xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : ใครว่า “กกต.ของปลอม”!?!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

5 เสือ กกต.ชุดปัจจุบัน
อมรรัตน์ ล้อถิรธร....รายงาน

แทนที่จะกล่าวอำลาตำแหน่ง กกต.ด้วยการอวดผลงานในช่วงที่ผ่านมา แต่ “สุเมธ อุปนิสากร” กลับลุกขึ้นมา “เผาบ้านตัวเอง”- “โยนระเบิด” ใส่เพื่อน กกต.ที่ยังต้องทำหน้าที่ต่อ ด้วยการออกมายอมรับว่า กกต.ชุดนี้ ชุดที่ตัวเองร่วมงานมากว่า 2 ปี เป็นแค่ “กกต.ของปลอม” เพราะตั้งโดย คมช.และไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แม้ไม่อาจคาดเดาว่า ผู้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีต กกต.ผู้นี้ มีวัตถุประสงค์แฝงเร้นใดในคำพูด แต่การพูดที่ให้ร้ายองค์กรตัวเองแบบนี้ ไม่เพียง “เข้าทาง” ม็อบเสื้อแดง และพรรคนอมินีของทักษิณที่พยายามดิสเครดิต คมช.และ กกต.มาตลอด แต่ยังทำให้เพื่อน กกต.ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมา เกิดอาการหมดศรัทธาและสวนกลับ “สุเมธ” อย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ

แม้ภาพความขัดแย้งภายในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดปัจจุบันที่มีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ เป็นประธาน จะปรากฏให้สังคมเห็นอยู่บ้างก่อนหน้านี้จากคำวินิจฉัยให้ใบเหลือง-ใบแดง ของ กกต.ทั้ง 5 คน ที่บางคนถูกตั้งข้อสังเกต ว่า น่าจะอยู่สายพรรคพลังประชาชน สังเกตได้จากการไม่ยอมวินิจฉัยให้ใบแดง ส.ส.พรรคนี้ แต่นั่นก็คงไม่หนักหนาถึงขั้นทำให้ภาพลักษณ์ กกต.ชุดนี้เสื่อมเสีย เพราะ กกต.ส่วนใหญ่ยังได้รับความไว้วางใจ แต่ล่าสุด สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ กกต.บางคนที่กำลังจะหมดวาระในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ได้ออกมาโยนระเบิดใส่ กกต.ด้วยกันเอง

กกต.คนที่ว่านี้ ก็คือ นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม ที่ออกมาเปิดใจในงาน “กกต.พบสื่อมวลชน 899 วัน บนเส้นทางการขับเคลื่อนภารกิจเพื่อชาติ” เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการอำลาการพ้นวาระในวันที่ 8 มี.ค.ที่จะถึงนี้ เพราะมีอายุครบ 70 ปี

ประเด็นสำคัญที่ออกจากปาก นายสุเมธ ในวันนั้น นอกจากการชี้ว่าอาจเกิดปัญหาในการสรรหา กกต.คนใหม่มาแทนตน ว่า ใครจะเป็นผู้ทำหน้าที่สรรหา ระหว่างที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาและคณะกรรมการสรรหา ซึ่งตามกฎหมายแล้ว หาก กกต.ที่พ้นตำแหน่งได้รับการสรรหามาทางใด การสรรหาใหม่ก็ต้องสรรหาผ่านทางนั้น แต่ นายสุเมธ บอกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมาจากสายไหน สายที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา หรือคณะกรรมการสรรหา เพราะได้รับแต่งตั้งเป็น กกต.ในช่วงที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกประกาศแต่งตั้งเมื่อปี 2549

นายสุเมธ ซึ่งกำลังจะพ้นหน้าที่การเป็น กกต.ยังโยนระเบิดใส่ กกต.ที่เหลืออีก 4 คนที่จะต้องทำหน้าที่ต่อไป ด้วยคำพูดที่ว่า “ผมยอมรับว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะถูกตั้งโดย คมช.ไม่ได้ถูกตั้งมาตาม รธน.หรือได้รับการโปรดเกล้าฯ เรื่องนี้ไม่ขอโต้เถียงใครที่กล่าวหา แต่ผมเห็นว่า แม้ไม่ได้มาตาม รธน.แต่กฎหมายก็เปิดโอกาสให้ทำได้”

นายสุเมธ ยังบอกด้วยว่า อยากให้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง กกต.คนใหม่แทนตน เป็นผู้ที่มาจากสายรัฐศาสตร์ (ไม่ใช่สายนิติศาสตร์) เพราะจะได้มาช่วยกันพัฒนาและจัดรูปแบบองค์กร เนื่องจากตอนนี้ (กกต.) ที่มีอยู่เป็นนักกฎหมาย ผู้พิพากษา อัยการ ซึ่งไม่ถนัดการบริหารงาน ทำให้การจัดงานฝ่ายบุคคลล่าช้า

ทั้งนี้ การที่ นายสุเมธ ระบุว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะตั้งโดย คมช.ทำให้ กกต.บางคนออกมาสวนกลับ นายสุเมธ โดยนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง บอกว่า “ท่านพูดว่า กกต.ชุดนี้ปลอม พูดได้อย่างไร ท่านอย่าพูดอะไรให้เกิดประเด็นขึ้นมา และที่บอกว่า ปลอม หมายถึงว่าการพิจารณาต่างๆ แม้แต่ยุบพรรคไทยรักไทยก็ของปลอมด้วย ยืนยัน กกต.ชุดนี้มาโดยชอบจากศาลฎีกาตาม รธน.2540 และมีการปฏิวัติช่วงนั้น ทำให้ คมช.ต้องออกประกาศแต่งตั้งรับรองต่อมา”

นางสดศรี ย้อนถามนายสุเมธ ด้วยว่า “ถ้า กกต.ชุดนี้ปลอม เพราะมาจาก คมช.แล้ว กระบวนการของศาล การเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.จะปลอมหมดหรือไม่ เพราะ กกต.ก็รับรองการเลือกตั้ง ถ้า กกต.ปลอม การเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ถือว่าปลอมด้วย และหาก นายสุเมธ บอกว่า กกต.ปลอม ก็ไม่ควรมารับตำแหน่ง กกต.ตั้งแต่แรก”

นางสดศรี ยังชี้ด้วยว่า การสรรหา กกต.คนใหม่ แทน นายสุเมธ ต้องให้คณะกรรมการสรรหาเป็นผู้สรรหา เพราะ นายสุเมธ มาจากสายคณะกรรมการสรรหา แต่เนื่องจากช่วงนั้น (ส.ค.2549) กรรมการสรรหาไม่ครบตาม รธน.2540 มาตรา 138(1) จึงต้องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาแทนตามมาตรา 138(3)

ด้านนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองกระบวนการสรรหา กกต.คนใหม่แทนนายสุเมธ ว่า หากใช้ช่องทางที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อาจมีปัญหาขัดหรือแย้งต่อ รธน.2550 ได้ ดังนั้นส่วนตัวมองว่า เมื่อ รธน.มีช่องโหว่ ก็ต้องตีความเพื่ออุดช่องโหว่ โดยทางออกที่จะไม่ขัดหรือแย้งกับ รธน.2550 ก็คือ ให้คณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกผู้ที่จะเป็น กกต.ฝั่งละ 2 คนเหมือน รธน.2540 แล้วเสนอไปยังวุฒิสภาเพื่อลงมติให้เหลือผู้สมควรเป็น กกต.1 คน

เมื่อกระบวนการสรรหา กกต.คนใหม่แทนนายสุเมธ ดูเหมือนไม่ชัดเจนว่า ต้องให้องค์กรใดเป็นผู้สรรหา ระหว่างที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา หรือคณะกรรมการสรรหา เพื่อจะได้ไม่ขัดต่อบทบัญญัติของ รธน.2550 รวมทั้งประเด็นที่ว่า กกต.ชุดปัจจุบันเป็น “ของปลอม” ดังที่นายสุเมธว่าไว้หรือไม่ ลองไปฟังมุมมองของผู้ร่วมร่าง รธน.2550 รวมทั้งผู้ที่เสนอให้ คมช.ประกาศรองรับ กกต.ชุดนี้ให้ดำรงแหน่งต่อไป ว่าจะมองประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร

นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2550 ชี้ว่า กระบวนการสรรหา กกต.ของ รธน.2550 ต่างจาก รธน.2540 เพราะการสรรหาตาม รธน.2540 แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งมาจากคณะกรรมการสรรหา อีกส่วนหนึ่งมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และทั้ง 2 ส่วนต้องเสนอผู้เหมาะสมเป็น กกต.ไปยังวุฒิสภาเพื่อคัดเลือกต่อไป แต่การสรรหาตาม รธน.2550 ในขณะนี้ จริงๆ แล้วก็ไม่น่ามีปัญหา แต่เนื่องจากไม่ชัดเจนว่า นายสุเมธ มาจากการสรรหาในส่วนใด ดังนั้น ทางออกที่จะทำให้เรื่องนี้เดินไปได้ ก็คือ ประธานวุฒิสภาควรนัดประชุมคณะกรรมการสรรหา 7 คนตาม รธน.2550 รวมทั้งปรึกษาหารือในส่วนของศาลฎีกาว่า ตกลง การสรรหา กกต.คนใหม่ต้องเริ่มจากคณะกรรมการสรรหาหรือที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก่อน ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่า ต้องให้คณะกรรมการสรรหาเป็นผู้สรรหา กกต.คนใหม่แทนนายสุเมธ เนื่องจากตอนที่นายสุเมธ ได้รับเลือกมาเป็น กกต.นั้น จริงๆ แล้วต้องให้คณะกรรมการสรรหาเป็นผู้สรรหา แต่เผอิญกรรมการสรรหาไม่ครบจำนวน จึงปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจึงทำหน้าที่สรรหาแทน

ส่วนกรณีที่ นายสุเมธ บอกว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะตั้งโดย คมช.และไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ นั้น นายเสรี ชี้ว่า จะบอกว่า คมช.ตั้งก็ไม่ได้เสียทีเดียว เพราะ กกต.ชุดนี้ผ่านกระบวนการในการสรรหาโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตาม รธน.2540 เพียงแต่ คมช.ออกประกาศให้ กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไป ไม่ต้องสิ้นสภาพตาม รธน.2540 ขณะที่ รธน.2550 ก็มีบทเฉพาะกาลรองรับ กกต.ชุดนี้เช่นกัน นายเสรี ยืนยันอีกครั้งว่า กกต.ชุดนี้เป็นของจริงทั้งหมด หากบอกว่าเป็นของปลอม ก็พังกันหมดทั้งประเทศ

“ไม่ปลอมหรอก มันของจริงทั้งนั้นแหละ ถ้าปลอม มันก็พังหมดทั้งประเทศน่ะ เพราะมันทำหน้าที่ไปแล้ว ...ถ้าปลอมคุณสุเมธไปนั่งอยู่ทำไมเล่า ว่ากันจริงๆ คุณสดศรีน่ะพูดถูก คุณก็ต้องแย้งเขา คุณก็ต้องลาออก คุณก็ต้องไม่ทำ คุณไปรับเงินเดือน ไปจัดเลือกสรรหา ส.ว.เลือกตั้ง ส.ส.ท้องถิ่นเยอะแยะ วันดีคืนดีคุณจะพ้น บอกว่า เอ๊ย! ของปลอม การพูดแบบนี้เนี่ย เราก็ต้องติติงกันน่ะว่า เป็นผู้ใหญ่เนี่ย การจะพูดอะไร มันมีผลกับคนฟัง มีผลกับคนทั่วประเทศ มีผลกับระบบ ความเชื่อมั่น ความเชื่อถือ มันเดินไกลขนาดนี้แล้ว ไปพูดของจริงของปลอม มันเดินมาตั้งไกลแล้ว ถ้าบอกปลอม จะไปรื้อเหรอ”

ขณะที่นายเดโช สวนานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 เช่นกัน มองว่า ผู้ที่ต้องทำหน้าที่สรรหา กกต.คนใหม่ แทน นายสุเมธ ก็คือ คณะกรรมการสรรหา ไม่ใช่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อย่างไรก็ตาม นายเดโช แนะว่า เรื่องนี้ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การสรรหา กกต.คนใหม่นั้น ควรเลือกผู้ที่มาจากสายนิติศาสตร์ หรือสายรัฐศาสตร์กันแน่ ซึ่งส่วนตัวแล้วเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ต้องเลือกผู้ที่มาจากสายรัฐศาสตร์ เนื่องจากขณะนี้ กกต.ชุดปัจจุบันมีแต่ผู้ที่มาจากสายนิติศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นเพราะช่วงที่มีการสรรหาโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา (เมื่อปี 2549) เป็นช่วง “ตุลาการภิวัฒน์”

ส่วนกรณีที่ นายสุเมธ บอกว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอมนั้น นายเดโช ยืนยันว่า กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะเมื่อมีการปฏิวัติ คมช.ก็มีอำนาจรัฐาธิปัตย์ สามารถออกคำสั่งให้ใครเป็น กกต.ก็ได้ และคำสั่งของ คมช.ก็ถือว่าเป็นกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายเดโช มองว่า ปัญหาเกี่ยวกับ กกต.ชุดปัจจุบัน มาจากข้อผิดพลาด 2 ประการ คือ 1.ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา (ปี 2549) เลือกแต่สายนิติศาสตร์มาเป็น กกต.ไม่มีสายรัฐศาสตร์ และ 2.น่าจะมีการสรรหา กกต.ใหม่ทั้งหมดหลังมี รธน.2550 แต่ก็ไม่ได้ทำ

“ผมว่าพลาดอยู่ 2 อย่าง จริงๆ พอ คมช.พ้น มัน (กกต.) ควรจะอยู่อีก 3 เดือนก็หมด แล้วก็เลือกใหม่ เหมือนกับองค์กรอื่นทั่วไป โดยปกติจะเป็นอย่างนั้น ไม่ควรจะอยู่ต่อไป 2 องค์กรไม่ใช่เหรอที่อยู่ต่อจนครบ จะมีปัญหาทั้ง 2 องค์กรน่ะ คือ ป.ป.ช.กับ กกต.ปกติแล้วถ้าเขาอยู่ แล้วเขาเลือกใหม่ ไม่มีปัญหา อยู่สัก 1-2 เดือน แล้วก็จัดการเลือกใหม่ตาม รธน.ใหม่ ก็ไม่มีปัญหา นี่ไม่อยู่ตาม รธน.ใหม่ แต่ให้เป็นไปเลย รธน.ใหม่เขียนบอกให้เป็นไปเลย ให้อยู่อีกวาระหนึ่งว่างั้นเถอะ เต็มวาระไปเลย ความจริงคุณสุเมธไม่ต้องออกนะ แกออกเพราะอายุ 70 ต่างหากล่ะ”

ด้านนายไพศาล พืชมงคล ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มองว่า ผู้ที่ต้องทำหน้าที่สรรหา กกต.คนใหม่ แทน นายสุเมธ ก็คือ คณะกรรมการสรรหา ไม่ใช่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เนื่องจากแต่เดิมนั้น นายสุเมธ ต้องมาโดยคณะกรรมการสรรหา แต่เผอิญกรรมการสรรหามีไม่ครบ จึงต้องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาแทน แต่ตอนนี้มีคณะกรรมการสรรหาแล้ว

ส่วนที่ นายสุเมธ บอกว่า กกต.ชุดนี้เป็นของปลอม เพราะตั้งโดย คมช.และไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ นั้น นายไพศาล แย้งว่า จริงๆ แล้ว กระบวนการสรรหา กกต.ชุดนี้ดำเนินการโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และวุฒิสภา คัดเลือกเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าฯ แต่เมื่อมีการรัฐประหาร คมช.ก็มีอำนาจรัฐาธิปัตย์ จึงไม่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ นายไพศาล ยังเผยกับวิทยุ ASTVผู้จัดการ ถึงความลับที่อาจไม่มีใครทราบมาก่อนด้วยว่า ผู้ที่เสนอให้ คมช.ประกาศรับรองให้ กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไป ก็คือ ตนนั่นเอง

“คือ เมื่อก่อนเขา (ศาลฎีกา-วุฒิสภา) เลือก (กกต.) ไปเสร็จแล้วใช่มั้ย อยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าฯ เท่านั้นเอง และมีการรัฐประหาร เมื่อรัฐประหาร รธน.เก่าไม่มี เมื่อไม่มีแล้ว ก็เลยตั้งโดยอำนาจของผู้เป็นรัฐาธิปัตย์ไง ก็ตั้งได้เลย ไม่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ขึ้นอยู่กับภาวะความเป็นรัฐาธิปัตย์ในแต่ละขณะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย ของเก่าทุกอย่าง มีการถกเถียงกันในกองบัญชาการคณะปฏิวัติในช่วงนั้นน่ะ แต่ในที่สุดเขาก็เคาะเอาตามความเห็นผมน่ะ ซึ่งบางความเห็นก็บอกจะเอาคนโน้นคนนี้มาเป็น ผมบอก “ไม่ได้ มันไม่ชอบธรรม เพราะกระบวนการที่สรรหาเก่าเขาเลือกไว้แล้ว ก็ควรจะตั้งชุดนี้แหละเพื่อให้เป็นตามเจตนารมณ์ของวุฒิสภาที่มีการคัดเลือกมาแล้วไง” เพราะฉะนั้นใครก็จึงตำหนิไม่ได้ การอ้างข้อกฎหมายนั้นอ้างไม่ได้หรอก เพราะกฎหมายมันแต่ละขณะ แต่คนนั้นผ่านกระบวนการสรรหามาถูกต้องหมดแล้ว”


ส่วนกรณีที่ นายสุเมธ เสนอว่า กกต.คนใหม่ที่จะมาแทนตนควรมาจากสายรัฐศาสตร์ ไม่ใช่สายนิศาสตร์นั้น นายไพศาล ไม่เห็นด้วย โดยชี้ว่า บ้านเมืองทุกวันนี้ที่มีปัญหาก็มาจากสายรัฐศาสตร์ทั้งนั้นที่ไม่ค่อยจะเคารพกฎหมาย ทำให้ “คนดีติดกับ-คนชั่วลอยนวล” อยู่ร่ำไป

“ก็บ้านเมืองวันนี้ที่มีปัญหามาจากพวกสายรัฐศาสตร์ทั้งนั้น ป.ป.ช.ที่มันเที่ยวถ่วงคดีอยู่วันนี้ พวกสายรัฐศาสตร์ทั้งนั้น พวกนี้ไม่เคารพกฎหมาย ไม่ทำความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายให้ปรากฏ อะไรก็อ้างว่า นโยบาย ความเหมาะสม ซึ่งมันไม่ได้ บ้านเมืองมันต้องทำหน้าที่รักษาขื่อแป เขาให้ใช้พื้นฐานความรู้ทางรัฐศาสตร์ประกอบในการใช้อำนาจตามกฎหมายแต่พวกนี้กลับถ่วงการใช้อำนาจตามกฎหมายเป็นหลัก ก็เลยยุ่งเหยิง คนดีที่ติดอยู่ ก็เลยติดกับอยู่นั่นล่ะ ไม่หลุดออกมาสักทีหนึ่ง ไอ้คนชั่วก็ยังไม่ลงโทษ ยังลอยนวลอยู่ร่ำไป (ถาม-แสดงว่าคุณไพศาลหนุนให้เอาสายนิติศาสตร์ ผู้พิพากษามาเป็น กกต.?) ใช่ การสรรหาที่อาศัยนักวิชาการน่ะเป็นยังไง โดนซื้อป่นปี้หมด องค์กรอิสระที่มีปัญหาเนี่ย”

ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ก็พูดถึงกรณีที่ นายสุเมธ เสนอว่า กกต.คนใหม่ควรมาจากสายรัฐศาสตร์ ไม่ใช่นิติศาสตร์ ว่า คนที่จะเป็น กกต.ไม่ใช่จะต้องมาจากสายรัฐศาสตร์ หรือนิติศาสตร์ อย่างเดียว แต่ต้องมีคุณสมบัติอีกเยอะ เช่น มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ มีจริยธรรมแค่ไหน ไม่ใช่นึกอยากได้สายรัฐศาสตร์ก็สามารถเลือกได้ตามอำเภอใจ เพราะถ้าสายรัฐศาสตร์ แต่ประวัติไม่ดี ไม่สุจริต จะเอามั้ย?
อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.
ประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง
สดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง
สมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย
สุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม ผู้ซึ่งออกมายอมรับว่า กกต.ชุดนี้เป็น ของปลอม
กำลังโหลดความคิดเห็น