ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายมีมติตรงกันหวังใช้เวทีสภาฯ จุดประกายสมานฉันท์อย่างเป็นรูปธรรม 24 ชั่วโมงเต็ม ฝันเห็น ส.ส.เลิกเสียดสี เกรี้ยวกราดกลางสภา เห็นพ้องตั้ง กมธ.สอบการใช้อำนาจรัฐในสถานการณ์ฉุกเฉิน-แก้ไข รธน.
วันนี้ (21 เม.ย.) ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล วิปฝ่ายค้านและวิปวุฒิสภา โดยมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาลเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ หลังจากใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง นายชินวรณ์แถลงในนามวิปของทั้ง 3 ฝ่ายว่า ที่ประชุมได้ตกลงกันว่าต้องการให้การประชุมร่วมของรัฐสภาในวันที่ 22 และ 23 เม.ย.นี้เป็นเวทีในการเสนอทางออกและข้อเสนอแนะปัญหาแก้ไขวิกฤตและความสามัคคีของคนในชาติ ต้องการเห็นการใช้เวทีสภาฯ คลี่คลายปัญหา ดังนั้น การอภิปรายจะเป็นไปในลักษณะสร้างสรรค์ ไม่เสียดสี เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งซึ่งกันและกัน เพราะต้องการให้ประชาชนทั้งประเทศเชื่อมั่นว่าระบบรัฐสภาสามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงได้จัดสรรเวลาในการอภิปรายไว้ทั้งหมด 24 ชั่วโมง แยกเป็นรัฐมนตรีชี้แจง 4 ชั่วโมง หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอภิปราย 2 ชั่วโมง ในขณะที่ ส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภาจะได้เวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 6 ชั่วโมง โดยจะขอให้แต่ละฝ่ายไปบริหารเวลากันเอง
นายชินวรณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นที่ประชุมยังมีความเห็นร่วมกันในหลักการที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญของรัฐสภาเพื่อประมวลการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อเป็นการสอบทานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และฝ่ายนโยบาย ขณะเดียวกันก็เห็นพ้องที่จะให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อดำเนินการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่เนื่องจากรัฐบาลได้เสนอให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมร่วมกันเพื่อขอคำเสนอแนะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 จึงทำให้การประชุมในครั้งนี้ไม่สามารถจะลงมติใดๆ ได้หรือตั้งกรรมาธิการใดๆ ได้ ดังนั้น วิปของทั้งสามฝ่ายจะหารือรอบนอกร่วมกันเพื่อให้ประธานรัฐสภานำข้อเสนอแนะดังกล่าวนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป เมื่อถามว่าได้คุยถึงการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคต่างๆด้วยหรือไม่ นายชินวรณ์ตอบว่า ยังไม่ได้ลงรายละเอียด เป็นเพียงแค่วางกรอบเท่านั้น หากที่ประชุมรัฐสภามีความเห็นอย่างไร วิปรัฐบาลยินดี
ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า ฝ่ายค้านคาดหวังว่าจะมีการเร่งตั้งคณะกรรมาธิกร่วมกันใน 2 กรณี ซึ่งกรรมาธิการฯทั้งสองคณะจะเริ่มดำเนินการหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกัน คาดว่าในสัปดาห์ต่อไปหากประธานรัฐสภาเรียกประชุมร่วมทั้งสองสภาอีกครั้งก็จะสามารถเสนอตั้งกรรมาธิการทั้งสองคณะได้ทันที
ขณะที่ นายดิเรก ถึงฝั่ง วิปวุฒิสภา กล่าวเสริมว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องดันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้คงต้องนำข้อหารือนี้ไปขอมติจากที่ประชุมวุฒิสภาอีกครั้ง