“ปณิธาน” มั่นใจรัฐบาล “มาร์ค” อยู่ยาว ปัดข้อครหาปล้น

ว่าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งเป้า “รัฐบาลอภิสิทธิ์” อยู่ยาวเกิน 1 ปี แจงอดีตพรรคการเมืองเสียงข้างน้อยเคยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ย้ำเป็นกระบวนการทางสภาที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบกฏหมายรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (2 ม.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้ารับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า รัฐบาลชุดนี้มีความคาดหวังเหมือนกับรัฐบาลชุดอื่นๆ ที่จะอยู่ให้ครบวาระ แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เศรษฐกิจ และการเมือง เป็นตัวแปรของรัฐบาลอยู่เสมอ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า อายุรัฐบาลอภิสิทธิ์ น่าจะอยู่ยาวพอสมควร แต่บอกไม่ได้ว่ายาวแค่ไหน

“แนวโน้มอายุรัฐบาลน่าจะยาวขึ้น เพราะประชาชนเริ่มเห็นแล้วว่า ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้ง เสถียรภาพทางการเมืองไม่ค่อยมี จะส่งผลกระทบกับประเทศ แต่คงพูดยากว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน ถ้าปีแรกรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ในหลายเรื่อง อาทิ แก้ปัญหาความแตกแยก ตัวเลขทางเศรษฐกิจได้ ก็จะเป็นบทพิสูจน์ในการทำงาน” นายปณิธาน กล่าว

ต่อข้อถามว่า มองอย่างไรกับเสียงวิจารณ์ที่มีว่า รัฐบาลชุดนี้มาโดยการปล้น นายปณิธาน กล่าวว่า แม้ว่าจะเกิดความแปรปรวนทางการเมืองบ้าง ที่มี ส.ส.จากพรรคที่มีเสียงมากที่สุด หันไปสนับสนุนพรรคที่มีเสียงมากเป็นลำดับ 2 แต่ก็เป็นกระบวนการในสภาฯ เป็นกลไกที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสถานการณ์ทางการเมืองที่พลิกผัน หลังจากพรรคที่เสียงมากที่สุดในสภาฯ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งในอดีตการเมืองไทย ก็เคยมีพรรคที่มีเสียงข้างน้อย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า รัฐบาลควรเร่งสลัดภาพที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายทหารหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตย จะมีกลุ่มพลังต่างๆ ทั้งการเมือง และสังคม ผลักดัน ดำเนินการเคลื่อนไหวต่างๆ เท่าที่ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ถ้าการผลักดันเหล่านั้น เป็นไปอย่างโปร่งใส เปิดเผย อยู่ในกระบวนการรัฐธรรมนูญ ก็คงต้องทำใจยอมรับ แต่บางกลุ่มอาจจะไม่ชอบ ดังนั้น เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ต้องแสดงว่าเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่ของกลุ่มพลังใดพลังหนึ่ง

“รัฐบาลต้องทำงานหนัก เพื่อไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่ได้รับความชอบธรรม แต่ถ้ารัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกกลุ่มยอมรับว่า รัฐบาลทำงานให้กับส่วนรวม เชื่อว่าแรงต่อต้านคงมีไม่มาก แต่สังคมไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน กลุ่มพลังการเมืองต่างๆ อยู่ในช่วงการจัดระเบียบ อาจจะมีกฎเกณฑ์ใหม่อีกมาก ที่กำหนดกิจกรรมทางการเมืองเหล่านี้ ให้กลุ่มต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างเปิดเผย โปร่งใส สร้างสรรค์” นายปณิธาน กล่าว

ส่วนโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี นายปณิธาน มองว่า รัฐมนตรีที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะได้รับแรงกดดันน้อยกว่า รัฐมนตรีมาจากพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากหลายคนเป็นที่รู้จัก แต่ที่สุดแล้วต้องติดตามขีดความสามารถจริงในการทำงาน ถ้าทำได้ตามเป้าหมาย ในการแก้ปัญหาต่างๆ ปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ก็จะหายไป แต่ถ้าทำงานไม่ได้ก็จะมีปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ประกาศแล้วว่าจะรับผิดชอบ หากรัฐมนตรีภายใต้การนำของรัฐบาล ไม่สามารถทำงานได้

ต่อข้อถามว่า มองบทบาทการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ของพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายปณิธาน กล่าวว่า หลายฝ่ายคาดหวัง ให้การเมืองไทยมีการตรวจสอบ และถ่วงดุลคานอำนาจกัน ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งฝ่ายค้านปัจจุบันปรับตัวได้เร็วเหนือความคาดหมาย ที่ผ่านมาจะเห็นว่า พร้อมเตรียมอภิปราย แม้ว่าจะเป็นรัฐบาลมานานติดต่อกันหลายปี เพราะมีข้อมูลอยู่ในมือค่อนข้างมาก ชำนาญเกี่ยวกับระบบ เพียงแต่ว่าอาจต้องใช้เวลาบริหารจัดการระบบร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และหาตัวผู้นำฝ่ายค้าน ที่สร้างความเป็นเอกภาพ

“การตรวจสอบในสภาฯ ได้เริ่มต้นแล้ว การเลือกตั้งซ่อมจะมี ส.ส.เข้ามาใหม่อีกหลายคน อาจทำให้เสียงในสภาฯ ห่างกันไม่มาก การตรวจสอบน่าจะมีผลต่อเสถียรภาพกันพอสมควร ดังนั้น ฝ่ายรัฐบาลต้องระมัดระวังในการทำงาน และฝ่ายค้านใหม่ก็เห็นโอกาสเคลื่อนไหวในสภาฯ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี” นายปณิธาน กล่าว