นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า อยู่ที่สื่อ ถ้าสื่อโหวตให้ตนออกตนก็พร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานสภาฯและส.ส. แต่ถ้าไม่ต้องการให้ลาออกก็จะทำงานต่อไป แต่จะมีใครมาบีบบังคับนอกเหนือ กฎหมายไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ และรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ว่าผู้ที่ไม่ควรอยู่ในตำแหนงประธานสภา จะต้องติดคุก ทำผิดและลาออก แต่ตนไม่ได้ทำผิดอะไร จึงไม่จำเป็นต้อง ลาออก และตอนนี้ตนยังไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่อีก 2-3 วัน จะสังกัดพรรค ซึ่งก็จะไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนเนวิน หากไปอยู่ตรงไหนก็จะไปด้วยไม่อ้อมค้อม เพราะรัฐบาลนี้ก็เป็นรัฐบาลเพื่อนเนวิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะควบคุมให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ในสภา ได้อย่างไร นายชัย กล่าวว่า การที่นายกฯและรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ถือว่า ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ทำหนังสือแจ้ง ไปยังรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์แล้วว่าทำผิดกฎหมาย ส่วนในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยอภิปรายว่าเขามาก็คงจะจำคำพูดตัวเองได้ น่าจะทำอะไรได้ง่าย คงไม่เป็นอย่างที่ไปว่าเขาแล้วอิเหนาเป็นเองแบบนี้คงไม่ได้
นายชัย กล่าวถึงแนวทางการบริหารการประชุมเพื่อให้มีกฎหมายออกมาประกาศใช้จำนวนมากว่า อยู่ที่รัฐบาลว่าต้องการให้กฎหมายออกมาใช้หรือไม่ ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยพูดว่าต้องการให้กฎหมายผ่านแต่คนที่ประท้วงในห้องประชุมจำนวนมากก็คือพรรคประชาธิปัตย์ จนทำให้การประชุมเดินหน้าไม่ได้ แต่เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแล้วคนประท้วงก็อาจจะหมดไป แต่ก็ไม่ทราบว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินตามทางพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่เชื่อว่าเขาคงไม่ทำ เพราะผู้แทนฯ ได้รับมอบหมายจากประชาชนว่าจะต้องเสนอกฎหมาย ออกกฎหมายและแก้ไขกฎหมาย
สำหรับมาตรการลงโทษส.ส.ที่ใช้ความรุนแรงจนทำให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างส.ส.นั้น นายชัย กล่าวว่า จะมีมาตรการลงโทษอย่างจริงจังด้วยการนำข้อบังคับการประชุมสภา มาตรา 171 ที่ระบุเรื่องการขับออกจากห้องประชุมมาบังคับใช้ หากใครถูกลงโทษก็จะถูกบันทึกเป็นผีดำที่อยู่ใต้ดินเอาไว้ในบันทึกการประชุมสภา และการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภา ที่ตนต้องรีบอ่านพระราชกฤษฎีกา ปิดสมัยประชุมเพราะดูเหตุการณ์เกรงว่าจะเกิดเหมือนกับสภาไต้หวัน จึงต้องรีบปิดประชุมสภา ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน นอกจากนี้ยังมีการจัดการสัมมนา ส.ส.เพื่อหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน แต่มองว่าปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะทุกคนต้องการแสดง อีโก้ของตัวเอง ให้คนในพื้นที่รู้ว่าตัวเองเก่งในสภา
ด้าน นายบุญจง วงศ์ไตยรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึง แนวทางการเมืองของกลุ่มฯว่า จะหารือกันหลังปีใหม่ว่าจะตั้งพรรคการเมืองเอง หรือไปอยู่พรรคที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้งหลังแถลงนโยบาย เสร็จแล้ว เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ของกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายบุญจง กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกับเพื่อน ส.ส. ตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กลุ่มเพื่อนเนวิน เรียกร้อง แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์มองว่าควรให้มีการปฏิรูปทางการเมืองมากกว่า นายบุญจง กล่าวว่า วันนี้เรื่องของรัฐธรรมนูญในนโยบายกำหนดชัดเจนว่า เป็นการปฏิรูปการเมืองที่นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ก็คงจะเป็นในส่วนของการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป รับได้ไม่มีปัญหาอะไร
ด้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมว.คมนาคม กลุ่มเพื่อนเนวินกล่าวถึงกรณีที่ 23ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะไปสังกัดพรรคใดระหว่างพรรคใหม่ หรือพรรคที่มีส.ส. ในตอนนี้นั้น เป็นไปได้ทั้งสองทาง โดยคณะทำงานของกลุ่มกำลังดูเรื่องนี้อยู่ หากเป็นไปได้กลุ่มเพื่อนเนวินตั้งพรรคใหม่ได้ก็น่าจะดี และยังทราบว่า ส.ส.ที่ยังไม่มีพรรคก็อาจมาร่วมงานกับกลุ่มด้วย แต่มันอาจติดปัญหาบางอย่างทางกฎหมาย ฉะนั้นอาจไปอยู่กับพรรคที่มีอยู่แล้วเช่นพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา หรือพรรคประชาราช เพราะโดยส่วนตัวผมเคยสังกัดกลุ่มวังน้ำเย็นของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากย้ายไปสังกัดพรรคประชาราชจริงพรรคนั้นก็อาจมารัฐบาล นายประจักษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นความเห็นส่วนตัวเพราะพรรคนั้นเป็นพรรคที่อยู่ ในสารบบแล้ว เมื่อถามว่า นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน บอกว่า จะมี 40 ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายมาสังกัดกลุ่มเพื่อนเนวิน นายประจักษ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ลำบากเพราะส.ส.เมื่อไปสมัครพรรคใดพรรคหนึ่งแล้ว หากจะย้ายออกมาจาก พรรคนั้นก็จะสิ้นสุดสถานภาพส.ส.ทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะควบคุมให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ในสภา ได้อย่างไร นายชัย กล่าวว่า การที่นายกฯและรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ถือว่า ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ทำหนังสือแจ้ง ไปยังรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์แล้วว่าทำผิดกฎหมาย ส่วนในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยอภิปรายว่าเขามาก็คงจะจำคำพูดตัวเองได้ น่าจะทำอะไรได้ง่าย คงไม่เป็นอย่างที่ไปว่าเขาแล้วอิเหนาเป็นเองแบบนี้คงไม่ได้
นายชัย กล่าวถึงแนวทางการบริหารการประชุมเพื่อให้มีกฎหมายออกมาประกาศใช้จำนวนมากว่า อยู่ที่รัฐบาลว่าต้องการให้กฎหมายออกมาใช้หรือไม่ ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยพูดว่าต้องการให้กฎหมายผ่านแต่คนที่ประท้วงในห้องประชุมจำนวนมากก็คือพรรคประชาธิปัตย์ จนทำให้การประชุมเดินหน้าไม่ได้ แต่เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแล้วคนประท้วงก็อาจจะหมดไป แต่ก็ไม่ทราบว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินตามทางพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่เชื่อว่าเขาคงไม่ทำ เพราะผู้แทนฯ ได้รับมอบหมายจากประชาชนว่าจะต้องเสนอกฎหมาย ออกกฎหมายและแก้ไขกฎหมาย
สำหรับมาตรการลงโทษส.ส.ที่ใช้ความรุนแรงจนทำให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างส.ส.นั้น นายชัย กล่าวว่า จะมีมาตรการลงโทษอย่างจริงจังด้วยการนำข้อบังคับการประชุมสภา มาตรา 171 ที่ระบุเรื่องการขับออกจากห้องประชุมมาบังคับใช้ หากใครถูกลงโทษก็จะถูกบันทึกเป็นผีดำที่อยู่ใต้ดินเอาไว้ในบันทึกการประชุมสภา และการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภา ที่ตนต้องรีบอ่านพระราชกฤษฎีกา ปิดสมัยประชุมเพราะดูเหตุการณ์เกรงว่าจะเกิดเหมือนกับสภาไต้หวัน จึงต้องรีบปิดประชุมสภา ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน นอกจากนี้ยังมีการจัดการสัมมนา ส.ส.เพื่อหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน แต่มองว่าปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะทุกคนต้องการแสดง อีโก้ของตัวเอง ให้คนในพื้นที่รู้ว่าตัวเองเก่งในสภา
ด้าน นายบุญจง วงศ์ไตยรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึง แนวทางการเมืองของกลุ่มฯว่า จะหารือกันหลังปีใหม่ว่าจะตั้งพรรคการเมืองเอง หรือไปอยู่พรรคที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้งหลังแถลงนโยบาย เสร็จแล้ว เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ของกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายบุญจง กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกับเพื่อน ส.ส. ตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กลุ่มเพื่อนเนวิน เรียกร้อง แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์มองว่าควรให้มีการปฏิรูปทางการเมืองมากกว่า นายบุญจง กล่าวว่า วันนี้เรื่องของรัฐธรรมนูญในนโยบายกำหนดชัดเจนว่า เป็นการปฏิรูปการเมืองที่นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ก็คงจะเป็นในส่วนของการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป รับได้ไม่มีปัญหาอะไร
ด้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมว.คมนาคม กลุ่มเพื่อนเนวินกล่าวถึงกรณีที่ 23ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะไปสังกัดพรรคใดระหว่างพรรคใหม่ หรือพรรคที่มีส.ส. ในตอนนี้นั้น เป็นไปได้ทั้งสองทาง โดยคณะทำงานของกลุ่มกำลังดูเรื่องนี้อยู่ หากเป็นไปได้กลุ่มเพื่อนเนวินตั้งพรรคใหม่ได้ก็น่าจะดี และยังทราบว่า ส.ส.ที่ยังไม่มีพรรคก็อาจมาร่วมงานกับกลุ่มด้วย แต่มันอาจติดปัญหาบางอย่างทางกฎหมาย ฉะนั้นอาจไปอยู่กับพรรคที่มีอยู่แล้วเช่นพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา หรือพรรคประชาราช เพราะโดยส่วนตัวผมเคยสังกัดกลุ่มวังน้ำเย็นของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากย้ายไปสังกัดพรรคประชาราชจริงพรรคนั้นก็อาจมารัฐบาล นายประจักษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นความเห็นส่วนตัวเพราะพรรคนั้นเป็นพรรคที่อยู่ ในสารบบแล้ว เมื่อถามว่า นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน บอกว่า จะมี 40 ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายมาสังกัดกลุ่มเพื่อนเนวิน นายประจักษ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ลำบากเพราะส.ส.เมื่อไปสมัครพรรคใดพรรคหนึ่งแล้ว หากจะย้ายออกมาจาก พรรคนั้นก็จะสิ้นสุดสถานภาพส.ส.ทันที