3 รองโฆษกฯ เข้าหารือเลขาธิการนายกฯ วางกรอบทำงานให้ชัด หลังเสนอ “ดร.ปณิธาน” แล้วแต่ไม่คืบ “พุทธพงษ์” เผยยังนับถือ-เชื่อมั่นหัวหน้าทีมโฆษก แต่อยากแบ่งงานให้ชัดเจน ยอมรับอึดอัดใจถูกวางกรอบไม่ตอบโต้ทางการเมือง
นายพุทธพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาในการทำงานร่วมกันของทีมโฆษกรัฐบาลว่า ข่าวที่ออกมานั้นมาจากที่ว่าครบ 1 เดือนการทำงานของทีมงานโฆษกฯ ผู้สื่อข่าวได้มาสอบถามว่ามีปัญหาอะไรที่อยากจะปรับปรุงแก้ไข รับทราบจากสื่อมวลชนขาดตกบกพร่องในการสื่อสาร ซึ่งส่วนดีก็มีเยอะ แต่เมื่อมาถามเฉพาะเรื่องที่ต้องปรับปรุง ตนถึงพูดเฉพาะในสิ่งที่ต้องปรับปรุง จึงมองว่ามีแต่เรื่องลบ ซึงสิ่งที่ตนพูดไปก็พูดไปตามความรู้สึก การเป็นโฆษกรัฐบาลก็หลีกเลี่ยงในการถามตอบชี้แจงประเด็นของการเมืองบ้าง ที่ผ่านมาแทบไม่มีเลย ทำให้การทำงานของทีมโฆษกฯ กับผู้สื่อข่าวเกิดช่องว่างพอสมควร ผู้สื่อข่าวก็มาเปรยกับตนหลายคน ไม่รู้จะไปถามใคร อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องกลับไปถามที่พรรค ไปที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วถ้าเป็นประเด็นการเมืองที่เกี่ยวกับรัฐบาล มันหลีกเลี่ยงไม่ได้มันเป็นหน้าที่ของโฆษกรัฐบาล จะมากจะน้อยเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะมาคุยกันที การที่ไม่มีเลยตนคิดว่าไม่เหมาะสมเท่าไร แค่นั้นเอง มันมีปัญหาในรองโฆษกฯ ทั้ง 3 ท่านว่า การทำงานกับสื่อมวลชนก็ได้สะท้อนมาจริงๆ ว่ามันไม่มีแกนกลางในการสอบถาม งานของกระทรวงไม่ได้รับการสื่อสาร
“อย่างที่บอกไม่ใช่ผมคนเดียว เพราะรองโฆษกฯ อีก 2 ท่าน เป็นคนมาพูดกับผมด้วยซ้ำไป ในฐานะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ให้พูดกับผู้ใหญ่หน่อยว่า กรอบการทำงานยังไม่แบ่งชัดเจน ซึ่งทุกคนหวังดีที่จะทำงาน อาจจะเปรยมาบ้าง รองโฆษกฯ บางท่านก็เปรยขึ้นมาเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ จริงๆ ถ้าเปิดโอกาสได้ไปบ้าง ก็อยากติดตามไปดูงานบ้าง ได้พูดมุมมองที่ไปบ้างเท่านั้นเอง ที่ผ่านโฆษกฯ ยังไม่ได้มีการมอบหมายจากต่างประเทศเพื่อแบ่งเบา
รองโฆษกฯ ทั้ง 3 คนได้เข้าไปพบนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เล่าความไม่สบายใจในการทำงาน ช่วงเย็นหลังการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเชื่อว่าเลขาธิการนายกฯ ได้นำเรียนนายกฯ แล้ว ขอเรียนว่ารองโฆษกฯ ทั้ง 3 คนไม่ได้มีอะไรส่วนตัวกับท่านอาจารย์ปณิธานเลย เคารพและเชื่อในความสามารถ ความเป็นนักวิชาการ แต่เรามองในการงานว่า ถ้าทำให้ทีมโฆษกฯ สมบูรณ์ก็น่าจะเพิ่มเติมโดยการแบ่งงานให้ชัดเจน ให้เวลากับสำนักโฆษกฯ ให้มากกว่านี้ ไม่ได้ถึงกับว่า ทำงานร่วมกันไม่ได้” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ไหมที่จะมานั่งคุยกันโดยไม่ต้องพูดผ่านผู้ใหญ่ในรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า คือสิ่งที่ควรทำมาตลอด เนื่องจากข่าวการเมือง ข่าวรัฐบาล ควรมีการประชุมร่วมกันทุกวันด้วยซ้ำว่ามีอะไรควรนำเสนอ ที่ผ่านมา 1 เดือน ประชุมครั้งเดียว ระหว่างรองโฆษกฯ กับโฆษกฯ ไม่ใช่ตนที่รู้สึกส่วนตัว รองโฆษกฯ 2 คนก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน ว่าไม่ถูกต้อง เมื่อมาถึงวันนี้ไม่อยากให้มองว่าแตกแยก แต่อยากให้มองการทำงาน เพียงแต่ขอให้โฆษกฯ เปิดกรอบให้พวกเราทำงานกันอย่างเต็มที่ก็จะดีขึ้น เราได้รับการวางกรอบเอาไว้ไม่อยากให้มีการตอบโต้ทางการเมือง อยากให้เป็นเรื่องผลงานรัฐบาล ซึ่งก็เข้าใจเชิงวิชาการ แต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะสื่อทำเนียบไม่ได้ทำงานแค่งานรัฐบาลเท่านั้น
“เบื้องต้นขอเรียนว่าไม่ได้ทำอะไรข้ามขั้นตอน ผมได้เสนอพร้อมกันทั้ง 3 ท่านกับอาจารย์ปณิธานครั้งแรกและครั้งเดียวที่เรามีไปแล้ว แต่เวลาผ่านมา 3 อาทิตย์ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงขอหารือผ่านทางเลขาฯ นิพนธ์ ให้ได้รับทราบว่าอยากให้ปรับปรุงการทำงาน ใกล้ชิดสื่อมวลชนมากขึ้น เพราะความห่างเหินมันมาก”
เมื่อถามว่าจากที่ได้เรียนผู้ใหญ่ในรัฐบาลแล้ว ผลตอบรับกลับมาเป็นอย่างไรบ้าง ต้องมีการปรับปรุงการทำงานกันใหม่ หรือต้องเปลี่ยนตัวโฆษกประจำสำนักนายกฯ คนใหม่ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องอื่นๆ ตนคงไม่อยู่ในอำนาจที่จะตอบคำถามได้ แต่ในเบื้องต้นนายกฯ ได้มอบหมายออกมาพูดประเด็นการเมืองจากนี้ต่อไป ถ้ามีประเด็นอะไรที่ตอบโต้ กล่าวหารัฐบาล ไม่มีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริง ตนจะเป็นคนชี้แจง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากนี้เรื่องการเมืองไม่ต้องรองรับมอบหมายจากโฆษกฯ เพราะตนได้รับมอบหมายจากนายกฯ มาอนุญาตให้ตนทำได้ ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง เพราะตนได้ทำงานในสิ่งที่รัฐบาลขาดอยู่ เรื่องของตำแหน่งไม่สำคัญสำหรับตน และจนถึงขณะนี้หลังเกิดเรื่องขึ้นมาอาจารย์ปณิธานยังไม่ได้เรียกไปพูดคุยเลย