xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คเมินแม้วขอแก้ปัญหาปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กล่าวถึงกรณีที่ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ในวันอังคารที่ 24 ก.พ.นี้ว่า ถ้ามาชุมนุมตามกฎหมาย จะยืดเยื้อหรือไม่ก็ทำได้ไม่เป็นปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงเวลาดังกล่าวใกล้วันประชุมอาเซียน ซัมมิต กังวลต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรา คาดการณ์อยู่แล้ว ผู้ที่ทำงานเรื่องนี้ ก็เตรียมการไว้แล้ว จะพยายามทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและประชาชน ขอยืนยันว่า บรรยากาศของบ้านเมืองในขณะนี้ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างมีความก้าวหน้าไปมาก ความสำคัญที่เราจะต้องยืนยันยันความพร้อมในฐานะที่เราเป็นประธาน เจ้าภาพอาเซียนในการจัดงาน จะมีผลสำคัญต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาประชาชนต่อไป อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงตรงนี้ ตนเข้าใจดีคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง อยากจะแสดงความคิดเห็นหรืออยากเรียกร้อง แต่อย่าให้กระทบต่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯรัฐบาลโฟนอินมายังชุมนุมจะยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวสั้นๆว่า มีคำถามอื่นอีกไหมคับ
เมื่อถามอีกว่านายกฯหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ท้ายสุดก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดีเพราะอีกฝ่ายยังไม่หยุดเคลื่อนไหว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันไม่มีอะไรใหม่ๆ ต่อข้อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณว่า พร้อมตายแต่ไม่ยอมแพ้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลคือแก้ปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ ตนจะสนใจตรงนี้
ผู้สื่อช่าวถามว่าหมายความว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานของรัฐบาลเลย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่หรอกเพราะรัฐบาลต้องรักษากฎหมาย ต่อข้อถามว่า จะรบกวนสมาธิในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ จะเห็นว่า ตนทำงานตามปกติ ให้ความใส่ใจกับปัญหาประชาชนเป็นหลัก เดินหน้าทำงานต่อไป
ต่อข้อถามว่า นายกฯมองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เป็นปัญหาในการปฏิบัติงานของรัฐบาลอีกต่อไป หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่า มีหน้าที่ ในการบริหารงาน ส่วนใครจะมีปัญหาของตัวเองอย่างไรก็มีสิทธิ์ที่จะพูดได้ แต่มันไม่ใช่ งานของรัฐบาล เราให้ความสำคัญกับคนทั้งประเทศ ส่วนที่ไปกล่าวหาพาดพิงใคร ก็ชี้แจงกันไป ส่วนของรัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง เราชี้แจงเฉพาะงานของเรา เช่นเรื่องเศรฐษกิจที่จะต้องยืนยันว่ารัฐบาลเข้ามาในภาวะที่เศรษฐกิจติดลบมาตั้งแต่ไตรมาศสุดท้ายแล้ว
ส่วนจะให้หน่วยงานด้านความมั่นคงคอยติดตามตลอดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามีหน้าที่ติดตามอยู่แล้ว ใครทำผิดกฎหมายก็ถูกดำเนินการ ใครไม่ทำผิดกฎหมายก็มีสิทธิ์จะทำในสิ่งที่เขาอยากทำ
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดว่ารัฐบาลชุดนี้แก้ปัญหาเศรษบกิจไม่ได้ ทำให้กระทบความเชื่อมั่นต่อประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงก็คือ ความจริง รัฐบาลมีมาตรการอยู่แล้ว อีกทั้งประชาชนก็เข้าใจดีว่าสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตอนนี้เป็นอย่างไร ตนเชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชนที่แยกแยะได้ หากทำไม่ได้ก็พร้อมที่จะเปิดทาง เป็นปกติธรรมดาของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ถามย้ำว่า วันนี้ยังคิดว่าทำได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมั่นใจอยู่ ว่าแนงทางที่ทำมาเป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาในขณะนี้ได้ และประคับประคองกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษา พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดโฟนอินปลุกกระแสและขอให้กลับมาต่อสู้คดี เพราะการโฟนอินกับกลุ่มคนเสื้อแดง จะยิ่งทำให้ปัญหาไม่จบ ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 24 ก.พ. ที่อาจจะมากันจำนวนมาก แต่รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ขณะเดียวกัน อยากขอร้องกลุ่มคนเสื้อแดงให้ใช้เหตุผล อย่าบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ
คิดว่าเขาคงมากันมาก เพราะไม่ได้ยืดเยื้อ เป็นครั้ง เป็นคราว ที่เรียกกันมา ก็ยังอยากฝากอดีตนายกฯ ทักษิณว่า มีอะไรน่าจะทำความเข้าใจกัน หรือท่านอยากจะกลับมาเมืองไทยก็กลับมาได้เลย ถ้าไปเติมเชื้อเพลิงอย่างนี้บ่อย ๆ จะทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ฉะนั้น ท่านจะกลับวันนี้ พรุ่งนี้ ก็มาได้เลย มาต่อสู้คดีในประเทศไทยตามตัวบทกฎหมาย
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้เตรียมทหารและแก๊สน้ำตาไว้รับมือนั้น ถือเป็นหลักการที่ต้องเตรียมพร้อมในการรักษาสถานที่สำคัญ โดยตำรวจได้ขอทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
พล.ต.สนั่น กล่าวด้วยว่า ไม่รู้สึกกังวลหรือเป็นห่วงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะจากการประเมินการทำงานของรัฐบาลเกือบ 2 เดือน ไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นความบกพร่อง ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาเรื่องปลากระป๋องเน่าเสีย เป็นเรื่องที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและรัฐมนตรีได้แสดงสปิริตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีทุกคนก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะชี้แจง แต่ยังเชื่อว่าจะผ่านพ้นการอภิปรายไปได้
เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายฯ ซึ่งก็เกิดขึ้นตามฤดูกาล ทุกคนต้องเตรียมตัว สำรวจตรวจสอบว่า งานที่ทำบกพร่องหรือไม่ แต่ผมยังมองไม่เห็น ยังไม่ทราบว่าประเด็นอะไรบ้างที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านอาจหยิบยกประเด็นข่าวการบริจาคเงิน 250 ล้านบาท ให้พรรคประชาธิปัตย์มาอภิปรายฯ นั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะชี้แจง ซึ่งเท่าที่ทราบรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ไม่ได้กำหนดเพดานการบริจาค จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้ ยืนยันว่า การทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาหรือขัดแย้งกัน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร อยากให้รัฐบาลตระหนักในเรื่องการเข้าร่วมประชุม อย่าให้เสียงปริ่มน้ำ ควรเอางานมาทำที่สภาฯ อย่างที่นายกรัฐมนตรีได้ขอเอาไว้ ขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านเองควรจะพิจารณาว่า ในแต่ละครั้งมีความจำเป็นต้องเสนอนับองค์ประชุมหรือไม่
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นการพูดในประเด็นเดิมๆ พาดพิงถึงการตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ และการที่พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าจะกลับมาเมืองไทย ซึ่งทุกฝ่ายก็เรียกร้องให้กลับมาได้ตลอดเวลา แต่จะกลับมาหรือไม่อยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณเอง และกระบวนการยุติธรรมก็รออยู่ ไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลัวตายหรือไม่ แต่คิดว่ากลัวติดคุกมากกว่า เพราะถ้าไม่กลัวติดคุกคงจะกลับมานานแล้ว คงไม่เคลื่อนไหวก่อกวนทำลายความเชื่อมั่นประเทศไทยอยู่ที่ต่างประเทศเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนที่ระบุว่ารัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายประชานิยม และทำเพื่อคะแนนเสียงนั้น นายเทพไท ยืนยันว่าแม้จะเป็นประชานิยม แต่วิธีการของรัฐบาลเป็นแนวทางที่รัฐบาลทั่วโลกใช้กัน การทำนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์แม้จะเหมือนกันในเรื่องที่ประชานิยมได้รับประโยชน์แต่แตกต่างในเรื่องรายละเอียด เพราะเราไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีการทุจริตเชิงนโยบาย เราเชื่อว่าเม็ดเงินที่รัฐบาลกระตุ้นในระบบเศรษฐกิจถึงมือประชาชนไม่อยู่ในกระเป๋านักการเมือง หรือกลุ่มทุนนายทุนเหมือนสมัยรัฐบาลทักษิณ
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวน เรื่องเงินบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องเงินบริจาค 250 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ไม่มีข้อเท็จจริง เป็นการโฆษณาเพื่อดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า เชื่อว่ากระบวนการทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเลย แต่หากมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือพรรคมีส่วนได้เสีย ตนที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคในยุคนั้นก็น่าจะรับทราบ แต่ก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลยในขณะนั้น เป็นเรื่องของการจินตนาการ พยายามโยงมา
เพื่อเอาผิดพรรคให้ได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และหลังจากนี้ไปคงจะยุติไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว ปล่อยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบสวนไป
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านดึงนายประจวบ สันขาว เจ้าของบริษัทโฆษณา ไปเป็นพวกในการให้ข้อมูลนั้น นายเทพไท กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะดึงใครก็ได้ แต่ความจริงก็คือความจริง ซึ่งตนก็ไม่รู้จักนายประจวบมาก่อนว่าเป็นใครมาจากไหน ส่วนที่นายไทกร พลสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคมัชฌิมาธิปไตย ออกมาระบุว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายค่าโฆษณาและหลักฐานเอกสารการโอนเงิน อยู่ในมือฝ่ายค้านแล้วนั้นไม่รู้ข้อมูลนายไทกรมาจากไหน ไม่รู้มีใบเสร็จอะไรบ้าง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธปัตย์ ถ้าเป็นใบเสร็จที่เกี่ยวกับธุรกิจระหว่างทีพีไอกับบริษัทโฆษณาก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องออกใบเสร็จ
ผมยืนยันว่าไม่มีบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์แน่นอน แต่หากจะมีก็เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่ต้องไปสอบหาข้อเท็จจริง แต่หากจะหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ ต้องเข้าบัญชีพรรคประชาธิปัตย์ หรือบัญชีแกนนำของพรรค ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นมีปรากฎมาก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น