ตัวแทนคนตาบอดร้องค้านจำหน่ายหวยออนไลน์ผ่านตู้อัตโนมัติ ชี้ผลประโยชน์ตกกลุ่มทุนรายใหญ่ ส่วนเสื้อแดง ยังป่วนไม่เลิก โจมตีรัฐบาล ด่าด้วยคำหยาบ ร้องให้ปลด “กษิต” ด้านเครือข่ายสลัม 4 ภาค วอน รัฐบาล บรรจุงบสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1,000 ล้าน –ชะลอการตั้งผู้อำนวยการ พอช. ส่วนเอ็นจีโอยื่นหนังสือขวางรัฐใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจัดการสื่อ-วิทยุชุมชน อ้างปิดกั้นการรับรู้ข่าวสาร
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กว่า 50 คน ซึ่งเป็นตัวแทนคนพิการตาบอดแต่ละจังหวัด นำโดยนายสมชาย ปัญเอกวงศ์ แกนนำหวยออนไลน์ เดินทางมาชุมนุมปริเวณหน้าสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทบทวนการอนุมัติให้มีการจำหน่ายสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ ผลประโยชน์และโอกาสก็จะตกอยู่ที่กลุ่มทุนรายใหญ่ ทั้งนี้ทางกลุ่มเรียกร้องให้มีการพิมพ์ฉลากเพิ่มมากขึ้น และแก้ปัญหาการขายเกินราคา
ขณะเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ยังคงโจมตีด่าทอรัฐบาลด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและเรียกร้องให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผ่านเครื่องขยายเสียงโดยมีผู้ชุมนุมเพียง 7 คน
ด้านเครือข่ายสลัม 4 ภาค นำโดยนางประทิน เวคะวากยานนท์ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค เดินทางมาที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เริ่มกระบวนการสรรหาคณะกรรมการและผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมนุม (พอช.) ใหม่ และขอให้จัดสรรสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 1,000 ล้าน แก่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)
นางประทิน กล่าวว่า กระบวนการเลือกสรรหาคณะกรรมการและผู้อำนวยการ พอช. มีการรวมรัด และเร่งรีบการแต่งตั้งเกินไป โดยขาดกระบวนการแสดงความเห็นจากเครือข่ายทุกภาค จึงขอให้ทางรัฐบาล และนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชะลอการสรรการคณะกรรมการและผู้อำนวยการ พอช.ไว้ก่อน ส่วนเรื่องการขอให้จัดสรรสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทางเครือข่ายต้องการให้ทางรัฐบาลจัดงบประมาณให้ปีละ 1,000 ล้านบาท โดยบรรจุอยู่ในกรอบงบประมาณเร่งด่วนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ 100,000 ล้านบาทที่รัฐบาลขออนุมัติจากรัฐสภา
“จากงบ 100,000 ล้านบาท ที่รัฐสภาพิจารณา กลับไม่มีวงเงินด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย จำนวน 1,000 ล้านบาทที่ทางเครือข่ายสลัม 4 ภาคขอไปกับทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตอนนี้เม็ดเงินในกองทุน พอช. ที่เคยสนับสนุนสิ้นเชื่อด้านที่อยู่อาศัยหมดแล้ว ทาง พอช. จึงให้ชาวบ้านที่ต้องการกู้ยืมเงินสินเชื่อไปขอกู้เงินจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แทนโดยคิดเสร็ตสรรพแล้วคิดดอกเบี้ยร้อยละ 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นภาระที่หนักมากของคนจนในเมือง” นางประทิน กล่าว
ขณะเดียวกัน ด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) พร้อมด้วยเครือข่ายพลเมืองเน็ต และเครือข่ายเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย (FACT) เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความชัดเจนกรณีที่รัฐบาลเตรียมพิจารณาเรื่องการหมิ่นสถาบันและความมั่นคงเข้ามาจัดการอินเตอร์เน็ตและวิทยุชุมชน ถึงขั้นจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง 2551 โดยนางสาวสุภิญญา ระบุว่า อยากทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทางเครือข่ายคัดค้านการประกาศสงครามกับวิทยุชุมชนและอินเตอร์เน็ต หรือวอร์รูม โดยจะใช้งบ 80 ล้านบาทเพื่อจัดการ เพราะเป็นการละเมิดนโยบายด้านสื่อของรัฐบาลและสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน อย่างไรก็ตาม หลังจากนายอภิสิทธิ์ รับหนังสือแล้วได้ชี้แจงว่า รัฐบาลจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างเรื่องของสิทธิเสรีภาพและความมั่นคงในการเข้าไปจัดการเรื่องดังกล่าว ก็ทำให้รู้สึกสบายใจ
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า หากรัฐบาลจะมีการผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิทยุชุมชน ก็ขอให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม และอยากให้นายกรัฐมนตรีเดินทางไปรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคประชาชนเช่นเดียวกับที่ไปรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจด้วย