“ประสงค์” เผยพะอืดพะอม “มาร์ค 1” แต่ยังให้โอกาส เตือนรัฐบาลประชาธิปัตย์อย่าลืมว่าได้ขึ้นมาเพราะเหยียบศพและกองเลือดของประชาชน เชื่ออยู่ไม่ถึง 3 ปี จากปัญหาทั้งภายในและภาคนอกพรรค พร้อมเสนอ ปชช.ตั้งพรรค-สร้างการเมืองใหม่ด้วยตัวเอง แต่ไม่เกี่ยวกับ 5 แกนนำ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวปาฐกถา
วันนี้ (27 ธ.ค.) เวลาประมาณ 19.00 น. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ปาฐกถาพิเศษหัวข้อการเมืองใหม่ ในงานฉลองชัยชนะและงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยย้ำว่าที่ผ่านมาไม่ได้หายไปไหน แต่ได้เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดทุกครั้งที่มีการชุมนุมด้วยเป้าหมายเดียวกันกับพันธมิตรฯ คือการทำลายพรรคการเมืองเลวๆ ในระบอบทักษิณ
น.ต.ประสงค์ กล่าวแสดงความชื่นชม ยกย่องพันธมิตรฯ ที่เสียสละแรงกายแรงใจ รวมทั้งสูญเสียอวัยวะและชีวิตเพื่อให้ได้การเมืองใหม่ ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการเมืองไทย โดยพันธมิตรฯ สามารถเอาชนะพลังมารได้ด้วยมือเปล่า ซึ่งส่วนหนึ่งสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี ถือเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้ความรู้ ข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนจนทำให้เกิดพลังมวลชน ต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ถ้าไม่มีการต่อสู้ของพันธมิตรฯ รัฐบาลชุดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้น พรรค ปชป.ต้องตระหนักถึงความจริงดังกล่าวว่า พันธมิตรฯ มีส่วนร่วมในการสร้างการเมืองใหม่ โดยการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ถือเป็นการทำหน้าที่ของพลเมืองดี ซึ่งทางพันธมิตรฯ ไม่เคยทวงบุญคุณ ไม่เคยแอบอ้างความดี ในการขับไล่รัฐบาลทรราช หรือรัฐบาลฆาตกร ทางพันธมิตรฯ ไม่ต้องการอะไรนอกจากการเมืองใหม่
อย่างไรก็ตาม น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ความรู้สักของตนกับความรู้สึกของพันธมิตรฯ ตรงกันเมื่อมีการตั้งรัฐบาลนี้ คือความรู้สึกพะอืดพะอมที่เอาคนที่แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เองเคยรังเกียจมาร่วม แต่ต้องกล้ำกลืนเพื่อให้โอกาสในการเป็นรัฐบาล แต่ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรที่ผิดไม่ชอบธรรม ทางพันธมิตรฯ ก็จะไม่เห็นดีเห็นงามด้วย
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ในฐานะที่อยู่วงการการเมืองมานาน พันธมิตรฯ ถือว่าเป็นบรรทัดฐานใหม่ทางการเมืองที่เกิดขึ้น และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป้นพรรคน้ำดี จึงขอพูดในลักษณะเตือนด้วยความหวังดีในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน จึงอยากใก้คุณความดีที่เคยทำมาต้องรักษาไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมาเพราะมีสิ่งผิดปกติ 3 ประการ คือ 1.เรื่องอำนาจการต่อรอง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มี 166 เสียง แต่กลับมีอำนาจต่อรองน้อยกว่าพรรคร่วมฯ ที่อยากจะได้ตำแหน่งอะไรก็ได้หมด 2.ตามปกติพรรคแกนนำรัฐบาลต้องคุมอำนาจกระทรวงที่สำคัญอย่างใกล้ชิด อย่างเช่น กระทรวงกลาโหม มหาดไทย พาณิชย์ อุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรฯ แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับมอบกระทรวงเหล่านี้ให้พรรคร่วมรัฐบาลหมด 3.คุณภาพคนที่มาเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวงไม่ตรงกับงาน เช่น พาณิชย์ อุตสาหกรรม เกษตรฯ แต่ต้องยอมให้เป็น ทั้งนี้ การที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์พูดว่าจำเป็นต้องเอาคนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อมากู้ชาตินั้น เป็นคำพูดที่ใช้ไม่ได้ เพราะประเทศไม่ใช่ห้องทดลอง และอย่าลืมว่ารัฐบาลชุดนี้เหยียบศพและกองเลือดของผู้บาดเจ็บเข้ามา
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่ไม่มีขาย อยากได้พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องร่วมกันทำ โดยวิธีที่จะได้การเมืองใหม่ต้องสรรหาพรรคการเมืองที่มีวิธีตรวจสอบแบบพันธมิตรฯ ซึ่งพี่น้องพันธมิตรฯ อาจจะตั้งขึ้นมาเอง เพราะมีเครือข่ายอยู่แล้ว แต่พรรคนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแกนนำพันธมิตรฯ เพราะได้ประกาศแล้วว่าไม่ต้องการตำแหน่งทางการเมือง แต่พวกเราสามารถตั้งพรรคการเมืองได้เพื่อเป็นพรรคการเมืองที่ฟังและปฏิบัติตามสิ่งที่ประชาชนต้องการ
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ ตรวจสอบรัฐบาลชุดนี้ให้ดี โดยเฉพาะบรรดากระทรวงสำคัญดังกล่าว ส่วนที่ว่าจะอยู่ถึง 3 ปีนั้นพูดได้ แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ไม่รู้ แต่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ตนมองว่าเกี่ยวข้องกับทั้งปัจจัยภายนอกและภายในพรรค โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้องกับข้อกฏหมายในกรณีที่ ส.ส.สัดส่วน จากพรรคที่ถูกยุบ จะสามารถเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อโหวตได้หรือไม่ เพราะตนเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ ส.ส.สัดส่วนของพรรคที่ถูกยุบไม่สามารถเข้าประชุมสภาได้
