หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เชื่อเสถียรภาพรัฐบาลไม่สั่นคลอน หลังปลาประป๋องเน่าทำพิษ “วิฑูรย์” จนต้องลาออก ระบุปรับ ครม.ไม่เกี่ยวกับพรรค ยัน 3 รมต.ลงมติผ่านงบกลางปี ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (3 ก.พ.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวิฑูรย์ งามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการแจกปลากระป๋องเน่าว่า เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเสถียรภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนเสียง เพราะแม้ว่าจะมีเสียง 300 หรือ 400 เสียง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ประชาชนก็คงรับไม่ได้ ส่วนเรื่องปลากระป๋องเน่าก็ต้องปล่อยให้กระบวนการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม การหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์จะไปพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรีพรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคด้วยหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า พรรคชาติไทยไม่มีปัญหา และพอใจกับโควตารัฐมนตรี และจะไม่ขอโควตาเพิ่มหรือเปลี่ยนตัวบุคคลแต่อย่างใด เพราะพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคที่ไม่โลเลทางการเมือง
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ นายชุมพล กล่าวว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะยื่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลและเนื้อหาว่ามากเพียงพอที่จะยื่นหรือไม่ ขณะที่หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่จำเป็นต้องกำชับรัฐมนตรีของพรรค เพราะนายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติ 9 ประการอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 นายชุมพล กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบและศึกษาเรื่องรัฐธรรมนูญมานาน เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่การลงคะแนนที่รัฐมนตรีมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือได้รับประโยชน์ส่วนตัว เพราะร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนรวม จึงเห็นว่าไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจที่จะวินิจฉัยข้อร้องเรียน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป ส่วนกรณีที่นายเรืองไกรไปยื่นตรวจสอบหลายกรณี ตนถือว่าเป็นเจตนาที่ดี ซึ่งนายเรืองไกรเองก็ถูกยื่นตรวจสอบ ต่างคนต่างตรวจสอบ คนที่ได้ประโยชน์ก็คือประชาชน
ส.ว.กัดไม่ปล่อย“ปลากระป๋องเน่า”
นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร เลขานุการคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งของนายวิฑูร นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า การลาออกของนายวิฑูรถือเป็นการแสดงสปิริต และสร้างบรรทัดฐานที่ให้แก่ฝ่ายบริหาร ซึ่งสอดคล้องการ แนวทาง 9 ข้อที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีรวมถึงมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดำเนินการต่อไป ไม่เกี่ยวกับการลาออกของนายวิฑูร ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯจะดำเนินการตรวจสอบหาพยานหลักฐานโดยจะทำหนังสือแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯต่อไป
วันนี้ (3 ก.พ.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวิฑูรย์ งามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการแจกปลากระป๋องเน่าว่า เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเสถียรภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนเสียง เพราะแม้ว่าจะมีเสียง 300 หรือ 400 เสียง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ประชาชนก็คงรับไม่ได้ ส่วนเรื่องปลากระป๋องเน่าก็ต้องปล่อยให้กระบวนการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม การหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์จะไปพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรีพรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคด้วยหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า พรรคชาติไทยไม่มีปัญหา และพอใจกับโควตารัฐมนตรี และจะไม่ขอโควตาเพิ่มหรือเปลี่ยนตัวบุคคลแต่อย่างใด เพราะพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคที่ไม่โลเลทางการเมือง
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ นายชุมพล กล่าวว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะยื่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลและเนื้อหาว่ามากเพียงพอที่จะยื่นหรือไม่ ขณะที่หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่จำเป็นต้องกำชับรัฐมนตรีของพรรค เพราะนายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติ 9 ประการอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 นายชุมพล กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบและศึกษาเรื่องรัฐธรรมนูญมานาน เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่การลงคะแนนที่รัฐมนตรีมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือได้รับประโยชน์ส่วนตัว เพราะร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนรวม จึงเห็นว่าไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจที่จะวินิจฉัยข้อร้องเรียน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป ส่วนกรณีที่นายเรืองไกรไปยื่นตรวจสอบหลายกรณี ตนถือว่าเป็นเจตนาที่ดี ซึ่งนายเรืองไกรเองก็ถูกยื่นตรวจสอบ ต่างคนต่างตรวจสอบ คนที่ได้ประโยชน์ก็คือประชาชน
ส.ว.กัดไม่ปล่อย“ปลากระป๋องเน่า”
นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร เลขานุการคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งของนายวิฑูร นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า การลาออกของนายวิฑูรถือเป็นการแสดงสปิริต และสร้างบรรทัดฐานที่ให้แก่ฝ่ายบริหาร ซึ่งสอดคล้องการ แนวทาง 9 ข้อที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีรวมถึงมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดำเนินการต่อไป ไม่เกี่ยวกับการลาออกของนายวิฑูร ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯจะดำเนินการตรวจสอบหาพยานหลักฐานโดยจะทำหนังสือแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯต่อไป