“เพื่อนเนวิน” ปลดแอกขอใช้เอกสิทธิเลือกนายกฯ-ยื้อเข้า “เพื่อไทย”

“กลุ่มเพื่อนเนวิน” แถลงจุดยืนขอสงวนสิทธิ์เลือกนายกฯ ย้ำต้องเลือกคนที่สังคมยอมรับ ไม่สร้างเงื่อนไขการต่อต้าน ปัดต่อรองทางการเมือง ยื้อเข้าสังกัดพรรค เพื่อรอดูสถานการณ์ ด้าน “อีสานพัฒนา” อ้าง “เพื่อนเนวิน” ไม่เข้า “เพื่อไทย”แค่ 8 คน หวั่นชาวบ้านไม่เลือก หนุน “มิ่งขวัญ” นั่งนายกฯ แต่ “อภิวันท์” อาจเป็นม้ามืด

วันที่ 4 ธ.ค.ที่รัฐสภา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พร้อมกลุ่มเพื่อนเนวิน 37 คน ร่วมแถลงจุดยืนทางการเมืองภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชนว่า ทางกลุ่มเพื่อนเนวินได้พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ จึงขอแสดงจุดยืนคือ จากนี้ไป ทางกลุ่มจะระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการสร้างเงื่อนไขใดๆ ที่จะนำไปสู่สภาวะเสี่ยงทั้งทางตรงและทางอ้อม และเห็นว่าขณะนี้ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์พิเศษทางการเมืองซึ่งจะมีแต่สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยทางกลุ่มมีความเห็นตรงกันว่าบุคคลที่จะนำเสนอชื่อให้สภาผู้แทนฯ ลงมติเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นต้องเป็นบุคคลคนที่ได้รับการยอมรับนับถือและต้องเป็นคนที่ไม่มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการต่อต้าน จนนำไปสู่การปะทะและไม่สร้างความขัดแย้งในสังคม ทางกลุ่มจึงขอใช้เอกสิทธิในสภาด้วยการขอสงวนสิทธิในการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อนำความสงบเรียบร้อยคืนสู่บ้านเมืองโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงจะสังกัดพรรคใด นายบุญจง กล่าวว่า ยังไม่พิจารณาหรือตัดสินใจว่าจะสังกัดพรรคใด เพราะตามกฎหมายสามารถตัดสินใจได้ภายใน 60 วัน อย่างไรก็ตามทางกลุ่มไม่มีแนวทางตั้งพรรคใหม่ด้วย

เมื่อถามว่าจะย้ายไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาหรือไม่ นายบุญจงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่ใช่แนวทางกลุ่มแน่นอน

เมื่อถามว่า เป็นการยื้อเพื่อสร้างราคาให้ตัวเองและเป็นการต่อรองผลประโยชน์กับรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การต่อรองผลประโยชน์ แต่เพราะขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติจึงยังไม่รีบร้อนตัดสินใจ อีกทั้งตามกฎหมายให้ ส.ส.ที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนฯ ได้

“ศักดา” อ้าง “เพื่อนเนวิน” หนี “เพื่อแม้ว” แค่ 8 คน

นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด กลุ่มอีสานพัฒนา อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินยังไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า วันนี้มี ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินทยอยมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมากแล้ว หลายคนติดต่อยืนยันที่จะมาร่วมทำงานด้วยกัน และเชื่อว่าจะเข้ามากันทั้งหมด คงเหลือเพียง 7-8 คนเท่านั้น เช่น ส.ส.บุรีรัมย์ 7 คนและ ส.ส.นครราชสีมา 1 คนเท่านั้น แต่ก็ยังมีเวลาในการตัดสินใจ เท่าที่ทราบนั้นหลังจาก ส.ส.หลายคนกลับไปลงพื้นที่ปรากฏว่ากระแสชาวบ้านไม่พอใจและไม่เห็นด้วยหากจะย้ายไปสังกัดพรรคอื่น โดยบอกว่าให้ย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยด้วยกัน หากย้ายไปอยู่พรรคอื่นชาวบ้านจะไม่เลือกมาเป็น ส.ส. และในสมัยหน้ามีโอกาสที่จะสอบตกสูงโดยเฉพาะในภาคอีสาน ทำให้ต้องรีบตัดสินใจ เพราะไม่อย่างนั้นก็เตรียมเลิกเล่นการเมืองไปได้เลย

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะย้ายไปสังกัดพรรครวมใจไทยฯ นั้น นายศักดา กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ แต่เรื่องนี้ผู้ใหญ่ของพรรคมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง เพราะได้ประสานกันเป็นทีมเพื่อปรับโครงสร้างใหม่ในการทำงานร่วมกันต่อไป

เชียร์ “มิ่งขวัญ” นั่งนายกฯ แต่ “อภิวันท์” อาจเป็นม้ามืด

นายศักดา กล่าวต่อว่า เมื่อ ส.ส.ย้ายมาร่วมงานกันแล้ว เชื่อว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะไม่ติดขัดหรือมีอุปสรรคอะไร โดยส่วนตัวคิดว่าตอนนี้ผู้ที่เหมาะสมมากที่สุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี คือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เพราะทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้ เพราะหากเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พรรคร่วมรัฐบาลและกระแสสังคมอาจจะไม่ยอมรับ ซึ่งช่วงนี้หากเปรียบเหมือนม้าขาวกับม้าแดงที่วิ่งแข่งกันมา ม้าขาวอาจจะเข้าวิน แต่ก็อาจจะมีม้ามืดจากคนในพรรคก็ได้ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วย อ.เป็น ส.ส.นนทบุรี ก็เป็นได้ แต่โอกาสที่จะเป็นพรรคอื่นก็ยังมี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ใช่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า พ.อ.อภิวันท์เป็นบุคคลที่ทุกฝ่ายยอมรับ สามารถเชื่อมประสานกับทุกฝ่ายได้ แต่พันธมิตรฯ จะพอใจหรือไม่นั้นไม่ทราบ ส่วนกรณีที่ พ.อ.อภิวันท์อาจจะมีปัญหาจากกรณีที่เคยเป็นแกนนำ นปก.ไปบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น ตนไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้