“อิสสระ” ลอยลำนั่งเก้าอี้ พม.แทน “วิฑูรย์” นายกฯ ทูลเกล้าฯคืนนี้

ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ลงมติให้ “อิสสระ สมชัย” นั่ง รมว.พัฒนาสังคมฯ แทน “วิฑูรย์” ด้าน “มาร์ค” เตือน รมต.พรรค ทำงานให้ระวัง แนะดูบทเรียน “ปลาป๋องเน่า” เป็นอุทาหรณ์ รับเกรงใจพรรคร่วมไม่มีสิทธิ์ปรับ “บุญจง” ออก “สุเทพ” ยืนยันกับลูกพรรคมั่นใจชี้แจง กกต.ได้ ส่วนว่าที่ รมต.พม.เผยดีใจได้เป็น รมต.ชี้ ให้รอผลการสอบสวน อย่าตัดสินว่า “วิฑูรย์” ผิด

วันนี้ (3 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการประชุมร่วมระหว่าง ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีวาระสำคัญ คือ กรณีที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ ซึ่ง นายวิฑูรย์ ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ตัดสินใจลาออก ก่อนที่จะเข้าพบนายกฯ ในเช้าวันนี้ (3 ก.พ.) เพื่อให้นายกฯ ได้ทำงานอย่างสบายใจขึ้น อย่างไรก็ตาม ในการประชุมพรรคนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอชื่อ นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี ขึ้นแทน นายวิฑูรย์ โดยไม่มีสมาชิกคนใดแย้ง หรือเสนอชื่อบุคคลอื่นชิง และมีมติเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้กล่าวเตือนรัฐมนตรีของพรรค ว่า ให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง โดยนำเรื่องของ นายวิฑูรย์ มาเป็นบทเรียน หากใครทำงานมีปัญหาก็มีมาตรการ 9 ข้อบังคับอยู่แล้ว ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมฯนั้น จะมีการสรรหาใหม่ เพื่อให้รัฐมนตรีได้ทำงานด้วยความสะดวกไม่เป็นที่ครหา ทั้งนี้ เหตุผลที่ นายอิสสระ ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เพราะเป็นโควตาของภาคอีสาน ซึ่งจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีที่มาจากภาคอีสาน เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานทางการเมือง โดยเฉพาะการช่วงชิงฐานเสียงจากพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ จะนำรายชื่อ นายอิสสระ ขึ้นทูลเกล้าฯในคืนวันนี้ด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในที่ประชุมยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการวอร์รูมที่เคยมีการตั้งในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ที่มี นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นประธานร่วมกับ ส.ส.7-8 คน โดยจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์รายวัน และดูประเด็น ถ้ามีเรื่องจำเป็นต้องตอบโต้ทางการเมือง ก็จะตอบโต้ในลักษณะที่สร้างสรรค์ ทันที รวมทั้งจะทำความเข้าใจในสิ่งที่คลาดเคลื่อน ในส่งที่ฝ่ายตรงข้ามพูดจาไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หยิบยกกรณีของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ขึ้นมาหารือ โดย นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปปรับ นายบุญจง ออกได้ เพราะต้องให้เกียรติพรรคร่วม แต่เป็นหน้าที่ของ นายบุญจง ที่ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ได้ ส่วนกรณีของ นายสุเทพ ที่ กกต.จะดำเนินคดีอาญา ในเรื่องการช่วย นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายหาเสียงในการลงสมัคร อบจ.สุราษฎร์ธานี นั้น นายสุเทพ ชี้แจงต่อที่ประชุมพรรค ว่า จะสามารถชี้แจงได้ โดยย้ำว่าตนไม่มีความผิด

ด้าน นายอิสสระ กล่าวภายหลังได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งแทน นายวิฑูรย์ ว่า ดีใจที่พรรคมอบหมายให้ตนทำภารกิจที่สำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยในที่ประชุมมีการเสนอชื่อตนเพียงคนเดียว ไม่มีการเสนอชื่อคนอื่น และมีมติเป็นเอกฉันท์

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ เพราะกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นกระทรวงที่ถูกจับตามากที่สุด นายอิสสระ กล่าวว่า ต้องรอโปรดเกล้าฯก่อน ส่วนขั้นตอนในการทำงานต่อไป ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ยืนยันว่า จะเดินหน้าสานต่อโครงการของรัฐ เช่น โครงการแจกเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ส่วนปัญหาเรื่องถุงยังชีพนั้น คงต้องเข้าไปดูก่อนว่า มีถุงยังชีพที่ยังไม่ได้แจก และแจกไปแล้วมีปัญหาอย่างไร

ส่วนลาออกของ นายวิฑูรย์ นั้น นายอิสสระ เห็นว่า เป็นการแสดงสปิริตคงไม่เกี่ยวกับการรับว่ากระทำความผิด เพราะขั้นตอนต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบที่ตั้งขึ้น 7 คณะ และพี่น้องชาวอีสานก็เข้าใจโดยตนได้อธิบายว่าปลากระป๋องนั้นได้รับการบริจาคมา และมี อย.มีวันที่ผลิต มีวันหมดอายุ อีกตั้งนานกว่าจะหมดอายุ แต่ข้างในมันจะเน่าหรือไม่ก็สุดวิสัยที่จะทราบได้ เมื่อถามต่อว่า ถือว่ามีนอกมีในหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีไปคุมเรื่องนี้อยู่และโรงงานก็เพิ่งจะจัดตั้งขึ้น หลังจากที่รัฐมนตรีเพิ่งจะเข้าไป นายอิสสระ ระบุว่า เรื่องนี้ทราบภายหลังจากที่มีการแจกปลากระป๋องไปแล้ว ในระหว่างนั้นยังไม่ทราบ ซึ่งต้องรอคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง กล่าวว่า ตนเห็นใจ นายวิฑูรย์ เพราะไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนการตัดสินใจลาออกนั้นจะผิดหรือถูก ส่วนตัวไม่มีความเห็น เมื่อถามว่า การลาออกจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ฝ่ายค้านนำไปเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ตอบว่า ความจริงตนคิดว่าพอนายวิฑูรย์ลาออก ไม่ได้เป็นจุดอ่อนเลย แต่กลับเป็นจุดแข็งของพรรคมากกว่า เพราะพรรคมีมาตรฐานในเรื่องนี้ที่เข้มข้นอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ นายวิฑูรย์ ลาออกได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยแล้วหรือยัง นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ยัง แต่ก่อนหน้านี้ ก็ได้โทร.คุยกันหลายครั้ง แต่ไม่ได้ปรึกษากันในเรื่องดังกล่าว เพียงแต่ว่าได้สะท้อนความเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ว่าคนในพื้นที่จริงๆ อาจจะน้อยใจ ว่าได้รับของที่ไม่มีคุณภาพ แต่การออกมาแสดงกดดันรัฐบาลนั้น ไม่มีตนยืนยันได้