กกต.เล็งสอย “อภิสิทธิ์” - ยุบ ปชป.หลังออกเดินสายขอการสนับสนุนจากผู้ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิทางการเมือง อ้างทำคำสั่งศาลฯ ไร้ความหมาย เป็นวิธีการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองที่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคง
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคนมาร้องว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ ได้กระทำความผิดกฎหมายพรรคการเมือง ที่ไปเดินสายขอความสนับสนุนเพื่อให้ตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีในการจัดตั้งรัฐบาล จากกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเนื่องจากถูกยุบพรรค นั้นการกระทำของนายอภิสิทธิ์ เป็นเรื่องที่ต้องคิด เพราะการกระทำดังกล่าว มองแล้วจะเป็นเรื่องที่หนักกว่ากรณีที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ช่วยผู้สมัครพรรคพลังประชาชนหาเสียงเสียอีก เนื่องจากอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว นายอภิสิทธิ์ยังไปหารือหรือเดินสายขอรับความสนับสนุนจากผู้ที่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก ทำให้การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีความหมาย
“นายอภิสิทธิ์ไม่ควรไปเดินเที่ยวหาการสนับสนุนแบบนี้ เพราะไม่มีความเหมาะสม หรือสง่างามเลย เพราะวิธีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกระทำการตามที่รัฐธรรมนูญ ให้ถือว่าเป็นการได้อำนาจโดยการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง หรือระเบียบ หรือประกาศว่าด้วยการเลือกตั้ง และการกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นปฏิปักษ์ ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การกระทำนี้อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร หรือขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ที่อาจตีความเป็นไปตามมาตรา 94 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หากมีคนร้องมา กกต.ก็ต้องมาดูสิ่งเหล่านี้ ซึ่งอาจถึงขั้นยุบพรรคก็เป็นได้ ” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กกต.เคยวินิจฉัยกรณีที่มีผู้ร้องว่าพรรคพลังประชาชนมีพฤติกรรมเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปีไปแล้ว ซึ่ง กกต.วินิจฉัยว่า พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยจริง แต่อ้างว่าไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายที่จะเอาผิดกรณีการเป็นนอมินี ทั้งที่การกระทำของพรรคพลังประชาชนเป็นการทำให้คำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไร้ความหมายเช่นเดียวกันกับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ไปขอรับการสนับสนุนจากคนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง