xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” พบสื่อยุ่น ลั่นสร้างเร่งสมานฉันท์ เร่งเดินหน้ากระตุ้นศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” พบสมาคมสื่อญี่ปุ่น แจงเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น ผสานความสมานฉันท์ ยอมรับยังติดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ยันจัดการปัญหาภายใต้กฎหมายไม่ใช้ความรุนแรง เผยส่งออก-ท่องเที่ยวลด เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนกรณีโรฮิงยาย้ำยึดหลักความถูกต้อง ไม่เปลี่ยนสถานะเป็นผู้อพยพ

วันนี้ (6 ก.พ.) เวลา 9.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Imperial กรุงโตเกียว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสมาคมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น (Japan National Press Club) ว่า เป้าหมายและภารกิจหลักของรัฐบาล คือ การฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางการเมืองและสมานฉันท์ รวมถึงการแก้ปัญหาผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ในการนี้ รัฐบาลดำเนินการหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ ขณะนี้รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบร่างความตกลง ที่จะต้องนำเข้าสู่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่รัฐบาลจะเดินหน้าทำงานต่อไปให้สำเร็จ รวมถึงผลการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้ประเทศภายใต้การบริหารของรัฐบาลเดินหน้าต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยังคงมีอยู่ แต่รัฐบาลจะบริหารจัดการภายใต้กรอบของกฎหมาย และไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา รวมถึงจะไม่เพิ่มความขัดแย้งใดๆ โดยการแก้ปัญหาทางการเมือง จะเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ที่เป็นธรรม ส่วนการปฎิรูปการเมืองนับเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ในการนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าเป็นรัฐบาลที่ทำงานเพื่อประชาชนทุกคน

ส่วนปัญหาผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ นายกฯ เห็นว่าจะต้องดำเนินการให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไป แม้ว่าในปีที่แล้วการส่งออกและการท่องเที่ยวมูลค่าจะลดลง ซึ่งรัฐบาลจะต้องคงไว้ซึ่งความต้องการทางเศรษฐกิจ และเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มีจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคมนี้

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกกรณีการประท้วงปิดสนามบินว่า รัฐบาลได้ดำเนินการด้านการรักษาความปลอดภัย และมาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้น เพื่อให้ความมั่นใจต่อนักท่องเที่ยวและนักเดินทาง ทั้งนี้ในตอนท้ายได้ตอบคำถามสื่อมวลชนญี่ปุ่น กรณีกลุ่มชนโรฮิงยา ที่มีข่าวว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ไทยว่า กลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้อพยพ แต่เป็นการหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าไม่การกระทำดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งนี้ การแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องมีความร่วมมือจากหลายประเทศที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลยินดีทำงานร่วมกับ UNHCR ในเรื่องดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น