึงข้อเท็จจริงกรณีปลากระป๋องมีกลิ่นคาวปลาว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทได้ผลิตปลากระป๋องตามมาตรฐานความสะอาด แต่กลิ่นควาปลาน่าจะมาจากเครื่องคว่ำน้ำปลายที่หมุนเร็วเกินไป จนไม่สามารถทิ้งน้ำในกระป๋องที่เกิดจากการนึ่งออกไปได้หมด ทำให้เติมซอสมะเขือเทศในกระป๋องไม่ได้ตามขนาด เมื่อไปผสมกับน้ำที่เกิดจากการนึ่งปลาจึงมีกลิ่นคาวปลาอย่างแรง ทั้งนี้ ผลวิเคราะห์ของ อย.ระบุว่าไม่พบสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทได้ส่งพนักงานลงไปตรวจสอบและเรียกเก็บสินค้าคืนทั้งหมด พร้อมทั้งกล่าวขอโทษต่อชาวบ้าน และมอบเงินช่วยเหลือไปส่วนหนึ่งผ่านทางผู้ใหญ่บ้านเรียบร้อยแล้ว และได้รับคำยืนยันจากผู้ใหญ่บ้านในที่เกิดเหตุว่า ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากปลากระป๋องดังกล่าว

ส่วนข้อเท็จจริงกรณีวันเดือนปีที่ผลิตไม่ตรงกับความจริงนั้น ในเอกสารได้ยอมรับว่ามีการตีพิมพ์วันเดือนปีที่ผลิตไว้ล่วงหน้าเพื่อเก็บเอาไว้ขายในเดือนถัดไป เนื่องจากโรงงานจะหยุดการผลิตในเดือน ส.ค.51 โดยไม่ทราบว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และพร้อมขอรับโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าบริษัทไม่มีผู้ถือหุ้นเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูง หรือมีตำแหน่งที่ปรึกษาเป็นนักการเมืองตามที่ตกเป็นข่าว ดังนั้นจึงขอความเมตตาสงสารบริษัทและตนด้วย เพราะยังไม่ทราบว่าจะกลับมาทำธุรกิจเมื่อใด และจะส่งผลมูลค่าความเสียหายมากมายจนตนและครอบครัวไม่อาจรับได้
กำลังโหลดความคิดเห็น