xs
xsm
sm
md
lg

ได้เวลาล้าง“ปลาเน่า”ใน พม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิฑูรย์ นามบุตร
ก่อนอื่นต้องชื่นชมสปิริตของ วิฑูรย์ นามบุตร ที่ตัดสินใจลาออกพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์อย่างรวดเร็ว สร้างมาตรฐานทางการเมืองให้กับตัวเองและกับพรรคประชาธิปัตย์ได้อีกระดับหนึ่ง

อีกทั้งยังเป็นการลาออกได้เหมาะเจาะกับช่วงเวลา ทันตามกำหนดที่ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศเอาไว้ ดังนั้นเมื่อออกมารูปนี้ก็ช่วยไม่ได้ที่มีแต่เสียงชมเชยรอบทิศ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในวันข้างหน้า

เพราะถ้าผลสอบจากหน่วยงานอิสระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รวมทั้งสำนักงบประมาณที่ชงเรื่องสอบเอาไว้ สรุปออกมาในภายหลังว่าไม่มีความผิด ก็ย่อมมีความชอบธรรมที่กลับมาอีกครั้ง

อีกด้านหนึ่งก็ถึงเวลาจะต้องสะสางปัญหาภายในกระทรวงพัฒนาสังคมฯ อย่างจริงจังเสียที โดยเฉพาะบรรดาข้าราชการทั้งหลายไล่ตั้งแต่ระดับบนสุดลงมา เพราะจะว่าไปแล้วปัญหาการแจกปลากระป๋องเน่าเสียให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ถ้าหากตาม “ดมกลิ่น” ให้ดีก็น่าจะพบว่าต้นตอมาจากภายในกระทรวงนั่นแหละ

เข้าข่ายประเภท “ชง” มาตามน้ำยังไม่ทันตั้งตัว

เมื่อแยกพิจารณาออกมาเป็นรายบุคคลก็จะพบรอยด่างดวงไม่น่าไว้วางใจให้เห็นชัดขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คงหนีไม่พ้นตัวปลัดกระทรวง ที่ชื่อ วัลลภ พลอยทับทิม นั่นแหละ ทั้งพฤติกรรมส่วนตัวเคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย โยงใยเกี่ยวพันกับเรื่องชู้สาว

อื้อฉาวกันไปพักใหญ่ แต่เหมือนโชคช่วยรอดมาได้หวุดหวิด สามารถกลับเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวเดิมได้อีกครั้งในสมัยรัฐบาล “นอมินี” เครือข่ายระบอบทักษิณ ที่ว่ากันว่ามีความสนิทชิดชอบกับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่น้อย

ว่ากันเฉพาะแบ็กกราวด์เพื่อชี้ให้เห็นถึงว่า มีความเป็นมาไม่ธรรมดาก็ต้องให้เคลียร์ !!

ดังนั้นเมื่อมาถึงกรณีปลากระป๋องเน่า รับรองว่าระดับปลัดกระทรวงน่าจะอยู่ในข่ายต้องถูกสอบสวนด้วยว่ารู้เห็นเป็นใจ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรด้วย

จะหลีกเลี่ยง หลบหลีกไปอย่างลอยนวลไม่ได้เป็นอันขาด

นอกเหนือจากนี้ยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากลภายในหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคมที่มักเรื่องร้องเรียนเข้าหูกันมานานในทำนองว่า มีข้าราชการระดับสูงไล่ลงมาถึงระดับล่างร่วมมือกับพ่อค้าบางกลุ่ม “ทำมาหากิน” กับ สิ่งของ “ด้อยคุณภาพ” ที่บรรจุในถุงยังชีพมานานแล้ว

อีกทั้งยังตั้งงบประมาณสำหรับจัดซื้อสิ่งของ ประเภท สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก บะหมี่สำเร็จรูป ผ้าห่ม เกินกว่าความเป็นจริงเป็นประจำทุกปี ใช้เงินก็ไม่ใช่น้อย

แม้จะมีเสียงโวยวายเป็นระยะ แต่แทบทุกครั้งก็เงียบหายไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าชาวบ้านเหล่านั้นไม่ค่อยมีปากเสียง จึงมักเป็นคลื่นกระทบฝั่ง

สรุปได้ว่าน่าจะเป็นการรู้เห็นเป็นใจทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งจะต้องชะล้างออกไปให้หมด เพราะหากมองในแง่สิทธิมนุษยชนแล้วถือว่าคนกลุ่มนี้มีความ “อำมหิต” เกินกว่าให้อภัยกันได้ เป็นวิธีการทำมาหากิน ซ้ำเติมบนความทุกข์ร้อนของประชาชน

บางครั้งถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวกับสารพัดภัยที่เกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัวแล้วยังมาพบกับเรื่องเลวร้ายในลักษณะดังกล่าวตามมาอีก

ข้าราชการเหล่านี้ถ้าจะว่าไปแล้วยังสะท้อนให้เห็นว่าเป็นผลผลิตของการเมืองเก่า ต่อเนื่องกันมาจาก “ระบอบทักษิณ” ตลอดระยะเวลา 7-8 ปี คอยกัดกร่อน ขัดขวางการพัฒนาประเทศ การอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชนเกินกว่าที่ควรจะเป็น

ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหากรณีปลากระป๋องเน่า รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้งที่นำไปแจกจ่าย ก็น่าจะเชื่อว่ารัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีจะฉวยจังหวะการกวาดล้าง “เหลือบ” ในกระทรวงพัฒนาสังคมกันครั้งใหญ่ เพราะเชื่อว่าเมื่อสาวลึกลงไปก็น่าจะพบเห็น “ของเน่าๆ” ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในมากกว่าที่คิดอย่างแน่นอน

เหมือนกับตีเหล็กต้องฉวยจังหวะตีตอนร้อนๆนั่นแหละถึงจะได้ผล !!
วัลลภ พลอยทับทิม
กำลังโหลดความคิดเห็น