จับตา...เจ้าแม่อ่างทองคำ “พรทิวา” บนเส้นทางชีวิตนักการเมือง

เป็นนักการเมืองผู้หญิงที่ถูกจับตามากขึ้นเรื่อยๆ “พรทิวา นาคาศัย” รมว.พาณิชย์ หนึ่งในรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

ไม่เฉพาะรูปโฉมโนมพรรณ แม้วัยจะย่างเข้าสู่หลักสี่ตอนปลาย เป็นคุณแม่ลูกสองก็ยังเหลือร่องรอยความสวย แต่ที่ต้องเฝ้าติดตาดูก็คือบทบาทหน้าที่บนหัวโขนที่เธอสวมใส่

นับเนื่องมาตั้งแต่ไปนั่งอยู่ท่ามกลางบิ๊กการเมือง ในการแถลงตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ สปอตไลต์ฉาดแสงฉายจับมาที่ “ดอกไม้งาม” หนึ่งเดียวในวงล้อมเสือสิงห์กระทิงแรด

ยิ่งเมื่อมารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ คุมกระทรวงสำคัญในภาวะที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ต้องเผชิญกับมรสุมเศรษฐกิจที่ถาโถมเข้าประเทศไทย ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์

“มือใหม่หัดขับ” อย่าง “พรทิวา” จะรับมือไหวมั้ย??

คงต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ฝีมือ “แม่ค้า” ออกเดินสายขายของตลาดโลก แต่ขณะที่ทุกคนรอชมฝีมือของเธออยู่นั้น เป็นอีกครั้งที่เธอเฉิดฉายท่ามกลางหมู่ชายในพรรคภูมิใจไทย ที่ “พรทิวา” ต้องนั่งแท่นรับบทเลขาธิการพรรค

ท่ามกลางเสียงปรามาส “นอมินี” ร่างทรงของสามี อนุชา นาคาศัย มือขวา สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นร่างทรงแถวสองต่อจากอนงค์วรรณ เทพสุทิน โดนโทษทัณฑ์จากคดียุบพรรคงวดล่าสุด

ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ แต่เมียรักแท้ๆ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา เชื่อมือ-หายห่วง

แกนนำทีมซี “พรทิวาคือกลจักรสำคัญแทนสามีและนาย ที่ต้องรอชมตอนต่อๆ ไป ในฐานะตัวแทนของฝั่งมัชฌิมาฯ เดิม ที่ต้องคอยถ่วงดุลอำนาจกับขั้วของเนวิน ชิดชอบในภูมิใจไทย

อีกประเด็นที่มาพร้อมความใหม่สดทางการเมืองของเธอ แม้จะถูกเอ่ยถึงแต่ยังไม่กระจ่างชัดนักในธุรกิจสีเทาของครอบครัวเธอ

โพไซดอน “อาบอบนวด”

อัครมหาสถานบำบัด ปลดเปลื้องอารมณ์ของท่านชาย ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนถนนรัชดาภิเษกฯ และเป็นที่รู้จักกันดีในสังคม “คนขี้เมื่อย”

“พรทิวา” หรือ “หญิง” ในฐานะลูกสาวของเจ้าพ่อวงการอาบอบนวด “เสี่ยเม้ง” สุรินทร์ ต.ตระกูล หรือที่เปลี่ยนนามสกุลมาเป็น “ศักดิ์ศิริเวทย์กุล”

แม้จะออกตัวว่าเป็นธุรกิจของครอบครัว แต่ในฐานะทายาทคนโตของ “เสี่ยเม้ง” สุรินทร์ ต.ตระกูล “พรทิวา” ย่อมเคยสัมผัส รับรู้ ช่วยงานผู้เป็นพ่อ

ฉายา “เจ้าแม่อ่าง” ย่อมเป็นของ “พรทิวา” แบบปฏิเสธยาก

เป็นเจ้าแม่อ่างในวงการเมืองที่แม้มาทีหลัง แต่ถ้าวัดกันจากธุรกิจลักษณะเดียวกัน ย่อมเหนือกว่า “เสี่ยอ่าง” ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ พ่อค้าเนื้อสดที่ “เปิดซิง” การเมืองก่อน

หาก “เสี่ยเม้ง” คือบิ๊กบราเธอร์บนถนนสายนี้ “ชูวิทย์” ก็ชิดซ้าย-ท้ายแถว เด็กๆ

ย้อนหลังไปเมื่อกว่า 30 ปีก่อน “เสี่ยเม้ง” ผู้สร้างตัวจากโรงรับจำนำ ได้เปลี่ยนมาจับธุรกิจการค้าใหม่ที่มองแล้วน่าจะทำเงินกว่าโรงตึ๊ง

เริ่มต้นมาจากการร่วมหุ้นกับ เกียรติ เอี่ยมพึ่งพรเจ้าพ่อไฟว์สตาร์ ที่เคยร่วมทุนสร้างหนังบุกเบิกเปิดสถานบันเทิงหลากรูปแบบบนถนนถนนเพชรบุรีตัดใหม่

ทั้งไนต์คลับ บาร์ คาเฟ่ อาบอบนวด บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ไล่จากสะพานคลองตัน

“เสี่ยเม้ง” และ “เจ้าสัวเกียรติ” ทยอยเปิดสถานบันเทิงในฝันที่ละแห่ง ทั้งไซซีไนต์คลับ อาบอบนวด แนนซี่ บีวา เมรี ฮูหยิน หรือวิลล่าคาเฟ่ ต้นแบบของคาเฟ่ที่ขนตลกมาเล่นเรียกแขก

“บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล” ก็ลูกน้องเก่าที่ “เสี่ยเม้ง” สนับสนุนให้ไปเปิดดาราคาเฟ่จนร่ำรวย

ที่ดังเปรี้ยงปร้าง “มิวสิควิลลา” ต้นถนนเอกมัยฝั่งเพชรบุรีฯ ไนต์คลับแห่งแรกๆ ที่จัดวงดนตรีมาเล่นสดทุกค่ำคืน วงที่มีชื่อเสียง อาทิ รอยัลสไปรท์ พีเอ็มไฟว์ แมคอินทอช ฯลฯ

ฮอตและฮิตในหมู่นักเที่ยว ก่อนก่อเกิดยุคดิสโก้เธค “เดอะพาเลซ” บนนถนนวิภาวดีรังสิต

ยุคนั้น “เสี่ยเม้ง” และ “เจ้าสัวเกียรติ” คือส่วนผสมที่ลงตัวในหุ้นส่วนธุรกิจ โดยที่เหมือนกัน คือ “น้ำมิตร” เป็น “คนมีพวก” ตรงไปตรงมา ไม่มีคดโกง ใจกว้าง ใครเดือดร้อนมาหา ไม่มีผิดหวัง

แต่ทั้งคู่ก็เป็นเจ้าสัวดูโอ ผงาดในยุทธจักรคนกลางคืนได้พักใหญ่ เมื่อ “เกียรติ” ถูกยิงเสียชีวิต ยุติการร่วมสร้างตำนานบนหน้าประวัติศาสตร์บทนี้

ไม่มีคู่หูแต่ “เสี่ยเม้ง” ซวนเซเพียงระยะแรก ตั้งหลักประคับประคองธุรกิจ ขยายกิจการจนเติบโต แบบรับเละเพียวๆ ยิ่งร่ำรวยเข้าไปใหญ่

หลังจากธุรกิจอ่างบนนถนนเพชรบุรีฯ ซบเซา อยู่ในช่วงขาลง “เสี่ยเม้ง” ผู้มองไกล เลือกที่ย้ายฐาน เปลี่ยนทำเลใหม่ นำพาธุรกิจให้เป็นดาวค้างฟ้า ด้วยทำเลทอง ถนนรัชดาฯ

ที่ตั้งของอัครมหาสถานอาบอบนวด “โพไซดอน” ถนนที่เป็นแหล่งแสงสีบันเทิงวันนี้

และ “เสี่ยเม้ง” ผู้สร้างนวัตกรรมใหม่หลายอย่างในวงการ “อ่าง” จากที่เคยคิดบริการพิเศษ ที่ถูกใจคนชอบนวดเมนู “โตรา โตรา”

ราดน้ำยาชนิดพิเศษบนตัวของผู้ใช้บริการ ผ่านการนวด คลึง เค้น ถูไถบำบัด โดยบริกรสาว
หรือเรียกได้ว่า เป็นสปา “นวดบอดี้” หรือ“นวดกระปู๋”แบบทุกวันนี้ ก็ไม่ผิด

“โพไซดอน” ที่ตั้งตามชื่อเทพเจ้าแห่งท้องนที จากเทพนิยายกรีกโบราณแห่งนี้ ก็เช่นกัน ขึ้นชื่อในเรื่องการรวมเอาสารพัดความใหม่ สด และน่าลิ้มลอง

นอกจากอาคารใหญ่โต หรูหรามีระดับ แบบอัครสถานที่น่าเหยียบย่างเข้าใช้บริการแล้ว “โพไซดอน” ยุคแรก คือสุดยอดของการคิดค้นเปิดตู้จัดบริการ “ของนอก”

รวมสาวๆ ฝรั่งหัวทองจากหลายประเทศในอดีตสหภาพโซเวียตเดิม แต่เรียกรวมๆ ว่า สาวรัสเซีย ที่บินมาลอกท่อ “ขุดทอง” กันแบบร่อนเร่ที่เมืองไทย

เปิดตู้พิเศษให้บริการ “รัสเซีย” ที่โพไซดอนจนฮือฮามาแล้ว

ในยุคที่ธุรกิจเริ่มเข้าสู่สถานะมั่งคั่งนี่เอง “หญิง พรทิวา” ลูกผู้หญิงคนโตที่กตัญญูตามแบบฉบับของลูกจีน นอกจากคอยดูแลบ้าน ดูแลน้องๆ ทั้ง 4 คนแทนพ่อและแม่แล้ว

และต้องขอนอกเรื่อง พรทิวา เคยมีน้องสะใภ้เป็นคนวงการบันเทิง อย่าง วรรษมน วัฒโรดม อดีตนางเอกดัง และ จันทนีย์ สิงห์สุวรรณ อดีตขวัญใจช่างภาพ เวทีนางสาวไทย

“ตั้วเจ๊หญิง” ของน้องๆ ช่วยงานบุพการีมาตั้งแต่วัยเด็ก แบ่งเบาภาระพอที่จะช่วยได้ จนเรียนจบจึงได้เข้ามารับไม้แทนเต็มตัว

ด้วยที่เป็นลูกคนโต เป็นลูกสาวที่พ่อไว้วางใจ ให้คุมเรื่องบัญชี ดูแลรายรับรายจ่าย ทำให้ “หญิง พรทิวา” ได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และมีสายสัมพันธ์หลายวงการ

วันนี้จึงมีคอนเนกชันกว้างขวางกว่าที่ทุกคนคิด

ทั้งวงการสีกากี ที่คาบเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาของครอบครัว ต.ตระกูล การติดต่อประสานงานกับตำรวจทำให้ “หญิง” เป็นที่รู้จักของตำรวจน้อยใหญ่ในพื้นที่ที่สถานบันเทิงของผู้เป็นพ่อตั้งอยู่

โดยเฉพาะสารวัตรหนุ่มแห่ง สน.มักกะสันสมัยนั้น “เติร์ก” พนา เจือเพ็ชร หรือ พ.ต.อ.พนาเจือเพ็ชร กฤษณะราช นายตำรวจการเมือง อดีตผู้สมัคร ส.ส.หลายพรรค

หรือบิ๊กเนมการเมืองอีกราย สัญญา สถิรบุตร ที่วันนี้มานั่งทำงานอยู่ที่ที่เดียวกัน ในฐานะที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์

“สัญญา” อดีตมือขวาของสมัคร สุนทรเวช ในพรรคประชากรไทย ที่มาเติบโตในพรรคประชาธิปัตย์สมัยนั้น สนิทสนมกับ “หญิง” ทายาท ต.ตระกูล และชักนำให้รู้จักคนการเมือง

ปาร์ตี้ที่บ้านสนามบินน้ำของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ก็เคยเปิดรับแขกพิเศษมาเยือน บิ๊กๆ การเมืองได้เคยยลโฉมลูกสาวเจ้าพ่ออาบอบนวดรายนี้มาแล้ว

และว่ากันว่า “สัญญา” และคอนเน็กชั่นการเมืองนี่เอง มีส่วนที่ทำให้ “หญิง”ได้พบคู่ครอง “อนุชา นาคาศัย” ทนายหนุ่มประจำตัวสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่อยู่ในเครือข่ายชาละวันพิจิตร

วันนี้โพไซดอนขึ้นชั้นอัครสถานอาบอบนวดประจำยุค ขณะที่ “เสี่ยเม้ง” ในวัย 70 กว่า เมื่อธุรกิจอยู่ตัวก็ได้วางมือ ปล่อยลูกชายเข้ามาสานต่อ และไปใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายที่เชียงใหม่ ตีกอล์ฟออกกำลังกายเป็นครั้งคราว

ขณะที่ลูกสาวคนโตที่วางใจ ดูแลธุรกิจจนสถานะมั่นคง “พรทิวา” ก็เข้าวงการการเมือง ชิมลางจากเลือกตั้ง เป็น ส.ว.ชัยนาท รุ่น ส.ว.ตกสวรรค์ แล้วมาเป็น ส.ส.แทนสามี

จับพลัดจับผลูได้เป็นเสนาบดี รัฐมนตรีหญิงในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เท่านั้นยังเป็นหญิงเหล็ก แม่บ้านพรรคการเมืองที่กำลังมาแรงอย่างภูมิใจไทย

ก่อนเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยไม่กี่วัน “พรทิวา” โชว์งานแรกอย่างลับๆ ไปแล้ว ล่า 3 ส.ส.งูเห่ากลุ่มสมศักดิ์กลับเข้าถ้ำภูมิใจไทย ควักสดๆ ของเธอเองให้คนละ 5 ปึกใหญ่ ฉายแววว่าจะไปไกลแน่ ถ้าปืนไวแบบนี้

จากปูมประวัติ “หญิง-พรทิวา” โชกโชน เจอะเจอผู้คนบนถนนที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรด เผชิญหน้ากับประเภทอกสามศอกมาแล้ว วันนี้เธอจึงไม่มีอาการประหวั่นสั่นไหวใดๆ

ประสบการณ์ทั้งชีวิต ทั้งบีบทั้งนวด “นางงามตู้กระจก” มาจนอยู่มือ ที่รู้กันดีว่าคนเหล่านี้เหมือนนกกระจอก เลี้ยงไม่เชื่อง เธอก็รักษาตำแหน่งเบอร์หนึ่งแห่งถนนโลกีย์มาได้ตลอดกาล คนการเมืองที่มีป้ายราคาแขวนอยู่เหมือนกัน...คงสยบไม่ยาก!

จึงไม่อาจมองกันอย่างผิวเผิน เห็น “พรทิวา” เป็นแค่ดอกไม้สีสวยธรรมดาๆ ระดับเธอถ้าเป็นดอกไม้ก็ต้อง “ดอกไม้เหล็ก” ที่กำลังรอเป็น “นางพญา” คนใหม่วงการการเมือง!