“สำราญ” ซูฮก “ชวน” คนจริง-ชี้ความต่าง พธม.สู้เพื่อชาติ-เสื้อแดงป่วนเพื่อ “แม้ว”

“สำราญ” ชื่นชม “ชวน” คนจริง กล้าลุยถิ่นเสื้อแดงช่วยลูกพรรคหาเสียง พร้อมเผยได้เข้าพบ “ป๋าเปรม” ในโอกาสปีใหม่ ระบุ ปธ.องคมนตรี ห่วงสถานการณ์บ้านเมือง แต่โดยสถานะไม่สามารถทำอะไรได้ ย้ำความต่างเสื้อเหลือง-เสื้อแดง แค่เป้าหมายก็ต่างกันลิบลับ พันธมิตรฯ สู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่เสื้อแดงสู้เพื่อ “แม้ว” คนเดียว เผย ยังให้กำลังใจ “มาร์ค” แต่หากทำผิดขอติงแรงๆ เหตุเสียงปริ่มน้ำจะทำพลาดอีกไม่ได้

นายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 กล่าวในรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ห้องส่งเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เมื่อเวลาประมาณ 20.50 น.วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อวาน (7 ม.ค.) ได้ไปพบ นายชวน หลีกภัย ประธานกรรมการที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ คนที่ 20 ในโอกาสวันปีใหม่และเพื่อให้กำลังใจหลังจากถูกกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาก่อกวน และปาไข่เข้าใส่ระหว่างช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียงที่ จ.ลำปาง ลำพูน และ เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.

นายสำราญ กล่าวว่า หลายฝ่ายชื่นชม นายชวน ที่สามารถฝ่าเข้าไป 3 จังหวัดดังกล่าวได้ แม้จะมีคนเตือนแล้วว่าอย่าไปเลย เพราะถ้าไม่ใช่ไข่ แต่เป็นน้ำกรด หรือระเบิด อะไรจะเกิดขึ้น แต่ นายชวน ก็บอกว่าไม่เป็นไร ซึ่งเมื่อไปพวกเสื้อแดงก็เจอคนจริง บางคนกำไข่จะปา พอนายชวนจ้องมองก็เอาไข่มาให้ ขณะที่แม่ค้าบางคนก็เอาไข่มาให้บอกให้ปากลับไปบ้าง ทั้งนี้ นายชวน ยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ลึกๆ คงไม่สบายใจกับสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ เช่นเดียวกับพี่น้องทุกคน

นายสำราญ กล่าวอีกว่า วันนี้ ตนพร้อมกับ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนายประพันธ์ คุณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เข้าไปสวัสดี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นอดีตนายกฯ คนที่ 16 ที่บ้านพัก เนื่องในโอกาสปีใหม่ และมีโอกาสคุยกับท่านยาวพอสมควร เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่ง พล.อ.เปรม ก็ให้กำลังใจ และท่านบอกว่า โดยสถานะที่อยู่ตรงนั้น อยากทำอะไรบางอย่างก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นประธานองคมนตรี แต่ฟังที่ท่านพูดก็มีกำลังใจ ทุกครั้งที่ท่านพูดได้สะท้อนส่วนลึกของหัวใจ และสะท้อนถึงสถานการณ์บ้านเมือง

นายสำราญ กล่าวว่า นายคำนูณ ได้บอกกับ พล.อ.เปรม ว่า ชอบคำพูดของ พล.อ.เปรม ในวันที่ 29 ธ.ค.ที่ให้พรผู้นำเหล่าทัพว่ากองทัพและทหารวางตัวเป็นกลางดีแล้ว แต่ว่าต้องเป็นหลักให้บ้านเมืองด้วย เพราะนอกจากเป็นกลางแล้ว หน้าที่ของทหารมันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่ง พล.อ.เปรม บอกว่า ท่านอ่านข่าวไม่เห็นนะ เห็นแต่ว่าเป็นกลาง คำว่าเป็นหลักของชาติไม่เห็น แต่ตนเห็นใน “ASTVผู้จัดการ” และบางฉบับ ขณะที่หลายฉบับไม่มีคำว่าเป็นหลักของชาติ ทั้งที่เป็นข้อความสำคัญที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ 5 เส้น

นอกจากนี้ นายสำราญ กล่าวว่า ได้คุยกับ พล.อ.เปรม หลายเรื่อง ทั้งเรื่องเสือเหลือง-เสื้อแดงว่าจะจบลงอย่างไร รวมถึงเรื่องในอดีตที่ พล.อ.เปรม เคยออกคำสั่ง 66/23 เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์โดยใช้การเมืองนำการทหาร ซึ่งประสบความสำเร็จทำให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแตก นิสิตนักศึกษาที่เคยเข้าไปร่วมต่อสู้ในป่าเมื่อปี 2519 ก็กลับออกมา นั่นแสดงว่า เมื่อคนไทยขัดแย้งกันถึงขั้นประหัตประหารกันนั้น ถ้าใช้นโยบายที่ถูกต้อง เอาจริงเอาจัง และประสานงานกัน ก็จะแก้ไขปัญหาได้ สถานการณ์ในปี 2552 จึงเป็นโจทย์ร่วมกันที่ท้าทาย ว่าเราจะฝ่าความขัดแย้งนี้ไปได้อย่างไร

นายสำราญ กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ 99% เป็นคนมีวุฒิภาวะ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อเอามัน ทุกคนมาเสี่ยงเพราะเห็นบ้านเมืองวิกฤต ขณะที่พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงและแก๊งหัวขวด เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือ ทำงานเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพยายายามเล่นเกมน็อกเร็ว เพราะถ้าปล่อย 6-7 เดือน พวกเขาจะเหี่ยวก่อน พวกเขาจึงเร่งเกม เล่นสงครามทุกรูปแบบ ทุกวิถีทาง เพื่อให้จบ ให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า ถ้าเลือกตั้งใหม่ภายในไม่เกิน 2 เดือน พวกเขาจะชนะ เพื่อได้อำนาจและให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับคืนสู่บ้านเมือง

ดังนั้น รัฐบาลจะที่ยังมีเสียงก็ปริ่มน้ำ ต้องระวัง จะพลาดไมได้ จึงต้องเตือนรัฐบาลว่าต้องรอบคอบ แม้ประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น แต่รัฐบาลพลาดบ่อยๆ ก็ไม่ดี เช่น การตั้งนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานกรรมการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบิน เป็นต้น ซึ่งอาการสะสมแบบนี้ไม่ดี แต่ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เช่น หยุดโครงการรถเมล์ 4 พันคันไว้ก่อน ก็จะปรบมือให้

ส่วนเรื่องการเจรจา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจมองได้หลายมุม อาจเป็นแผนซ้อนแผนหรือลับลวงพราง จึงขอวางไว้ก่อน แต่ที่รัฐบาลประกาศว่าต้องยึดหลักกฎหมาย หรือจะตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมาเพื่อหยุดความขัดแย้ง จะสามารถเป็นที่ยอมรับหรือยุติความขัดแย้งได้จริงหรือเปล่านั้นยังต้องติดตามกันต่อไป แต่รัฐบาลจะพลาดมากไม่ได้ ทางเดียวที่ต้องทำก็คือ ต้องสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้น ยึดหลักกฎหมายก็ยึดให้จริง แล้วต้องลงโทษคนที่ทำผิด ลงโทษตำรวจบางคนที่เคยปราบปรามประชาชน อันไหนที่เหมาะสมต้องรีบตัดสินใจ ไม่รีรอลังเลมาก

นายสำราญ กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างคนเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง ว่า หลายคนบอกว่าพวกเสื้อแดงกำลังทำ ก็เพราะพันธมิตรฯ ยังทำได้ เช่นยึดทำเนียบ ชุมนุมในสนามบิน ยังทำได้ ทำไมเขาจะใช้ตีนตบไล่นายชวนไม่ได้ ซึ่งถ้าส่องกล้องมองจริงๆ จะต่างกัน เป้าหมายก็ต่างกันแล้ว เราต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่ของพลังประชาชน ของเสื้อแดง สู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว

“เป้าหมายที่เราต่อสู้กัน ไม่ใช่สู้ให้สนธิเป็นนายกฯ ให้จำลองเป็นรองนายกฯ หรือให้จำลองเป็นนายกฯ สนธิเป็นรองนายกฯ แล้วให้คุณแอนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ไม่ใช่ เราต่อสู้เพื่อหยุดความเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวง 1 2 3 4 5 พี่น้องรู้หมดแล้ว แต่ของเขาสู้เพื่อตรึงอำนาจรัฐอันชั่วร้ายเอาไว้ ต่างกัน”

“นอกจากนั้น บอกว่า มีความทับซ้อน สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็น ส.ส. พิเชฐ สำราญ ใครต่อใครเคยลงสมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต้องเรียนพี่น้องตรงๆ ว่า ตรงนี้เราแยกขาด ผมไม่เคยไปยุ่งกับทางพรรคเขาเลย ตรงนี้เป็นอิสระชน เป็นเสรีชนที่ชื่อ สำราญ รอดเพชร ประพันธ์ คูณมี พิเชฐ พัฒนโชติ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อย่างนี้ เป็นต้น เทิดภูมิ ก็เคยเป็นนักการเมือง สุชาติ ศรีสังข์ อย่างนี้เป็นต้น มาลีรัตน์ แก้วก่า สมบูรณ์ ทองบุราณ อย่างนี้เป็นต้น การุณ ใสงาม ตรงนี้จะเห็นว่าเราแยกขาดชัดเจน แล้วประชาธิปัตย์ไม่เคยมายุ่ง ไม่มีสิทธิ์มาบงการมายุ่งเกี่ยวอะไรต่างๆ เลย มันเป็นเรื่องพันธมิตรฯ พันธมิตรฯ ใหญ่กว่าทุกพรรคการเมืองอยู่แล้วใช่ไหมพี่น้อง

“ดังนั้น ต้องตอบให้ขาดว่า ถ้าการชุมนุมทางการเมืองทุกคนมีสิทธิ์ เสื้อแดง เสื้อชมพู เสื้อเขียว เขามีสิทธิ์ชุมนุมทางการเมือง พันธมิตรฯ ก็มีสิทธิ์ แล้วใช้สิทธิ์นี้อย่างเต็มที่มาแล้วในรอบปีที่ผ่านมา ปี 51 แต่ถ้าคุณเอาไข่เน่าไปปาหัวคุณชวน เอาไข่ดิบไปปาหัวคุณแอน ผิดไหมพี่น้อง อย่างนี้ไม่ได้ พันธมิตรฯ ไม่เคยมีรสนิยมอย่างนี้ ไม่เคยมีวัฒนธรรมต่ำทรามอย่างนี้ เราชุมนุมแล้วโดนระเบิดด้วยซ้ำไป”

นายสำราญ กล่าวต่อว่า ระหว่างการชุมนุมพันธมิตรฯ เสียชีวิตไป 11 คน พิการอีก 21 คน บาดเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลางอีก 559 คน ถือว่าเราสูญเสียอย่างมาก เพราะเราโชคร้ายที่เจอรัฐบาลขอใช้คำว่า “สัตว์นรก” ดังนั้น เราชุมนุมไม่ใช่เรื่องสนุก ถือมือตบไปเรื่อย มัน แต่เพราะเรารักชาติ รักพระมหากษัตริย์ ซึ่งตอนที่คุยกับ พล.อ.เปรม ท่านก็เป็นห่วงคนรุ่นหลัง ยิ่งไปเจออาจารย์ที่ใส่ความคิดแปลกๆ เข้าไป

อย่างไรก็ตาม นายสำราญ กล่าวว่า ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เพิ่งเป็นนายกฯ ไม่กี่วัน ยังต้องฝ่าขวากหนามอีกมาก แต่อย่างน้อยเชื่อว่า มีความหวังดีต่อบ้านเมือง จึงยังให้กำลังใจ แต่ก็จะขอติงแรงๆ ในสิ่งที่ไม่เหมาะสม คิดว่าทีมเศรษฐกิจขณะนี้เริ่มทำงานเข้าเป้าและมีคะแนนบ้างแล้ว แต่ก็ยังน่าห่วง การปั๊มเงินเข้าระบบ แต่ถ้าเก็บภาษีไม่เข้าเป้าก็จะมีปัญหา ขณะเดียวกันรากหญ้าขณะนี้กลายเป็นรากเน่าไปแล้ว หากใส่เงินเข้าไป โดยหวังว่าจะให้เงินหมุนเวียน ก็อาจจะไม่หมุน นอกจากนี้การกู้เงินมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ 3-4 แสนล้าน หนี้สาธารณะจะเป็นอย่างไร