นายกรัฐมนตรีขอรอดูข้อมูลฝ่ายค้านโยง “ประชัย” โอนเงินให้พรรค ปชป.250 ล้าน เมื่อปี 48 ระบุยังไม่ได้นั่งหัวหน้าพรรค ไม่รู้ที่มาเป็นอย่างไร ลั่นหากโยงถึงใครก็จำต้องชี้แจงให้กระจ่าง
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสภาวันนี้ (12ก.พ.) ว่า คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามปกติ วันนี้ทุกคนคงเห็นความจำเป็น ที่จะต้องเดินหน้าในเรื่องของงบประมาณ เพราะว่าปัญหาเศรษฐกิจมีมาก โดยงบประมาณที่ออกไปจะเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อ กระตุ้นตลาด ทำให้เกิดการจ้างงาน รวมถึงมีหลายโครงการที่เป็นผลประโยชน์โดยตรงของประชาชน เชื่อว่าในที่สุดกระบวนการนี้ต้องเรียบร้อย สมาชิกสภาคงจะให้ความร่วมมือ แต่ว่าข้อสังเกตกับมุมมองที่ต่างกันรัฐบาลก็เปิดโอกาสให้แสดงได้เต็มที่
เมื่อถามว่ากรณีที่มีข่าวว่านายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย จ่ายเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ 250 ล้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยเห็นในข่าวว่าเป็นภาพโฆษณา ส่วนจะโยงใยกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้นยังไม่ทราบว่าทั้งหมดมันช่วงไหน อย่างไร และเป็นประเด็นอะไร ก็ต้องไปรอฟังข้อมูลของทางฝ่ายค้านก่อน
เมื่อถามว่ามีการอ้างข้อมูลว่ามีการโอนเงินล้านถึง 2 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน จากการเลือกตั้งช่วงปี 48 เข้าบัญชีของ ส.ส.หญิงคนหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ทราบจริงๆ ช่วงปี 48 ช่วงนั้นก็เป็นก่อนที่ตนจะเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนตรงส่วนนั้นจะเป็นผลผูกพันถึงคณะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ก็ต้องขอฟังข้อมูลก่อนว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง และใครที่ถูกพาดพิงก็คงต้องชี้แจงกันไป ส่วนจะไปตรวจสอบว่ามี ส.ส.หญิงของพรรคคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น อยากจะให้มีความชัดเจนในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นระบบ
“ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการบริหารการทำงานของรัฐบาลหรือไม่นั้น เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ว่าเมื่อมีคำถามและนำเสนอข้อมูลมาก็จะต้องมีการชี้แจงตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีสิทธิ์ตรวจสอบประเด็นที่คิดว่ามีผลต่อความน่าไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดิน และคิดว่าถ้าอยู่ในกรอบนี้ เราต้องดูอีกทีหนึ่งว่าเขาเขียนญัตติและเสนอข้อมูลนี้ แล้วโยงมาประเด็นนี้อย่างไรถึงจะตอบได้ เมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจนก็จะต้องตรวจสอบแต่ในขณะนี้ ยังไม่ได้มีการระบุตามที่ตนฟังมาได้มีการพูดผ่านๆ ทำให้ก็ยากเหมือนกันในการที่จะดูว่าหมายถึงประเด็นไหน อย่างไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า ตนเคยมีการจ่ายเงินจำนวน 250 ล้านบาทจริง แต่เป็นการจ่ายเงินค่าโฆษณา และไม่คิดว่าจะมีความผิด เนื่องจากในช่วงดังกล่าวยังเป็นการใช้รัฐธรรมนูญ ปี 40 ซึ่งไม่มีการระบุความผิดในการบริจาคเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งผิดกับรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งมีการระบุถึงความผิดในการให้เงินบริจาคพรรคการเมือง