“วิจิตร” ชี้เรียนฟรี 15 ปี ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ต้องจัดงบเพิ่ม ย้ำทำการศึกษานอกระบบอย่างจริงจัง

“วิจิตร” ชี้ รัฐจะให้เรียนฟรีจริง จะต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่ม ระบุ เคยคำนวณไว้สมัยเป็น รมว.ศธ.ใช้งบ 30,000 ล้านบาท ให้เรียนฟรีได้ 12 ปี หากรัฐบาลแน่วแน่เชื่อไม่ใช่เรื่องใหญ่ พร้อมย้ำให้ทำเรื่องการศึกษานอกระบบอย่างจริงจังด้วย

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน อดีต รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงนโยบายเรียนฟรีของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เรื่องดังกล่าวกำหนดอยู่ในรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล และประกาศว่า จะดำเนินการอย่างจริงจัง ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และยิ่งถ้าได้ 15 ปี ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่จะเป็นปัญหาสำหรับการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ก็คือ ต้องเพิ่มงบประมาณ เนื่องจากที่ผ่านมางบประมาณในการจัดการศึกษาที่โรงเรียนได้รับไม่เพียงพอทำให้โรงเรียนต้องเก็บค่าใช้จ่ายอื่นมาเสริม

เพราะฉะนั้นหากรัฐบาลจะจัดการศึกษาให้ฟรีจริงจะต้องทำให้ได้เหมือนกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ไม่เก็บอะไรเลย และยังมีการประกันโอกาสให้แก่ผู้ยากไร้ ด้วยการขจัดปัญหาต่างๆ ที่จะทำให้ด็กเรียนไม่ได้ คือ การดูแลเรื่องความยากจน เสื้อผ้าชุดนักเรียน อาหาร

ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลจะยังไม่ระบุชัดเจนได้ว่า เรียนฟรีในความหมายของรัฐบาล คือ อะไร แต่ตนคิดว่า จริงๆ แล้วสามารถบอกได้ว่า เอาตามแนวทางของ กทม.และอุดหนุนคนยากจน ยากไร้ที่อาจจะมีอุปสรรคให้สามารถเรียนได้ ซึ่งสมัยที่ตนเป็น รมว.ศึกษาธิการก็เคยคำนวณไว้แล้วว่า จะต้องใช้งบประมาณ 30,000 ล้านบาท ในการจัดระดับ 12 ปีแรก ซึ่งไม่น่ามีปัญหา เพราะกระทรวงมีงบประมาณถึง 300,000 กว่าล้านบาท โดยงบที่จะใช้จัดให้เรียนฟรีก็คิดเป็น 10% ของงบที่มีเท่านั้น อีกทั้งตอนที่ตนเป็นรัฐมนตรีงบที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับก็เพิ่มจากปีก่อนหน้านั้นถึง 25% โดยไม่ได้ไปเพิ่มที่เงินเดือน แต่ไปลงที่การอุดหนุนรายหัว โครงการคุณธรรมนำความรู้ โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลแน่วแน่ว่าจะใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ การลงเงินสำหรับการศึกษาเพื่อให้ได้ตามนโยบายก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

“สำหรับกรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ จะให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเช่นกัน เพราะการศึกษานอกระบบและการตามอัธยาศัยเป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ เนื่องจากคนที่อยู่ในวัยเรียนและอยู่ในสถานศึกษาจริง ๆ เป็นเพียงคนส่วนน้อย ซึ่งมี 15 ล้านคน ขณะที่คนที่ทั้งประเทศมีกว่า 60 ล้านคน เพราะฉะนั้นจะต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนได้รับโอกาสทุกเพศทุกวัย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่พรรคประชาธิปัตย์จะมาทำเรื่องการเรียนฟรีและการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างจริงจัง มิฉะนั้น การศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคนตามรัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิด”ศ.ดร.วิจิตร กล่าว