รมต.สำนักฯ เตือนฝ่ายค้านอภิปรายนอกสภาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด เพราะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง มั่นใจที่ประชุม ครม.ชี้แจงเหตุผลตั้งรมต.คนนอกได้แน่นอน ไม่หวั่นยุทธศาสตร์โดดเดี่ยว ปชป.แยกภาคประชาชน ฟุ้งใช้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ เย้ยเหลิมเพ้อเจ้อนับนิ้วก่อนเลือกตั้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเปิดการอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกรัฐสภาว่า การตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านเป็นเรื่องดีและเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่รูปแบบดำเนินการนั้นความจริงมีสภาอยู่แล้ว น่าเสียดายวันที่ประชุมแถลงนโยบายฝ่ายค้านไม่ได้เข้าร่วม แต่ถ้าเลือกวิธีการนอกสภาถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่คนที่อภิปรายต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด และถ้ามีประเด็นใดที่รัฐบาลต้องชี้แจงจะพิจารณาอีกครั้ง
เมื่อถามว่า สุ่มเสี่ยงหรือไม่เพราะการอภิปรายนอกสภานั้นไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองอาจมีการพาดพิงได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ผู้พูดต้องรับผิดชอบ ตนยังไม่ทราบสิ่งที่ฝ่ายค้านจะพูด คงต้องดูอีกครั้ง รัฐบาลเองได้มีการติดตามเรื่องนี้และคิดว่าคงจะมีการแจ้งข้อมูลไปส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าใจว่าเรื่องที่ฝ่ายค้านอภิปรายน่าจะเป็นประเด็นทางการเมืองทั้งหลาย ซึ่งได้มีการชี้แจงหลายครั้งแล้ว
เมื่อถามว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าหนักคือ กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นข้อกล่าวหาเก่า แต่ดูจากโพลประชาชนเห็นชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลโดยชอบธรรม เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวว่าจะแต่งตั้งคนที่เข้าร่วมกับพันธมิตรฯให้มีตำแหน่งทางการเมือง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ยังไม่มีการตั้งแต่อย่างใด แต่ถ้าจะตั้งใคร ครม.จะต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายว่าทำไมคนเหล่านั้นจึงมีความเหมาะสมในตำแหน่งดังกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีการตั้งนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นชื่อของคนที่ตั้ง และ ครม.ยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่คงห้ามไม่ได้ ถ้าจะมีการวิจารณ์เรื่องชื่อและมีการขยายผล เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจง เพราะฝ่ายค้านจับทุกประเด็นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านควรทำนอกจากจับผิดประเด็นเหล่านี้แล้ว ควรพูดถึงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่า
เมื่อถามว่าจะมีการฟังเสียงคนของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะเป็นตำแหน่งดังกล่าวในโควตาของรัฐมนตรี นายสาทิตย์ กล่าวว่า คนที่เคยช่วยงานพรรคทั้งทางเปิดเผย ทางวิชาการ หรือ อดีตผู้สมัคร ส.ส.มีสิทธิจะได้รับการแต่งตั้ง
เมื่อถามว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านทำเหมือนเป็นความพยายามโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์ออกจากภาคประชาชน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านคงมียุทธศาสตร์ที่จะดิสเครดิตรัฐบาล แต่รัฐบาลต้อง ทำงานให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งวันนี้ตนได้คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ทราบว่าจะมีหลายงานที่เดินหน้าในสัปดาห์นี้ ทั้งในส่วนของกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง หรือการแก้ปัญหาการว่างงาน สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าเราโดดเดี่ยวจากประชาชนหรือไม่ เมื่อถามย้ำว่าจะทำอย่างไรที่จะพิสูจน์ว่าไม่มีการต่างตอบแทนเกิดขึ้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีเหตุผลอธิบาย และทุกคนมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยได้
นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องการแถลงนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศให้ศาลปกครองพิจาณาว่า รัฐบาลไม่หวั่นไหวหรือหนักใจอะไร เพราะสามารถชี้แจงได้ทุกกรณี ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจของทุกฝ่าย แต่จะไปชะงักการทำงานไม่ได้ อีกทั้งเป็นการยื่นเรื่องนัดประชุมของนายชัย ชิดชอบประธานสภาฯ ถือเป็นหน้าที่รัฐสภาต้องชี้แจงต่อศาลปกครอง ส่วนรัฐบาลเพียงรับการประสานงานว่า มีการนัดและเลื่อนในเวลาเท่าใด
เมื่อถามว่า กรณีที่มีตั้งบริษัทล็อบบี้ยิสต์จะมีผลกับเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ตนเข้าใจว่าการที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดเผย เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่ามีกระบวนการใดที่ดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า มีการใช้โลกล้อมประเทศไทยแบบนี้จะสะท้อนให้เห็นว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ไม่สำเร็จ นายสาทิตย์ กล่าวว่า โลกล้อมประเทศไม่เป็นไร เรามีหน้าที่ชี้แจงต่อโลกในปลายเดือน ม.ค.นี้ นายกฯจะมีกิจกรรมไปสร้างความเชื่อมั่นอยู่แล้ว สำหรับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องว่ากันไป รัฐบาลเพียงส่งสัญญาณว่าไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือต้องทำให้ใครมีปัญหาจากตัวรัฐบาล
เมื่อถามว่า รับมือไหวหรือไม่เพราะขณะนี้รัฐบาลมีทั้งศึกในศึกนอก นายสาทิตย์ กล่าวว่า เพิ่งเริ่มต้น รัฐบาลเตรียมใจไว้แล้ว เรามองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะใช้โอกาสนี้ที่จะช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ส่วนการอภิปรายในสภาของฝ่ายค้านนั้น รัฐบาลไม่กังวลต้องชี้แจงไป และยังไม่รู้ว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะได้เสียงจากการเลือกตั้งซ่อม 20 เสียง นั้น การนับนิ้วก่อนเลือกตั้งใครก็นับได้ ผลจะเป็นอย่างไรต้องดูหลังการเลือกตั้ง