“ชวน” เตือนสภาล่มเป็นบทเรียน ตอกฝ่ายค้านเตะถ่วง กม.ช่วยคนแก่

ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป.ชี้ เหตุสภาล่มถือเป็นบทเรียน แฉแผนฝ่ายค้านเตะถ่วงกฎหมายช่วยคนแก่ ขวางการทำงานในสภา ปฏิเสธกลุ่มเพื่อนเนวิน ดึงเกมต่อรอง ไม่เชื่อกงกรรมกงเกวียน ย้ำ อดีต ปชป.เสนอนับองค์ประชาชนกรณีเหตุจำเป็นเท่านั้น

วันนี้ (23 ม.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาการประชุมสภาล่ม เพราะไม่ครบองค์ประชุม ว่า ปกติการนับองค์ประชุมจะใช้ในกฎหมายที่มีความสำคัญ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะเป็นกฎหมายที่มีประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ จึงไม่คิดว่าจะมีการนับองค์ประชุม แต่เมื่อฝ่ายค้านได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ ก็เหมือนกับเป็นการเตือนให้เราได้เตรียมตัว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สภาล่ม จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องเตรียมความพร้อมมากขึ้นกว่าเดิม แม้การเข้าประชุมสภา จะเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกพรรค แต่ในฐานะรัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก ก็ต้องนำ ส.ส.มาประชุมให้ครบ อย่าไปหวังพึ่งฝ่ายค้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ที่ขาดประชุมส่วนใหญ่จะเป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนเนวิน มีนัยการต่อรองอะไรหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่คิดว่ามีการต่อรองอะไร เพราะมี ส.ส.ของพรรคได้ขอลาการประชุมเหมือนกัน อย่าง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน ขอลาการประชุม เพราะติดงานที่ จ.สุราษฎ์ธานี คนที่ลาก็บอกถึงความจำเป็นให้ทราบ ไม่ใช่เป็นเรื่องว่าใครไปต่อรองกับใคร แต่เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะมีการเตือนในครั้งต่อๆ ไป ว่า อย่าได้คิดวางแผนกลับบ้าน ในตอนเย็นวันพฤหัสบดี ให้เปลี่ยนเวลาไป และพรรคคงไม่มีการเรียกมาตักเตือน เพราะทุกคนก็ตระหนักดีอยู่แล้ว ซึ่งจากการสอบถามหลายคนที่ลา ก็ไม่นึกว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ก็ถือเป็นบทเรียนต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อดูจากรายชื่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้พลาดหวังจากตำแหน่งรัฐมนตรี นายชวนกล่าวว่า บางคนก็อยู่อย่าง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ก็อยู่ แต่อาจจะกลับไปก่อนในช่วงที่มีการนับองค์ประชุม เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนมาตรการที่พรรคจะให้วิป 1 คนคุม ส.ส.5 คน ก็คงจะสามารถช่วยได้ เพราะก็มีการคุมกันอยู่แล้ว

“ผมคิดว่าประมาทกันไปหน่อย คงนึกไม่ถึงเพราะคิดว่ากฎหมายนี้สำคัญคงไม่มี ส.ส.ไปนับองค์ประชุม เพราะถ้ากฎหมายไม่ผ่าน ส.ส.คนนั้นก็จะมีปัญหาไปด้วย เดี๋ยวผู้สูงอายุจะหาว่าคุณถ่วงกฎหมาย เขาเลยไม่นึกว่าจะมีการนับองค์ประชุม แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ถือเป็นบทเรียนสำหรับ ส.ส.ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันเพราะเป็นหน้าที่ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นกงกรรมกงเกวียนของเรา เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยเสนอให้นับองค์ประชุมแบบนี้ จะเสนอให้นับองค์ประชุมเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น”

ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมระหว่างเกิดเหตุการณ์สภาล่ม กล่าวถึงข้อสังเกตว่า เป็นประธานจากพรรคเพื่อไทย อาจมีส่วนทำให้สภาล่ม ว่า ขอยืนยันว่า ได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทำตามข้อบังคับ โดยไม่ได้ยึดเรื่องการเมืองพรรคฝ่ายค้าน และพรรครัฐบาล เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และไม่มีใครมาสั่งตนได้ ทั้งนี้ การนับองค์ประชุมถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่สามารถเสนอนับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในสภาได้ ซึ่งช่วงนั้นตนเข้าใจว่าองค์ประชุมน่าจะครบ แต่ก็พยายามไกล่เกลี่ย เพราะไม่อยากให้นับองค์ประชุมเนื่องจากจะเสียเวลา

เมื่อถามว่า ถือเป็นกงกรรมกงเกวียนย้อนมายังพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยทำกับรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ ตอบว่า ตนคิดอีกอย่าง โดยมองว่า เป็นเรื่องธรรมดาขอระบอบรัฐสภา ไม่มีกงกรรมกงเกวียนอะไร ซึ่งสังเกตได้จากสภาในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการพิจารณากฎหมายสำคัญก็มีปัญหาองค์ประชุมก็ไม่ครบอยู่หลายครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา คือ วิปรัฐบาลจะต้องกำชับให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมมากที่สุดเท่าที่ทำได้