xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” จับผิดพันธมิตรฯ ตั้งพรรค โยงสถานภาพเอเอสทีวี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รมต.สำนักนายกฯ ระบุประชาธิปัตย์ไม่มีสาขาสอง ยันฮั้วเลือกตั้งทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย เผยยังไม่ได้หารือ “สมเกียรติ” พร้อมตีจาก ชักขวางพันธมิตรฯ ตั้งพรรค ตั้งแง่สงสัยจะใช้เอเอสทีวีเป็นเครื่องมือเพื่อการเมืองหรือไม่

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (26 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ว่า จริงๆ พันธมิตรฯ เพิ่งตัดสินใจตั้งพรรคกันเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ในพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่มีการคุยกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ละคนสามารถเลือกที่จะจะไปสังกัดอยู่พรรคใดก็ได้ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ในพรรคประชาธิปัตย์เองเราไม่เคยปิดกั้นคนที่ต้องการตัดสินใจทางการเมือง พรรคตั้งมานาน 60 กว่าปีก็มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายพรรคก็มีบ่อยๆ แต่เรายังเชื่อมั่นว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคยังคงทำงานอยู่กับพรรคต่อไป และในการเลือกตั้งครั้งหน้าคงจะมีหน้าใหม่เข้ามาร่วมงานกับพรรคอีกจำนวนมาก อาจเป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มาเป็นนายกฯ และทำงานแล้วมีคนรุ่นใหม่มาสมัครทำงานกับพรรคเป็นจำนวนมาก

เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าถ้ามีการเลือกตั้งในวันนี้พรุ่งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.เท่าไหร่ นายสาทิตย์กล่าวว่า คงประเมินยาก เพราะสถานการณ์การเมืองยังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การตั้งพรรคใหม่ของพันธมิตรฯ หรือพรรคภูมิใจไทยหรือตัวแปรหลัก อย่างพรรคเพื่อไทยก็ยังมีความไม่แน่นอนในแต่ละพรรคว่า จะมี ส.ส.โยกย้ายหรือไม่อย่างไร หรือแม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งหรือไม่ ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้คิดถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า คิดแต่จะแก้ปัญหาความวิตกกังวล ของประชาชนต่อเรื่องเศรษฐกิจอย่างไร

ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั่วไปก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีอะไรวิตกกังวล เมื่อถามว่า เมื่อพันธมิตรฯ ตั้งพรรคขึ้นมา แนวทางการควบคุมดูแลสื่อจะทำอย่างไร จะปล่อยให้สถานีเอเอสทีวีดำเนินการไปปกติหรืออย่างไร นายสาทิตย์ตอบว่า ไม่ว่าใครตั้งพรรคขึ้นมาสถานภาพก็เปลี่ยนไป ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ระเบียบของ กกต. ทาง กกต.ต้องกำกับควบคุมอยู่ เรายังหวังว่าจะมีการใช้กฎเกณฑ์กติกากันอย่างเป็นธรรม ส่วนกรณีการใช้สื่อก็ต้องดูว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบคนอื่นหรือผิดกฎเกณฑ์กติกาใดๆ หรือไม่

เมื่อถามว่า เกรงว่าในอนาคตจะถูกกดดันมากหรือไม่ เพราะมีทั้งพรรคการเมือง มีมวลชนนอกสภาฯ และมีสื่อในมือ นายสาทิตย์ตอบว่า ปัจจุบันเป็นรัฐบาลก็มีปัจจัยรุมเร้าทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติใครมาเป็นรัฐบาลในภาวะวิกฤตบ้านเมืองอย่างนี้ก็ต้องถูกกดดันเป็นธรรมดา ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งหรือคิดไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าเลย คิดแต่ทำงานอย่างไรให้ราบรื่น สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมองว่าพรรคของพันธมิตรฯ จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง นายสาทิตย์ตอบว่า เป็นเรื่องที่พันธมิตรฯ ต้องชี้แจงเอาเอง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยตั้งสาขาอยู่แล้ว ประชาธิปัตย์มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายของพรรค และตนเชื่อว่าพันธมิตรฯ ก็มีอิสระเช่นเดียวกัน ส่วนที่เกรงว่าจะมีการฮั้วกันในสนามเลือกตั้งนั้น ยุคนี้จะฮั้วในการเลือกตั้งไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้การติดตามตรวจสอบของทั้ง กกต. สื่อมวลชนและพรรคการเมืองอื่น ซึ่งการฮั้วเลือกตั้งนั้นผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทำไม่ได้ ส่วนการรับมือแรงกดดันที่จะถาโถมเข้ามา และเสียงโจมตีความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่จะเข้ามานั้นต้องตระเตรียมมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และต้องเตรียมการชี้แจงให้ประชาชนตอบสังคมได้ว่า 6 เดือน รัฐบาลได้ทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีอย่างไร

เมื่อถามถึงผลการสำรวจโพลภายในของพรรคประชาธิปัตย์เองระบุว่า คะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นมากผิดหูผิดตา จะสร้างความมั่นใจให้พรรคในการลงสู่สนามเลือกตั้ง และมีการวางโปรแกรมให้นายกฯ ลงพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน รวมทั้งพื้นที่ของกลุ่มเพื่อนเนวิน นายสาทิตย์ตอบว่า คงเป็นลักษณะเชิงวิเคราะห์มากกว่า คงไม่ได้มีโพลโดยเฉพาะ ซึ่งเราดูจากผลการสำรวจโพลล์ต่างๆ ว่า สิ่งที่ประชาชนวิตกกังวลหรือมีความต้องการ ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาคือเรื่องอะไร หลักๆ คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รองลงมาคือการแก้เรื่องวิกฤติความขัดแย้ง ให้คนรักและสามัคคีกัน ส่วนอื่นๆ ก็คงเป็นการวิเคราะห์ว่าการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาอุปสรรคอยู่ตรงไหนบ้างในความรู้สึกของประชาชน เราก็พบว่าประชาชนยังมีความวิกฤตกังวลอยู่ แต่ก็มีความเชื่อมั่นว่านายอภิสิทธิ์สามารถแก้ปัญหาได้ รัฐบาลต้องมุ่งมั่นทำงานต่อไป และต้องไม่ให้สิ่งที่มีการพูดจาให้สัมภาษณ์วิพากษ์วิจารณ์กัน โดยคนในพรรคมาเป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น