“สุนัย” ตีสำนวนโวหารด่าประชาธิปัตย์กลางสภา เป็นพรรคชอบทำลายคนดี โดนประท้วงวุ่น จน “อภิวันท์” ต้องสั่งถอนคำพูด แต่ไม่ยอมทำตาม อ้างห้ามพูดความจริงไม่ได้ ต้องถูกเชิญออกนอกห้องประชุมในที่สุด
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระด่วน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 หลังจากที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ได้ชี้แจง ตอบโต้คำอภิปรายของนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เรื่องการใช้งบประมาณของกระทรวงศึกษาในการจัดซื้อชุดนักเรียนและหนังสือเรียนฟรีแล้ว นายสุนัยได้ขอใช้สิทธิพาดพิงและอภิปรายเพิ่มเติมถึงเรื่องดังกล่าว และเมื่อนายสุนัยอภิปรายไปได้สักพัก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ลุกขึ้นประท้วงว่านายสุนัยอภิปรายซ้ำซากและวกวน เพราะเคยอภิปรายมารอบหนึ่งแล้ว ซึ่ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้วินิจฉัยว่านายสุนัย สามารถอภิปรายต่อได้ และให้นายสุนัยรีบสรุปประเด็น
อย่างไรก็ตาม นายสุนัยได้อภิปรายเสียดสีพรรคประชาธิปัตย์ว่า วันนี้เป็นการเปิดโปงพรรคประชาธิปัตย์ และบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ชอบทำลายคนดี โดยมีตัวอย่างมาตั้งแต่ปี 2490 ซึ่งคำอภิปรายดังกล่าวทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง พ.อ.อภิวันท์ จึงได้มีคำวินิจฉัยแล้วสั่งให้นายสุนัยถอนคำพูด ซึ่งนายสุนัยไม่ยอมถอน โดยอ้างว่าจะห้ามไม่ให้ตนพูดความจริงไม่ได้ พ.อ.อภิวันท์จึงได้เชิญนายสุนัยออกนอกห้องประชุม ก่อนให้มีการประชุมต่อ
โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงในฐานะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้คำอภิปรายของนายสุนัยที่กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่าข้อกล่าวหาของนายสุนัยทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับความเสียหาย และยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายใคร แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้ชาติบ้านเมือง และได้มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาวิกฤติให้ประเทศหลายครั้ง เช่น หลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 และวิกฤติการเมืองครั้งล่าสุดนี้ด้วย