แกนนำพันธมิตรฯ พบพี่น้องทางเอเอสทีวี “สนธิ” แฉนายตำรวจ “ทาสแม้ว” จงใจยัดข้อหาก่อการร้ายเล่นงานแกนนำฯ คดีคนร้ายยิงเอ็ม 79 ถล่มผู้ชุมนุมกลับไม่สนใจติดตาม จวกสื่อกลางกลวงรายงานแต่ความเสียหายปลายเหตุ ไม่มองผลงานสละชีวิตปกป้องชาติ ย้ำจุดยืน ASTV อยู่ข้างความถูกต้องชัดเจน แนะคนกรุงไม่เลือก “แก้วสรร” หลังตั้ง “แอ๊ด คาราบาว” ร่วมทีม “สมเกียรติ” ชี้พันธมิตรฯ หยุดชุมนุม เหมือนอยู่ในระยะฟักตัวเตรียมต่อสู้ครั้งใหม่ เดินหน้าปฏิรูปทุกองค์กร ด้าน “มาลีรัตน์” ทวงถามหน่วยงานรัฐฟ้องเรียกค่าเสียหายจากระบอบทักษิณ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” จำลองเวทีชุมนุมของพันธมิตรฯ มาไว้ในห้องส่งเอเอสทีวี คืนวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ มาร่วมสนทนากับนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ผู้ดำเนินรายการ
สโรชา - สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม และพ่อแม่พี่น้อง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” วันนี้ อุ้ย ไม่ได้ยินเสียงนี้มาหลายวันมาก พ่อแม่พี่น้องคะ คิดถึงมากๆ เลย แต่วันนี้พวกเราอยู่ในห้องส่ง รู้สึกว่าเงียบเหงา และคิดถึงเสียงมือตบ คิดถึงเสียงพี่น้องเอ้ยยย เหลือเกิน แต่ว่าเมื่อการชุมนุมสิ้นสุดลงเราก็กลับมาสู่ที่ตั้ง กลับเข้าสู่ห้องส่งของ ASTV แน่นอนค่ะ คู่หูคู่ฮาของแอ้มนะคะ พี่สาวที่น่ารัก คุณแอน จินดารัตน์ อยู่ด้วยนะคะ และวันนี้เราก็มีแขกรับเชิญจะเรียกว่า วิทยากรประจำรายการ ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนมาให้ข้อคิด แสดงความคิดเห็นกันทุกๆ ค่ำคืนในรายการนี้ จะเป็นแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งรุ่น 1 และ รุ่น 2 มานั่งคุยกับเราในทุกๆค่ำคืน สลับสับเปลี่ยนกันมา คืนนี้ได้รับเกียรติจาก คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ค่ะ สวัสดีค่ะ
สมเกียรติ - สวัสดีครับ
สโรชา - แหม พี่น้องเอ๊ย
จินดารัตน์ - เอ๊ย
สโรชา - ต้องตอบกันเอง
จินดารัตน์ - สู้ๆ
สโรชา - สู้
จินดารัตน์ - คุณสนธิ หยิบมือตบนี้ขึ้นมาจะให้พ่อแม่พี่น้อง และท่านผู้ชมดูมือตบอันนี้นะคะ หลังจากที่เราโดนระเบิดหลายครั้งที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ดอนเมือง ที่สุวรรณภูมิ แม่ยกเป็นห่วงสวัสดิภาพของบรรดาแกนนำและพิธีกร
สโรชา - ค่ะ
จินดารัตน์ - เอามือตบนี้พร้อมกับตะกรุด เห็นไหมค่ะอันนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดนะคะ
สโรชา - ค่ะ
จินดารัตน์ - และก็มีเพียงไม่กี่อัน เอามาให้ปรากฏว่ายังไม่ได้ใช้เลย ม็อบเลยซะก่อนแล้ว
สโรชา - เลิกซะก่อน เลิกแบบหลายท่านก็ดีใจบอกว่าจะได้กลับไปพักผ่อน แต่หลายท่านก็รู้สึกเหงาไม่มีอะไรทำ 6 เดือนครึ่งคะ คุณสนธิคะ ที่เขาอยู่กับพวกเรามาและในที่สุดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน จะให้ปรับชีวิตกันอย่างไรคะเนี้ย
สนธิ - มันเป็นอืมจริงๆแล้วมันมีนัยยะทางการเมืองสูงมากเลย
สโรชา - ค่ะ
สนธิ - นะครับ ผมคิดว่าอ.สมเกียรติ คงเห็นด้วย ผมเคยคิดเมื่อซักวัน สองวันนี้ หลังจากที่เราหยุดมานี้ ผมมีความรู้สึกว่าจากนี้ไปเนี้ย ไม่ว่าจะเป็น ASTV หรือไม่ว่าจะเป็นพี่น้องพันธมิตรฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ดู ASTV เนี้ย เปลี่ยนไปหมดแล้ว กลุ่มชุมชน และก็กลุ่มประชาชนที่มาร่วมกับเราในครั้งนี้เนี้ยนะคุณแอนเมื่อปี 48 - 49 อย่างมหาศาลเลย ข้อที่ 1 ต่างกันในแง่ปริมาณ ข้อที่ 2 ต่างในแง่คุณภาพ ชุมชนที่มาชุมนุมกับเราครั้งแรก คุณภาพเขาสูงขึ้นแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ใช่สูงอย่างเดียว ลงลึกด้วย 6 เดือนที่อยู่ด้วยกัน มันหลอม มันไม่ใช่หลอมแค่รับฟัง อ.สมเกียรติ ปราศรัย มันหลอมตรงที่มันมีหลายเหตุการณ์ต่อเนื่อง สมัยก่อนมันมีเฉพาะคุณทักษิณคนเดียว แต่พอพ้นมาครั้งนี้ การที่มีนอมินีตัวแทนคุณทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมัคร หรือคุณสมชาย ตลอดจนผู้ที่รับใช้ รับเงินรับทองคุณทักษิณมา ไม่ว่าจะเป็นคุณเฉลิม อยู่บำรุง, คุณไชยา สะสมทรัพย์ และคณะรัฐมนตรี 2 ชุด ทำให้ประชาชน เหมือนกับบรรลุธรรมเลย ครั้งแรกที่ปฏิบัติธรรม เพราะเจอคุณทักษิณ คุณทักษิณอาจจะเป็นพญามาร และนั่งปฏิบัติธรรมเพื่อสู้กับพญามาร แต่ครั้งนี้ได้เห็นเลยว่า ทายาทอสูรมีเยอะแยะไปหมด ทำให้เขาเข้าใจเลยว่าจากนี้ไป ใครจะมาเป็นทายาทอสูร หรือหลานอสูร หรือเหลนอสูร เขาจะดูออกทันที ชัดเจนมาก ความรู้สึกที่ลึกซึ้งในเรื่องพวกนี้ ความซ้ำซากที่ต้องเกิดมาตอนเช้าแล้วเปิดฟังคุณปอง อัญชลี ต่อไปด้วยคุณสำราญ รอดเพชร คุณประพันธ์ คูณมี ต่อไปด้วยคุณต๋อง ยุทธยงค์ คุณวรรษมน ช่างปรีชา มาจนกระทั่งถึงช่วงเย็น ซึ่งเป็นแกนนำพวกเราออกมา มีเรื่องทุกวัน เเละเรื่องแต่ละเรื่องมันเชื่อมโยงเรียงร้อยกันได้หมดเลย สมมติว่าเคยฟังเรื่องนี้ในวันที่ 25 พฤษภาคม พอมาอีกวันที่ 175 อีกเรื่องหนึ่งครับ, อีกเรื่องหนึ่งเขาสามารถจะโยงได้หมดเลยนะ ว่าเนี้ยมันเรื่องเดียวกัน
สโรชา - มันไม่ใช่ Real Time อีกต่อไปแล้ว
สนธิ - ไม่ใช่ Real Time อีกแล้ว
สโรชา - ค่ะ
สนธิ - เราได้สร้างองค์ความรู้ที่สำคัญที่สุดให้กับภาคประชาชน ผมเคยพูดมาตลอดเวลาเลย แล้วก็เหตุผลหนึ่งที่พวกนี้เนี้ยกลัวพวกเรานะครับ ผมไม่ทราบว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร แต่ผมมั่นใจว่าแกนนำพันธมิตรเข้าใจ กลัวพวกเรา เพราะว่าเราเนี้ยจุดเทียนแห่งปัญญาขึ้นมา มันไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการให้ปัญญาคน และถ้าเราให้ปัญญาคนทั่วประเทศได้เนี้ย ประชาชนเนี้ยจะเป็นคนกำหนดทิศทางของประเทศ อาจจะมาในรูปแบบของประชาชนเป็นเจ้าของพรรค และพรรคเป็นเจ้าของทุน
สโรชา - ค่ะ
สนธิ - สมัยก่อนทุนเป็นเจ้าของพรรค และพรรคมาใช้ประชาชน ถูกไม่ถูกครับ
สโรชา - ใช่ค่ะ
สนธิ - นี่มันกลับหัวกลับหางหมดเลยนะ เหตุผลที่มันกลับหัวกลับหางได้ เพราะว่าประชาชนไม่โง่ ฉลาด และที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือว่า ประชาชนทุกระดับ ทุกชนชั้น (คนเขาบอกว่าม็อบเราเนี้ย เป็นม็อบชนชั้นกลาง) จริง, จริงมาก แต่ก็มีส่วนที่ไม่จริงอยู่บ้าง ส่วนที่ไม่จริงก็คือว่าถ้าคนได้ไปเดินที่ทำเนียบ หรือว่าได้สัมผัสจริงๆจะเห็นว่า ประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดเนี้ย ชาวบ้านชาวช่องเยอะเลย เหมือนกับเมื่อกี้นี้ ผมกับอ.สมเกียรติ คุณน้องแอ้ม กับคุณแอน ได้ไปงานศพของน้องโบว์มานะครับ
สโรชา - ค่ะ
สนธิ - เราจะเห็นได้ชัด เห็นตรงไหนรู้ไหม เห็นตรงที่ว่าน้องโบว์เนี้ย เรียนจบปริญญาตรีนะครับ
จินดารัตน์ - ค่ะ
สนธิ - คุณพ่อ คุณแม่น้องโบว์เนี้ย เป็นชาวบ้านธรรมดา ถูกไหมครับ แต่ความรู้สึกเขาเศร้าสร้อยแน่ เพราะเขาเสียลูกสาวไป แต่ความรู้สึกที่เขาเข้าใจดีว่าลูกสาวเขาตายเพราะอะไร จากชาวบ้านธรรมดาซึ่งการศึกษาน้อยมากนี่ แสดงว่าอะไร แสดงว่าอย่างน้อยที่สุดความคิดทางการเมืองเขาลึกซึ้ง
จินดารัตน์ - ค่ะ
สนธิ - เขารู้ว่าลูกสาวเขาตายเพราะว่าปกป้องแผ่นดินไทย ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจที่สุดนะครับ ไม่รู้ ผมโยนและ อ.สมเกียรติ เห็นด้วยไหม
สมเกียรติ - ครับ, ผมอยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชน ก่อนจะกราบเรียนนะครับ ที่ไปงานศพมา คุณอัญทิพฐา สุวรรณพงษ์ และครอบครัว บริจาคให้ ASTV 2,000 บาท และกองทัพธรรม 1,000 บาท ผมได้มอบให้คุณสนธิ ไปแล้วนะครับ ผมอยากจะเรียนอย่างนี้นะครับว่า ตามทฤษฏีการเคลื่อนไหวเนี้ย เขาบอกว่าจากน้อยไปสู่มากนะครับ เราเคลื่อนไหวปรากฏการณ์สนธินี่ คนน้อยก็ถือว่ามากและ มันไปมากกว่า จากน้อยไปสู่มาก จากปริมาณสู่คุณภาพ ตอนนี้ขบวนการประชาชน ที่เราเรียกว่าขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมใหม่นะครับ มันได้พัฒนาไปสู่คุณภาพแล้ว
จินดารัตน์ - ค่ะ
สมเกียรติ - ยิ่งองค์กรของประชาชน และองค์กรแนวร่วมเนี้ยพัฒนามาถึงคุณภาพแล้ว มันก็จะทำให้ได้ข้อสรุปชัดเจนประการหนึ่งว่า พันธมิตรฯ สู้รบได้ทุกสถานการณ์
จินดารัตน์ - อืมค่ะ
สมเกียรติ - สถานการณ์ยึดทำเนียบก็สู้ได้
สนธิ - อันนี้จริง
สมเกียรติ - สนามบินก็สู้ได้ อยู่บ้านก็สู้ได้ แล้วก็ระยะนี้ตามทฤษฏีการเคลื่อนไหวแนวก้าวหน้า เขาบอกเป็นระยะฟักตัวเนอะ ร้อนนะนั่น เขาเอากลับบ้านเหอะ เร้าร้อนเมื่อไหร่จะเอาอะไรออกแรง
จินดารัตน์ - ทำตัวไม่ถูก
สมเกียรติ - การออกแรงทางสังคม เขาเรียกระยะฟักตัว และระยะฟักตัวเนี้ยมันเป็นปัจจัยสำคัญมาก เพราะว่าคนมันจะตั้งสติ อย่างที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้หลักศาสนามาเนี้ย มันก็จะใคร่ครวญตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม จนมาถึงการปิดล้อมสุวรรณภูมิ การถูกตีตอบโต้กลับด้วยการฟ้องร้องหลายหมื่นล้านเนี้ย คนมันจะตั้งสติ และพอคนตั้งสติมันจะเปรียบเทียบระบบคุณค่า ระบบคุณค่าอย่างหนึ่งว่า ถ้าปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้โกงชาติเนี้ย มันจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ มันจะโกงชาติอย่างเอิกเกริก เมกะโปรเจกต์ โครงการกินขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นกับพันธมิตรฯ ที่ทำความเสียหายน้อยมากเนี้ย เรายอมรับว่าความเสียหายมีอยู่ ในเชิงวัตถุ แต่ชาติมันไม่ใช่เรื่องเก้าอี้ของทำเนียบ มันไม่ใช่เรื่องสนามบินขึ้นไม่ได้ แต่ชาติมันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งนี้ ไม่ใช่สื่อมวลชนโจมตีเราตลอด เพราะฉะนั้นการตั้งสติเนี้ย มาอยู่ในระยะฟักตัวนี้ เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับพวกรัฐบาลชิงสุนัขเกิดมากนะครับ
จินดารัตน์ - อืมคะ
สมเกียรติ - เพราะว่ามันไม่ใช่ชนะ ประกาศแล้วไปอยู่บ้านเฉยๆนี่ มันเกิดระยะฟักตัว แล้วมันจะมีการออกแบบกับทุกจังหวัดเลยที่จะก่อการขึ้นเนี้ย หมายถึงมันก็ได้ขยายพื้นที่จากใจกลางของความขัดแย้งเนี้ย ไปสู่ทุกปริมณฑล พรุ่งนี้หาดใหญ่ มะรืนโคราช และนครสวรรค์, สุรินทร์ มันไปหมดเลย ตะกี้มาจากเพชรบุรี มันไปหมดเลย แนวรบของที่เราเรียกว่าสงครามครั้งสุดท้ายเนี้ย มันเป็นสงครามยังไม่สิ้นสุดนะครับ มันยังไม่สิ้นกระแสความว่างั้นเถอะ มันไม่ซะใจ มันไม่จบนะ เพราะฉะนั้นการเปิดแนวรบขยายพื้นที่เนี้ย จึงเป็นการออกแบบทางการเมืองที่มีส่วนผสมอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกมาจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราเรียกยุทธวิธีของพันธมิตรฯ อันที่สองมาจากภาคประชาชน ตื่น รู้เอง อย่างที่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ บอกว่าสงครามครั้งนี้เป็นสงครามระหว่างผู้หลับใหล กับผู้ตื่นแล้ว
จินดารัตน์ - อืม
สมเกียรติ - เพราะฉะนั้นผู้ตื่นแล้วเขาจะออกแบบของเขาเอง อย่างภาคใต้เนี้ย เราไม่ต้องออกแบบสติปัญญาของพี่น้องภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง กรุงเทพฯ มันออกแบบได้หมดแหละ เดี๋ยวมันจะไปดาวกระจายเองครับ สังเกตดูคนที่ไปเนี้ยเราไม่ต้องบอกเลย เขาดาวกระจายเอง แสดงว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดจากการออกแบบมันเองแล้ว ผมจึงนอนตอนนี้ก็มีความสุขครับ เพราะว่าเราไม่เคลื่อน ประชาชนก็เคลื่อน เขาพัฒนาจากปริมาณไปสู่คุณภาพแล้ว แล้วระยะฟักตัวเนี้ยเป็นระยะที่น่าสนใจมาก
สนธิ - มันมีจุดหนึ่ง อ.สมเกียรติ คุณแอน คุณแอ้ม ประชาชนที่หมุนเวียนมาเนี่ย 193 วัน อาจารย์ว่าถึงล้านคนไหม
สมเกียรติ - ผมว่ามากกว่าล้าน
สนธิ - มากกว่าล้าน และตอนนี้ทุกคนกลับบ้านหมดแล้ว คนพวกนี้ถ้าเปรียบคือนักรบที่ไปสงครามมา เมื่อเขากลับไปแล้ว ของเขาคือกองกำลัง นี่ประมาทไม่ได้ ในจังหวัดแต่ละจังหวัด ชุมชนที่เขามีอยู่ แน่นอนที่สุดจะต้องเป็นฝ่ายตรงกันข้าม แต่ฝ่ายตรงกันข้ามไม่ได้ผ่านสงครามอย่างเขาผ่านมา ฝ่ายตรงกันข้ามคอยนั่ง และฟังอีกฝ่ายหนึ่งมาเล่าให้ฟัง แล้วยื่นเงิน 200 บาท 300 บาท 500 บาท แล้วก็พูดตามที่ถูกสั่งให้พูด หรือว่าถูกสอนจากโทรทัศน์ โกหกประชาชน NBT แต่ของเราเป็นนักรบกลับมาพร้อมกับบาดแผลเต็มตัว เขาพร้อมที่จะชี้หน้า แล้วพูดให้ฟังอธิบายเป็นจุดๆ คือเถียงกันได้ทุกเรื่อง หรือแม้กระทั่งถ้าจะต้องปะทะกันเขาก็พร้อมที่จะทำ สังเกตอย่างอาจารย์ ถ้าเป็นการชุมนุมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นคดีความ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ทุกคนจะกลัว วันนี้ถ้าแกนนำโดนคดีอะไรก็ตาม ซึ่งวันนี้คดีใหม่มาละ คุณจงรัก คดีผู้ก่อการร้ายสากล เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าฝีมือใคร มีอยู่ไม่กี่คนนะ ผมเอ่ยชื่อให้ฟังก็ได้ ว่าใครวางแผน ประชาชนบางคน อุ้ยตายละแกนนำ แต่วันนี้เขาฟังมาแล้ว เป็นนักรบมาแล้ว เขาโกรธ เขาจะโกรธทันทีเลย แล้วแรงโกรธจะอยู่ในตัวเขา เมื่อใดก็ตามแรงโกรธปะทุออกมา บางทีเขารวมตัวกันเองโดยที่เราไม่ต้องบอกเขา แล้วเขาก็จะมากันเอง เพราะเขาเห็นความอยุติธรรมเกิดขึ้น คดีก่อการร้ายจริงๆแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นปัญหาของคุณ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน คนที่วางแผนคือ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ พล.ต.ท.ชะลอ ชูวงศ์ เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 16 รุ่นเดียวกับทักษิณ เป็นคนวางแผนดำเนินคดีกับเราไงคุณแอ้ม สมัยที่คุณทักษิณอยู่ ต่อด้วย พล.ต.ท.ฉลอง รุ่นที่ 16 ผู้บัญชาการภาค 1 พวกนี้มาสุมหัวกัน เพื่อวางแผนที่จะเอาข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายใส่กับเรา เป็นวิธีที่เห็นชัดเจน แล้วตรงนี้ประชาชนเขาเข้าใจ เขาก็จะถามตัวเขาเองว่า ถ้าอย่างนั้นเวลาที่พวกแกไปฆ่าประชาชน แกเคยค้นไหม คนไปยิงปืนใส่ แล้วจริงๆแล้วฝีมือยิง M 79 ผมเริ่มๆได้ข้อมูลแล้วไม่ต้องห่วง กองบัญชาการตำรวจนครบาล รู้เห็นเป็นใจ อยู่เบื้องหลังด้วย เป็นฝีมือตำรวจ ยืนยันได้ คุณจงรัก เคยออกมาโวยวายบ้างไหม แค่ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และเก๊กท่าต่อหน้าทีวี แล้วหลังจากนั้นก็เงียบหายไปเลย ไม่เคยพูด ไม่เคยอธิบายอะไรทั้งสิ้น ถูกไม่ถูก แต่พอมาถึงเราแล้ว รับลูก นายเหวง โตจิราการ คนพวกนี้เขาจะมีสายของเขา มาแจ้ง มันยิงระเบิดใส่พวกเรามา คนเราตายไปรวมทั้งน้องโบว์ สารวัตรจ๊าบ 6 คน บาดเจ็บอีกเท่าไหร่
จินดารัตน์ - 700 กว่าคน
สนธิ - ไม่มีความตื่นตัว ไม่มีความรู้ร้อนรู้หนาวเลยแม้แต่นิดเดียว คนพวกนี้เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา แล้วยังมาทำคดีนี้กับเราอีก คนพวกนี้เล่นงานเราตั้งแต่สมัยออกหมายจับครั้งแรก แล้วมาทำ ไม่ถูกต้องเลย มีความอยุติธรรม ลำเอียง มีความเป็นอคติอยู่ในใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือคุณจงรัก จุฑานนท์ ชะลอ ชูวงศ์ ก็ไม่ได้ เพราะเป็นคนซึ่งวางแผน และอยู่รุ่นเดียวกับทักษิณ คนพวกนี้ต้องไม่มีสิทธิ์มาทำคดีพวกนี้ ต้องเอาตำรวจที่เป็นกลาง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับใคร แล้วก็มาดูพิจารณาคดี ขนาดท่านผู้การกองปราบท่านยังออกมาให้ความเห็นเลยบอกว่า ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ มันจะไปเข้าได้ไงผู้ก่อการร้าย เหมือนกับที่เขาเอาเรื่องข้อหากบฏเรา คนพวกนี้สักแต่ว่าเป็นตำรวจ และนี่ก็อีกอัน ทำให้ประชาชนเขาเห็นไง หลังจากเขาเห็นมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง มาจับเราข้อหากบฏ มาจับผมข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มากลั่นแกล้งพวกเรา เขาเห็นมาตลอด วันนี้ก็อีกครั้งที่เป็นเครื่องยืนยันแสดงว่า ความรู้ปัญญาเขามีอะไร
สโรชา - ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้พอฟังข่าวแบบนี้ก็อุ้ยตายละ ทำไงดีละ
สมเกียรติ - คนพวกนี้วิ่งใส่เลย
สโรชา - เดี๋ยวนี้ไม่ เดี่ยวนี้ทำอย่างนี้ได้ไง
สมเกียรติ - คือเป็นการเติมเชื้อไฟนะ การระยะฟักตัว องค์ความรู้ และทฤษฎีมันพร้อมที่จะไหม้ การฟักตัวคือมันพร้อมอาการจะไหม้ มันรุ่มร้อนในตัวพันธมิตรฯว่า ไอชัยชนะมันไม่ใช่กระแสความ ผมก็เลยอยากจะเตือนว่าระวังข้อเรียกร้องของเราถูกยกระดับ เพราะว่าการต่อสู้ เรา 1.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อันที่ 2 เราขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดใช่ไหมครับ ระวังมันจะนำไปสู่การปฏิรูปสังคมอย่างถ้วนทั่ว เพราะว่าทฤษฎีนี้มันเคยเกิดขึ้นในเอเชียช่วงปี 1975 มาแล้ว มันจะเป็นจากผู้ก่อการร้ายมาเป็นผู้ก่อการดีหมดเลย แล้วผู้ก่อการดี เราจะเปลี่ยนจากผู้ก่อการร้ายมาเป็นผู้ก่อการดี แล้วไอ้พวกผู้ก่อการดีโดยเฉพาะรัฐตำรวจ มันจะกลายเป็นผู้ก่อการร้าย แล้วสมุนของระบบทักษิณ มันจะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายทันที เพราะว่าพวกนี้มันก้าวล่วงแม้กระทั่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ตอนหลังบอกว่า ก้าวล่วงไปถึงศาลตุลาการ และมันก้าวล่วงไปท้าทายกองทัพด้วย พวกนี้มันจะไปเล่นกับพวกเราหรืระดับรากหญ้าต่ำกว่า มันจะเล่นสูงสุดเลย มันจะเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์เลย แล้วก็มาเล่นศาล อย่างนักวิชาการของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ตราชื่อมันไว้เลยก็ได้ สมชาย ปรีชาศิลปกุล มันบอกว่าตุลาการ มันไม่ใช่ตุลาการภิวัตน์ หรอก มันเป็นตุลาการวิบัติ ใช้คำนี้เลย แล้วหนังสือนี้ถูกตีพิมพ์ไปชำแหละศาลถึงสหรัฐฯ เพราะฉะนั้นไอ้การทิ่มแทงไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันศาล และเยาะเย้ยถากถางกองทัพ ถ้ารัฐประหารนองเลือด คำพูดของใคร ทักษิณใช่ไหม มันถึงเรียกว่าเราจะต้องต่อสู้ถึงองค์กรที่มีอำนาจสูงสุด การต่อสู้อย่างนี้ พันธมิตรฯ ทำหน้าที่ไปผ่าครึ่งสังคมไทยให้เห็นข้างชัดเจน ข้างนี้เป็นข้างที่สถาบันสูงสุดของศาล และกลไกดั้งเดิมที่ได้รับการปฏิรูปใหม่ เพื่อมวลชนดีขึ้น สังคมดีขึ้น เป็นสิ่งปฏิกูลในสังคมไทย รักชาติ เนชั่น สเตท ที่เกิด 15 ล้านคนขึ้นไป ปรากฏการณ์สนธิ พันธมิตรฯ และASTV อันเป็นความรักชาติแนวใหม่ แนวใหม่ที่มันมีมันเหนือกว่าพรรคนะ อย่าไปพูดเรื่องพรรคเลย พันธมิตรเนี้ย มันผ่าแล้วนะ สังคมไทย 2 ซีกเนี้ย ซีกนี้มันใหญ่กว่าพรรค มันเท่าๆกับกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากเลย เพราะฉะนั้นเนี้ยผมยังขำเลย ว่าออกมาเนี้ยเจรจากันดีๆ โผล่ 2 หมื่นล้านเนี้ย สนามบินนู้น สนามบินนี้ คุยกันดีๆ บอกว่าท่านดีมาก ไม่เสียหายอะไรเลย แล้วมาเก้าอี้ทำเนียบอย่างนี้ คล้ายๆว่า ไอ้แค่เก้าอี้เนี้ยกับอนาคตของชาติเนี้ย ชาติมันไม่ใช่เก้าอี้ ไม่ใช่วัตถุของชีวิต แต่ชาติเนี้ยมันเป็นจิตวิญญาณ เป็นอุดมการณ์ของคน ของน้องโบว์ สารวัตรจ๊าบ และคนอื่นๆอีก
จินดารัตน์ - เนี้ยพออาจารย์พูดอย่างนี้ วันนี้มีคอลัมนิสต์หลายคน โดยเฉพาะคุณเปลว สีเงิน บอกว่าผมสังเกตเห็นผู้ประกาศข่าวของช่องทั่วๆไป ฟรีทีวีทุกช่อง จะเน้นถามย้ำถามว่าความเสียหายเท่าไหร่ เกิดขึ้นจะบูรณะเท่าไหร่
สนธิ - คุณแอนๆ
จินดารัตน์ - คะ
สนธิ - เมื่อกี้นี้เราพูดถึงภาคประชาชน เราพูดถึงการต่อสู้ ผมอยากจะพูดถึงคนในวงการสื่อมวลชน
จินดารัตน์ - คะ
สนธิ - นี่เราพูดถึงคนกันเองเลย คุณแอน คุณแอ้ม และก็คนซึ่งเป็นพิธีกร หรือคนซึ่งทำข่าวในสายของ ASTV คุณไม่รู้หรอกว่าคุณก็เปลี่ยนไปเยอะ คุณเติมศักดิ์ ก็เปลี่ยนไปเยอะ ที่เปลี่ยนไปเนี้ยไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีนะ คุณรู้ลึกขึ้น กว้างขึ้น นี่ผมกล้าพูดเลย คือผมไม่ต้องเกรงใจและ ผมมีความรู้สึกว่าพิธีกรต่างๆ ในสื่อมวลชนส่วนใหญ่นะครับ อาจจะยกเว้น 3-4 คน เท่านั้นเอง แต่ผมขี้เกียจเอ่ยชื่อนะครับ นอกนั้นแล้วเนี้ยด้อยปัญญามากนะครับ คุณไม่รู้หรอก คุณล้ำหน้าเขาไปขนาดไหน ไอพวกพิธีกรช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ช่องบ้าช่องบอ ความรู้เนี้ยยังแค่หางอึ่ง เมื่อมาเทียบกับพี่น้องประชาชนของเราที่นั่งอยู่หน้าเวที เพราะเขาไม่มีวันเข้าใจอย่างที่คุณแอนบอกว่า เขามามองว่าเสียหายเท่าไหร่ เก้าอี้พังไปกี่อัน แต่เขาไม่เคยคิด หรืออย่างที่อ.สมเกียรติ หรือผมคิดว่าเฮ้ย! ถ้าพันธมิตรไม่ออกมาเนี้ย
จินดารัตน์ - ค่ะ
สนธิ - ที่เสียหายก็คือว่ามันต้องแก้รัฐธรรมนูญแน่นอน เมื่อมันแก้รัฐธรรมนูญแล้ว มาตรา 237 ก็จะไม่เหลือนะ ยังนับประสาอะไรกับองค์มนตรี และอีกหลายมาตรา
จินดารัตน์ - ค่ะ
สนธิ - เอาเฉพาะ 237 ถ้าเราไม่ออกมาวันนี้เนี้ย ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีวันที่จะตัดสินยุบพรรคได้
จินดารัตน์ - อืม
สนธิ - ตรงนี้เนี้ย ถ้ามันต้องแลกกับเก้าอี้อีกล้านตัว หรือสนามบิน แม้กระทั่งหนึ่งสนามบินยังคุ้มเลย แสนกว่าล้านก็ยังคุ้ม เพราะนี่คือชาติทั้งชาติ คนพวกนี้ไม่เคยเข้าใจว่า สิ่งที่พวกเราสู้เนี้ย เราสู้เพื่อให้ทุกคนยอมรับในกติกา ยอมรับในกฎหมาย เราพูดมาตลอดใช่ไหมว่าขอให้ยอมรับ
จินดารัตน์ - ค่ะ
สนธิ - เราเรียกร้อง อ.สมเกียรติ จำได้ไหม ตอนที่เราชุมนุมครั้งแรกเนี้ย เมื่อประมาณต้นปีเนี้ย ที่เราออกแถลงการณ์เราเรียกร้องให้รัฐบาลสมัครเนี้ย อย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ ผุดผ่อง
สโรชา - ที่แกนนำกลับมารวมตัวกันใหม่
สนธิ - ถูกต้องที่เรามารวมกัน และเหมือนกับว่าเราเนี้ยมีญาณพิเศษ ที่เรารู้ว่าเราต้องเอาละ เราไม่เอาไม่ได้ เพราะมันต้องแก้รัฐธรรมนูญแน่นอนที่สุด ตรงนี้เนี้ยคอลัมนิสต์ส่วนใหญ่ ยกเว้นบางคน พิธีกรทางโทรทัศน์เจื้อยแจ้ว เจื้อยแจ้วกันไปหมด แต่เหมือนนกแก้ว นกขุนทอง ซึ่งอยากจะพูดก็พูด ไม่มีสาระอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ร้อน รู้หนาว ไม่เข้าใจ สนใจเรื่องที่อยู่แค่หัวแม่เท้าตัวเองเท่านั้นเอง ไม่เคยมองอะไรเลยหัวแม่เท้าตัวเองไป แต่พวกคุณเนี้ย นี่ไม่ได้มาพูดมาชมพวกคุณ หรือพวกเรากันเองเนี้ย พวกเราเนี้ยมันยาวไกลไปจนถึงข้างหน้า มองได้เห็นว่าเฮ้ยไม่ได้แล้วนะ รถไฟกำลังจะวิ่งเข้ามาชน ไฟกำลังจะเริ่มไหม้บ้านเรา ต้องหยุดเรื่องนี้แล้ว เมื่อมาพูดเรื่องนี้แล้ว ผมขออนุญาตต่ออีกซักนิดหนึ่ง
สโรชา - คะ
สนธิ - อ.สุวิทย์ บอกเราแบ่งค่าย เราไม่ได้แบ่งค่ายในลักษณะที่แบ่งค่ายๆ เราจำแนกความถูกกับความผิดออก และเราจำแนกความดีความชั่วออก
สโรชา - คะ
สนธิ - และเราบอกว่าเรายืนอยู่บนความถูก เรายืนอยู่บนความดี คุณเอาไหม คุณไม่จำเป็นต้องเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คุณตอบคำถามผมซิ ว่าการซึ่งคุณเข้ามาแก้กฎหมาย เพื่อให้คุณพ้นผิดเนี้ย คุณเห็นด้วยไหม ผมเชื่อว่าพวกที่บอกว่า ผมเห็นด้วยไม่ควร และผมก็ถามต่อถ้าอย่างนั้นแล้วการที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาชุมนุมกัน 193 วัน เสียชีวิตไป 8 คน บาดเจ็บ 700 กว่าคน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแกักฎหมายเพื่อให้คนพ้นผิด คุณว่าอย่างไรล่ะ ก็คุณเห็นด้วยข้อที่ 1 คุณก็ต้องเห็นด้วยข้อที่ 2 ซิ ก็ถามต่อว่าข้อที่ 3 โดยที่ไม่ต้องตอบว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยนะ ถามต่อข้อที่ 3 เท่าที่คุณเห็นมามีใครออกมาสู้เรื่องนี้ไหม แล้วคุณได้สู้หรือเปล่า คุณก็ไม่ได้สู้ พันธมิตรฯสู้ และอย่างไร และประเทศนี้เป็นของพันธมิตรฯคนเดียวหรือ ไม่ใช่ ก็เป็นของคุณด้วย เป็นเพียงแต่คุณเป็นพวกเอาเท้าราน้ำ พวกไร้สาระ พวกหน่อมแน้ม พวกพิธีกรซึ่งเอาแต่หน้าเอาแต่ตามาโชว์ โชว์ลิปสติก โชว์เล็บที่ทา โชว์ความกระแดะ แต่สมองคุณไม่มีอะไรเลยนั้น ผมนี่ดูถูกและเหยียดหยาม ขอโทษผมต้องใช้ ผมดูถูกและเหยียดหยามพิธีกรและคนในวงการโทรทัศน์ส่วนใหญ่ในเมืองไทย แต่ผมอาวุโสที่สุด ผมอายุมากที่สุด ผมอายุมากที่ผมจะสามารถตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ได้ ผมมีความรู้สึกว่าพวกนี้ไร้สาระ มิน่าเมืองไทยมันไปไหนไม่ได้เลย เหตุผลก็เพราะว่าเรามีคนพวกนี้เยอะเกินไป
จินดารัตน์ - คุณสำราญ เคยบอกว่าแอนเอ้ย ทำใจเถอะ มวลชนลาวเนี้ยก้าวหน้าไปไกลกว่าสื่อบ้านเราด้วยซ้ำไป ใช่ไหมคะ
สนธิ - ไกลกว่าเยอะ มวลชนนี่ล้ำหน้าไปมากเลย สื่อบ้านเราเนี้ยนะเดินตามหลังยังไม่เห็นฝุ่นของมวลชนลาวเลย ถ้าพูดถึงการแข่งกันแล้วเนี้ย เขาเรียกว่าชนะแบบฉีกกระดาษ (แขวก) อย่างนี้เลย
สมเกียรติ - คำว่ากระแดะนี่โชว์ไม่ได้นะ กระแดะเป็นอาการที่ไม่สมควรถูกโชว์กันทางสังคม และผมก็มองว่าขณะนี้สื่ออื่นไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนเชื่อถือได้อีกแล้ว เพราะแต่เดิมเนี้ยทฤษฎีกฎหมาย ทฤษฏีการต่อสู้ของประชาชนเขาบอกว่าไม่เชื่อฟังรัฐ อารยะขัดขืน เดี๋ยวนี้มันย้ายมาผสมโรงด้วย ไม่เชื่อฟังสื่อ วิพากษ์สื่อ
จินดารัตน์ - ค่ะ
สมเกียรติ - ไม่เชื่อฟังสื่อ พอพี่น้องของเรา 10 กว่าล้านคน หรือว่าเป็นล้านคน เป็นแสนคนเนี้ย พอโทรทัศน์ช่องไหนบิดเบือนมันบอกว่า อ.โทรใส่ร้ายและ ประเมินแล้วว่าไอสื่อนี้ใส่ร้ายเข้าใจไหม
จินดารัตน์ - ค่ะ
สมเกียรติ - เพราะฉะนั้นมันเนี้ย มันไม่ใช่ไม่เชื่อฟังรัฐอย่างเดียว มันย้ายไปไม่เชื่อฟังสื่อ แล้ววิพากษ์สื่อ แล้วสื่อพวกนี้นี่กลายเป็นสิ่งปฏิกูลทางสังคมเลยนะครับ
สโรชา - ย้ายไปอยู่ฟากนู้น
สมเกียรติ - แล้วผมอยากจะย้ำประโยคที่ผมใช้คำว่าพันธมิตรฯ เป็นผู้ผ่าสังคมให้เห็นฝ่าย ไม่ใช่ไปแยกฝ่าย สังคมมันคลุมเครือ มันอ้างสถาบันสูงสุดไปโกงชาติบ้านเมือง ไปคอรัปชั่นเป็นแสนๆล้านเนี้ย พันธมิตรฯฟันโพะเลยว่า เอ๊ยพวกนี้อยู่นี่นะ มันผ่าให้เห็นฝ่าย ไม่ใช่พันธมิตรฯไปแบ่งฝ่าย แล้วปัญหาของมันก็คือว่าพอพันธมิตรฯไปผ่าแล้วเนี้ย กระบวนการทำลายพันธมิตรฯเนี้ย มันเกิดใกล้อย่างเดียวก็คือว่า ผลพวงของความเสียหายของพันธมิตรฯที่ผมได้รับการบอกว่าพรุ่งนี้ข่าวจะออกทางลบกับเรามากเลย จึงตัดสินใจมาขอออกรายการวันนี้ว่า พี่น้องด้วยความเคารพอย่างสูง ต่อพี่น้องประชาชนนะครับ ถ้าเก้าอี้และเบาะ เครื่องคอมพิวเตอร์ในทำเนียบรัฐบาลหายไปบ้างเนี้ย สูญเสียไปบ้างเนี้ย กับการรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เนี้ย ท่านจะเลือกเอาเก้าอี้ หรือว่าเบาะครับ ถ้าสนามบินหายไปซักสนามบินเนี้ย ท่านจะเลือกเอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
จินดารัตน์ - แต่ถ้าจะเอาๆละ ถ้าสื่อบอกว่ามันเสียหายนะ เบาะ เก้าอี้เนี้ย เสียหายหมด แต่ถามว่าคนที่เข้าไปแทรกซึมในพันธมิตรฯเนี้ย มันก็เยอะใช่ไหมคะ
สนธิ - โอ๊ย เยอะๆมากมาย
จินดารัตน์ - คนที่มันไม่หวังดีกับเรา
สนธิ - ต้องทำใจ ร้อยพ่อ พันแม่ มีแม้กระทั่งไปเป็นสายลับทุกอย่าง ตลอดจนไปยุยงส่งเสริมให้คนไปทำร้าย ทำลายข้าวของ
จินดารัตน์ - ค่ะ
สนธิ - กลับเป็นพวกเราซะอีก พยายามที่จะปกป้อง
สโรชา - ค่ะ
สมเกียรติ - ประเด็นนี้ผมอยากเสริม ก็ต้องขออนุญาตแทรกเข้ามาก็คือว่า แม้จะมีพวกสปายสายลับ ส่งคนเข้าไปปั่นป่วนในกระบวนการการ์ดของเรา คนของเราเนี้ย
จินดารัตน์ - ค่ะ
สมเกียรติ - แต่เชื่อไหมระดับแกนนำ ทั้งระดับจังหวัด แกนนำของจังหวัด แกนนำระดับชาติ แกนนำรุ่นหนึ่ง รุ่นสอง รุ่นสามเนี้ย ไม่มีการแตกแยกให้เห็นเลย
จินดารัตน์ - อืม
สมเกียรติ - และอีกอันก็คือว่าแม้จะฝ่าเข้าอาวุธสงครามการปราบปรามเท่าไหร่เนี้ย อสิงหา คำว่าอสิงหา และสงบ สันติ ฝ่าข้ามได้จนไปถึงชัยชนะได้ ตรงนี้ต้องภูมิใจ มันฝ่าข้ามสิ่งที่เรียกว่าสิ่งพะรุงพะรัง อุปสรรค์ ทั้งอาวุธสงคราม ทั้งตำรวจเลว ทั้งอะไร หน่วยก่อกวน ทุกอย่างเลย เอ็ม 79 ลงมาแล้วเนี้ย มันไม่ชนะอหิงสา สันติ และปราศจากอาวุธ ในที่สุดอหิงสาเนี้ยเป็นฝ่ายปักธงได้ ระบบนี้คือเป็นระบบที่คุ้มค่ามากนะ ทำให้ทั้งประเทศมีสติ และระแวดระวัง อหิงสา ความสงบ การต่อสู้โดยปราศจากอาวุธเนี้ย กับการทำลายโดยปราศจากอาวุธเนี้ย วันนี้ผมคิดว่าคนไทยเลิกอหิงสาหมดแล้ว
สโรชา - ใช่ๆ
จินดารัตน์ - แล้วอย่างน้อยที่สุดวันนี้คุณสนธิ อาจารย์ค่ะ มีหลายคนกำลังมองว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำให้สังคมไทยเปลี่ยนทัศนคติในการคิด เมื่อก่อนสังคมไทยชอบเป็นสังคม อย่างที่คุณสนธิ ว่า หยวนน่า, เอาน่า, มันเข้ามาโกงหน่อยทำงานให้บ้านเมืองก็โอเคน่า แต่วันนี้มันจะไม่มีคำนั้นอีกแล้วใช่ไหมค่ะ
สนธิ - ไม่มีแล้วครับ, เพราะว่าอ.สมเกียรติ พูดชัด ผมก็พูดชัดว่าเราแยกผิดกับถูกออก เราแยกชั่วกับดีออก แล้วผมอยากจะพูดกับคุณแอน คุณแอ้ม ในฐานะที่เป็นทีมงาน ASTV แล้วก็เล่าให้ท่านผู้ชมฟังไปเนี้ย วันนี้ผมพึ่งประกาศออกไปใน ASTV ว่า ASTV ยังคงเป็น ASTV อยู่ แต่เป็นทีวีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พวกท่านเป็นเจ้าของ อันที่สองวันนี้ผมประชุมพนักงาน ทั้งพิธีกรทุกคน และผมสั่งผู้อำนวยการสถานี ผมบอกเห้ย ASTV แล้วที่พวกเราสู้มาเนี้ย เราแยกผิด ชอบ ชั่ว ดี ชัด การที่เราขยับเคลื่อนพลไปดาวกระจายที่นั่น ไปยึดสนามบินที่นี่ และเหตุผลของการไปทุกคนมีหมด เราเข้าใจกันดี
สโรชา - คะ
สนธิ - แต่ถ้าพนักงานคนไหน ไม่เข้าใจ หรือว่าไม่สบายใจที่ ASTV สู้แบบนี้ มายืนแบบกลางๆกั๊กๆ เขียนใบลาออก ออกไปได้เลย เพราะว่าคนที่อยู่ ASTV นั้น อ.สมเกียรติ
สมเกียรติ - ครับ
สนธิ - ต้องชัดเจนว่าเราต้องยืนอยู่ข้างถูก ไม่เข้าข้างผิด ยืนอยู่ข้างดี ไม่เข้าข้างชั่ว ถ้ากลัว ถ้ามีความรู้สึกว่าเอ๊ะ มันจะถูกหรือนะ แสดงว่าคุณขาดความเชื่อมั่น และความศรัทธาในตัวผม เมื่อคุณขาด คุณอย่าอยู่ คุณรีบเขียนใบลาออกซะ แล้วออกไปเลย ออกไปไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว ใครก็ตาม ถ้ามีความรู้สึกอย่างนี้ ไปเลย ผมต้องการให้คนที่อยู่ที่นี่ เข้าใจการต่อสู้ และเมื่อเข้าใจการต่อสู้แล้ว แล้วสามารถจะเอาปัญญาของการต่อสู้นั้น เอาไปเผยแพร่ให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ไม่ใช่ว่าคุณมานั่งอ่านข่าว แล้วคุณมา อันนี้ก็ไม่แน่นะครับว่ามันจะถูกหรือผิด ก็แสดงว่าคุณประเภทกลางกรวง ที่นี่ต้องไม่มีกลางกรวง ที่นี่แบ่งข้างชัด และผมถือโอกาสพูดตรงนี้ให้พนักงาน ASTV บางคนได้ยิน เมื่อได้ยินแล้วทบทวนตัวเอง ถ้าเป็นอย่างที่ผมพูด ถ้าไม่สบายใจที่จะอยู่ ออกไป
สมเกียรติ - ครับ, อันนี้เป็นคำของนายจ้างนะครับ แต่ว่าผมอยากจะพูดว่า ASTV เนี้ย เป็นกลไกของการยกระดับสัมมาปัญญา และการลุกขึ้นสู้ของประชาชน ตัวทีวีและอุดมการณ์เนี้ยมันชัดเจนแล้ว ชัดเจนตั้งแต่ปี'48, 49, 50, 51 แต่ถ้าคนทำงานใน ASTV ยังไม่ชัดเจนเนี้ย ก็ต้องเกรงใจ ASTV นะครับ
สโรชา - คะ
สมเกียรติ - ผมไม่อยากเห็นคนทำงาน ASTV และผู้จัดการเนี้ย ไม่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขเลย ผมว่ามีมากกว่า 10 คน ผมสังเกตดู ผมยังเคยบอกพี่ตุลย์เลยว่า ผมรู้ว่าคนของพี่เนี้ยไม่เคยไปออกชุมนุมเลย แต่เห็นมากินข้าวกลางวันอยู่เรื่อย
สนธิ - ไม่ได้มาช่วยงาน
สมเกียรติ - นะครับ, เดี๋ยวๆให้ผมพูดจบก่อน แล้วก็ผมก็เลยอยากจะพูดในฐานะ คนที่อยากจะมาเขียน นสพ.ผู้จัดการ ในสัปดาห์หน้าเนี้ย ด้วยความขอบคุณนะครับ ที่คุณสนธิ อยากให้ผมเขียน ผมกำลังจะบอกว่าคนของ ASTV และผู้จัดการเนี้ย ในปีนี้และอนาคตเนี้ย ไม่ควรอำพรางตัวเองอีกต่อไปนะครับ
สนธิ - ถูกต้อง
สมเกียรติ - แล้วควรกระโดดออกมาแสดงตนเลย
จินดารัตน์ - ค่ะ
สมเกียรติ - แสดงตนเข้าใจไหม แสดงตนว่าเมื่อเขาผ่าสังคมให้เห็นแล้ว คุณจะไปอยู่ฝ่ายไหนบอกไปชัดๆอย่าอำพราง เจอคุณสนธิ แล้วหลบหน้า ปวดท้องบ้าง อะไรบ้างเนี้ย ไม่ได้ ต้องแสดงตนออกมาให้ชัดเจนเลย แต่ผมไม่ได้เรียกร้องให้เขียนใบลาออกอะไรหรอก ไม่ใช่หน้าที่ของผม แต่การแสดงตนเนี้ยเป็นการประกาศจุดยืนของคนทำสื่อมวลชน เพราะเราเห็นคนอำพรางใน นสพ. ที่เรียกว่าระดับคุณภาพของประเทศยักษ์ใหญ่มานานแล้ว อำพรางตัวเอง พอเราใกล้ชนะแล้วเขียนมาทางเรา
จินดารัตน์ - เชียร์หน่อยๆ
สโรชา - พอมองเห็นแล้ว
สมเกียรติ - พอรู้ว่าไอทางนั้นให้โฆษณามากๆเอนไปทางนั้นนิดหน่อย แต่พอกระแสเราดี เชียร์มาทางเราเนี้ย เราเห็นว่าพวกนี้เนี้ยเป็นสื่อปฏิกิริยา ซึ่งอยู่ท่ามกลางของการเปลี่ยนสีตลอดเลย แต่ว่าคนของ ASTV เนี้ยไม่ขนาดนี้ แต่ชอบอำพรางตัวเอง
สนธิ - ถูก บางคน
สมเกียรติ - บางคน บางส่วน เอาบางคนดีกว่านะครับ บางส่วนมันจะใหญ่ไป บางคนที่ผมเห็นอยู่ เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นความรู้สึกของคนที่เฝ้ามองและก็ใกล้ชิดพอสมควรนะ ก็ยังคิดว่าสื่อแนวรบหายากมาก เมื่อสื่อแนวรบ แนวรุกขึ้นสู้ แนวสัมมาปัญญา แนวยกระดับการเมืองภาคประชาชนให้สูงเด่น โดยสนใจเรื่องพรรคการเมืองน้อย ก็ต้องหากำลังสำคัญที่ไม่อำพรางตัว ได้โปรดอย่างอำพรางตัวอยู่เลย
สนธิ - ประชาชนช่วยเรา จ่ายเงินเดือนให้เรา และประชาชนพวกนี้เป็นประชาชนที่เขาเลือกข้างเรียบร้อยแล้ว เมื่อเขาจ่ายเงินเดือนให้เรา เขาดูแลเรา เขารับสมัครเป็นสมาชิก SMS ของเรา เดือนละ 200 บาท คนอื่นเขาคิดแค่ 30 บาท เขายินดีจ่ายเดือนละ 200 ถ้าอย่างนั้น เราไม่ทำงานรับใช้เขา เราจะทำงานรับใช้ใคร ขนาดเมื่อกี้ผมอยู่ที่งานศพ ผมก็พูดกับคุณแอ้มว่า เดี๋ยวผมเข้ารายการด้วยคนได้ไหม บอกขออนุญาต คุณแอ้มก็บอกว่าต้องขออนุญาตเจ้าของก่อน แล้วก็มองไปที่ประชาชนที่มางานศพ ต้องขออนุญาตเจ้าของ ASTV ก่อน จริงๆ คุณแอ้มพูด มันกินใจผม
สมเกียรติ - เจ้าของเขาอยากฟังผู้ก่อตั้ง คือด้วยเหตุอันนี้
สนธิ - คนที่ยังอำพรางตัวอยู่อย่างที่ อ.อาจารย์สมเกียรติบอก ซึ่งมีไม่กี่คน มีไม่มาก เขาต้องรู้ว่าเงินเดือนเขาได้ทุกเดือนนะ เขามาจากไหน เขาต้องสำนึก สำเหนียก ต้องละอายใจบ้าง ถ้าขาไม่สามารถแสดงจุดยืนได้ออกไปเลย
สโรชา - นอกจากจะชัดเจนในสาธารณะ ในแง่ของประชาชน ในแง่ของมวลชนแล้ว เราก็กลับมาส่องกระจก และชัดเจน ภายในด้วย
สนธิ - ต้องชัดเจน สะอาดสะอ้านเสียก่อน เรายังมีคนบางส่วนซึ่งเขา ตั้งคำถามกับเรา เราก็บอกว่าประชาชนก็เป็นเจ้าของเรา
สมเกียรติ - คือเราเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการประชาชน ขบวนการประชาชนที่ใหญ่มาก แล้วกำลังขับเคลื่อนไปอย่างเชี่ยวกราก แต่ไอ้คนที่เหนี่ยวรั้ง กระบวนการเหนี่ยวรั้งเรา เราต้องเรียกร้องว่า ให้เขาถอนตัวออกไป เพราะเขา ฉุดเหนี่ยวรั้งไว้ตลอดเลยว่า ไม่ควรไปหรอก คนเหล่านี้เราจะต้องบอกว่า ทีวีช่องนี้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการประกาศแล้วว่าเป็นสื่อของประชาชน แต่คุณมาเหนี่ยวรั้งประชาชน โดยการเกรงกลัว ละอายต่อบาป ไม่ต้องให้คุณสนธิเขียนใบลาออกไปเลย มันต้องละอายต่อบาปแล้ว ผมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใครนะ
จินดารัตน์ - วันนี้แอนเชื่อว่า ไม่ว่าแอน หรือแอ้ม หรือคนดูทางบ้าน ญาติพี่น้องที่อยู่ทางบ้าน หลายคนรู้สึกว่าวันนี้การชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้ทำให้เห็นสังคมไทยเห็นว่า คนไทยยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยอมตาย เราอาจจะเคยดูในหนัง ว่าชีวิตนี้เราไม่เคยเห็นหรอกที่เป็นหน่วยกล้าตาย
สนธิ - วันนี้เรามาเจอของจริง คือพวกตำรวจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสุชาติ เหมือนแก้ว, คุณจงรัก จุฑานนท์, คุณชะลอ ชูวงศ์ เขาไม่เข้าใจประชาชนหรอกครับ เขาไม่รู้หรอกว่าถ้าเราแกนนำไม่เน้นอหิงสาเนี่ยนะ คุณห้ามพลังมหาชนไม่อยู่หรอก เพราะถ้าเรายุคำเดียวเท่านั้นเอง กองบัญชาการตำรวจนครบาลถูกเผาเป็นจุนแน่
สโรชา - คือต้องยอมรับนะคะว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว หลังจากที่เสียน้องโบว์ เสียสารวัตรจ๊าบมา และหลายท่านต่อๆมา มีหลายท่านพูดกับแอ้มตรงๆว่าเมื่อไหร่เลิกอหิงสาสักที จะปล่อยให้มันทำอยู่ฝ่ายเดียวเหรอ
สนธิ - ถ้าเราไม่มั่นคง คือพวกตำรวจเป็นพวกเน้นอำนาจ มีความเชื่อว่าตัวเองมีปืน คำถามมีถามกลับ แล้วประชาชนเขาไม่มีปืนบ้างหรอ
สมเกียรติ - คืออย่างนี้ถ้าเราเอาข้อมูลเชิงสร้างสรรค์มาให้พี่น้องประชาชนช่วยพิจารณา ว่ามีการ์ดของเรา และพี่น้องประชาชน ทำบันทึกถึงแกนนำ ว่าทนไม่ได้แล้ว ขอรับประกาศบริจาค แทนที่จะบริจาคพัดลม เป็นมิสซายล์ ของบริจาคอาวุธ เราก็ต้องไปทำความเข้าใจเป็นวันเลย ขอบริจาคอาวุธ เพราะพัฒนาการของอหิงสา ถ้าไม่อดกลั้นจริงๆ และไม่ต้องการพิสูจน์จริงๆ ในโลกใบนี้มันพัฒนาไปหน่วยติดอาวุธทั้งสิ้น และหน่วยติดอาวุธมันจะร้ายแรงมาก มันจะเหมือนสงครามเวียดนามที่ชาวเวียดนามเหนือมันมีรากฐานของอหิงสาเมื่อก่อนมันถูกปราบปราม แต่มันมีชุดอุดมการณ์ที่มีตัวแทนของมันคือ โฮจิมินห์ แล้วมันก็จะก้าวไปสู่กองกำลังที่ติดอาวุธ และกองกำลังติดอาวุธ ฝึกง่ายเพราะมันมีอุดมการณ์ เพราะว่ามันเข้มแข็งกว่า แต่เราบอกว่าเส้นทางนั้นมันไม่ใช่สังคมไทย สังคมไทยจะต้องพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า ใน 190 กว่าวัน เราได้พิสูจน์แล้วว่าอหิงสาได้ปักหลักสร้างฐานในสังคมไทยแล้ว
สนธิ - จำได้ไหมคุณแอน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมขึ้นเวที แล้วผมร้องไห้ ผมพูดอะไรจำได้ไหม ผมบอกว่า อย่ามาดูถูกคนขี้ขลาดตาขาว ผมกล้าหาญกว่าหลายๆคน โดยเฉพาะคนอยู่ในเครื่องแบบ เพียงแต่ผมไม่ต้องการให้แผ่นดินไทยลุกเป็นไฟ เพราะถ้าแผ่นดินไทยลุกเป็นไฟ เพราะผมมีส่วนยุให้ประชาชนลุกขึ้นมาจับอาวุธ และถ้าแกนนำยุให้ประชาชนขึ้นมาจับอาวุธนะ ตำรวจเอาไม่อยู่หรอก ไม่มีทาง ตำรวจเนี่ยแหละไอ้พวก ก็ที่คุณฆ่าเขาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เขาแค้นขนาดไหน เขาแค้นถึงขนาดที่เรียกว่า งวดต่อไปที่เราเดินบุกรัฐสภา ที่เราเดินน้ำหน้า ผมหันไปเนี่ยนะผู้หญิงเต็มไปหมดเลยนะ ผมบอกว่าอย่าเพิ่งอยู่ข้างหลังผู้ชายมาก่อน เขาบอกว่าไม่เป็นไร ตายเป็นตาย ผู้หญิงพูดขนาดนี้แล้วเป็นแม่คน เป็นชนชั้นกลาง เป็นอาจารย์ แล้วจิตใจผู้ชายจะเป็นอย่างไร ผมบอกว่าถ้าสังคมไทยนองเลือด คนที่จะเศร้ามากที่สุดคือพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นผมต้องอดทนเพื่อพระเจ้าอยู่หัว แต่ว่าพวกตำรวจบางคนยังมาดูถูกพวกเรา หาว่าไอ้พวกนี้เหรอโดนยิงสักหน่อย มันไม่กล้าแล้ว พวกนี้ซิเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว แล้วพวกที่เขาไม่อยากจะพูด ไม่อยากไปเทียบกับผู้หญิง เพราะผู้หญิงพันธมิตรฯ เข้มแข็งกว่าเขาเยอะ แต่ผมกำลังจะบอกฝากไปถึงพวกเขา พวกเขาไม่เข้าใจพันธมิตรฯ เลย แล้วพวกเขาไม่รู้ว่าความกล้ามันอยู่ที่ไหน ความกล้ามันไม่ได้อยู่ที่คุณมีปืน อย่างกับคนมีปืนเป็นได้คนเดียวหรืออย่างไร อย่างกับคุณยิงได้คนเดียว คนอื่นเขายิงคุณไม่เป็นหรืออย่างไร แต่ความกล้ามันอยู่ที่อย่างที่ อ.สมเกียรติ พูด ใช้อหิงสา สันติ เอาชนะความรุนแรง คือพูดง่ายๆว่าเรากำลังสู้กับมาร ถ้าหากเราแพ้มารตรงนี้ เราจะถูกมารเข้าสิง และเราจะต่างอะไรกับตำรวจที่เป็นฆาตกรที่มาฆ่าเรา เราก็กลายเป็นฆาตกรเหมือนเขา ทำไมเราต้องทำตัวเราเป็นคนเลว บัดซบ เป็นสัตว์นรกเหมือนพวกเขา เมื่อเขาเลือกที่จะเป็นสัตว์นรก เป็นตัวบัดซบ ก็เป็นไป
จินดารัตน์ - ซึ่งก็ยอมรับว่ามีพี่น้องบางคนอาจจะเคียดแค้นจนรู้สึกโกรธแกนนำว่าไม่สั่งลุย ไม่ตอบโต้สักที
สมเกียรติ - พัฒนาการนี้มันจะนำไปสู่ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์คือสถาบันสูงสุด แล้วก็การเมืองใหม่ สังคมที่ดีงาม สังคมที่คุณธรรมนำหน้า 3 เรื่องนี้เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของชาติ แต่ยุทธวิธี พันธมิตรฯ เป็นยุทธวิธีที่ 1 กรณีพูดทั้งหมดรวมทั้งแอ้ม มันจะพัฒนาไปสู่ยุทธวิธีที่ 2 ประชาชนลงมือเอง อย่าคิดว่าพันธมิตรฯ ไปควบคุมเหตุการณ์ปัจจัยเหตุได้ มันจะมีการยุทธวิธี พันธมิตรฯ ออกแบบแน่ มือตบ ดาวกระจายก็ว่าไป แต่อย่าลืมว่าถ้าคุณกดดันเขาหนัก ยุทธวิธีของภาคประชาชนจะเกิดขึ้น เกิดด้วยตัวเขาเอง
สนธิ - ไม่ต้องรอแกนนำบอกเลย
สมเกียรติ - รอได้ไง มายื่นตั้ง 400 คน ขอบริจาคอาวุธยังไม่เอาเลย เขาจะรอได้ไง
จินดารัตน์ - แสดงว่าวันนี้การเป็นพันธมิตรฯ ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องมีแกนนำแล้ว วันนี้ไม่ต้องมีแกนนำก็ได้ แต่โดยสำนึก โดยความรู้สึก หรือโดยสิ่งที่เราฟูมฟักกันมา
สมเกียรติ - ภาษาการต่อสู้เรียกว่าเมื่อมีประมุขแห่งรัฐ กับประมุขทรราช เป็นกาต่อสู้ระหว่าง 2 ประมุข ต้องขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ว่าจะพูดให้เห็นว่า รัฐไทยมันเป็นรัฐซีกสามานย์ กับซีกคุณธรรม มันเป็นการต่อสู้ระหว่างประมุข สองประมุข ประมุขหนึ่งบงการออกมาจากต่างประเทศ เพราะฉะนั้นไอ้ยุทธวิธีมันต้องใช้หลายอย่าง แล้วยุทธวิธีนี้ ลำพังพันธมิตรฯ มันอาจจะต่อกรได้บางเรื่อง และมันยังไม่สิ้นกระแสความ มันชนะม้วนเดียวจบจริงหรือ แต่ชัยชนะเป็นของประชาชน ไอ้สิ่งที่เรียกว่าสิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์มันต้องผสมผสานกันระหว่างยุทธวิธีของประชาชน กับยุทธวิธีของพันธมิตรฯ สิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์มันถึงจะหายไปได้ เพราะฉะนั้นผมก็เลยมองว่าในขณะนี้สงครามนี้มันใหญ่เกินกว่าเราจะพูดด้วยวิธีการธรรมดา มันเป็นเรื่องของกองทัพของประชาชนแล้ว อย่างกองทัพของไทยมันเป็นกองทัพที่มีระบบเรืออากาศใช่ไหม มันก็ถูกผ่าครึ่งเหมือนกัน ดุลอำนาจเมื่อพันธมิตรฯ เทไปทางไหนมันจะเสียดุลจากพลังที่ปฏิกิริยา ที่เขาเรียกว่าประมุขสามานย์ มันจะเสียไป แต่มันยังไม่ทำลายดุลทั้งหมดนะ เพราะฉะนั้นการออกแบบนี้ ผมจึงใช้คำว่าระยะฟักตัว แล้วตรงไปงดงามมากการต่อสู้ของพันธมิตรฯ มีบทเรียนรอบด้านหมดเลย ซึ่งผมไม่มีรายละเอียดจะพูดมาก แต่เป็นการออกแบบที่เต็มไปด้วยสติ และความมุ่งมั่นในอุดมการณ์ เพราะการต่อสู้อย่างที่คุณสนธิ พอพูดมา คุณแอนถามว่าต่อไปไม่ต้องมีพันธมิตรฯ ก็ใช้ได้ใช่ไหม พันธมิตรฯ ไม่กลัวคนแล้ว ตอนนี้มันเป็นจินตนาการ จิตสำนึกที่เราเรียกว่า คุณสนธิ ใช้ศัพท์ว่า มโนธรรมสำนึก มันไปไกลแล้ว มันอยู่ตรงหัวใจ แล้วชุบอุดมการณ์มันลอยเด่นแล้ว ผมเสียชีวิตไป อุดมการณ์นี้ก็ไม่หายไป มันมีคนสืบทอด
สนธิ - คือพวกเราได้สร้างจิตวิญญาณที่เป็นพลังแห่งศีลธรรมคุณธรรมเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมันหายไปนาน หรือว่ามันไม่ได้หายไป แต่เป็นเพียงแต่ว่ารู้สึกกันแต่ไม่รู้จะเข้าร่วมอย่างไร พวกแกนนำพันธมิตรฯ เป็นคนซึ่งสร้างขบวนรถ แล้วขับมาก่อน แล้วคนค่อยๆกระโดดขึ้นขบวนรถกันไป คือขบวนรถแห่งคุณธรรม และศีลธรรม ขบวนรถยิ่งวันยิ่งยาว โบกี้ยิ่งวันยิ่งมาก คนยิ่งวันยิ่งบอก เฮ้ย ชั้นรอวันนี้มานานแล้ว ชั้นกระโดด ชั้นกระโดดเข้าไป อาจารย์พูดถูก ว่าแม้กระทั่งนายทหารก็ผ่าซีกออกมา ว่าซีกไหนบ้างที่อยู่ซีกของความดี ความถูกต้อง ซีกไหนบ้างที่อยู่ซีกของความชั่ว และความไม่ถูกต้อง มันเริ่มเห็นชัด ทุกวงการเห็นชัดหมด วงการศาลก็เห็นชัด วงการนักการเมืองก็เห็นชัด วงการธุรกิจก็เห็นชัด
สมเกียรติ - แต่ซีกตำรวจ พอผ่าแตงโมแล้วมันซีกนิดเดียว
สโรชา - ที่เราเห็นในท่ามกลางกระแสของสื่อทั่วๆไป ที่กำลังสะท้อนถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น จะไปส่องที่ทำเนียบ ดอนเมือง จะไปส่องที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า พันธมิตรฯ ได้ทิ้งอะไรไว้บ้างในส่วนของความเสียหาย วันนี้ ASTV ขออนุญาตนำภาพสะท้อนมาให้พ่อแม่พี่น้องได้เห็นแล้วกันว่าในท่ามกลางกระแสความเสียหายที่มีอยู่บ้าง เรายอมรับในสิ่งที่เราทิ้งไว้ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้มันมีอะไรบ้าง ญาติพี่น้องมีส่วนหนึ่งที่มาสร้างตรงนี้กัน นี่แค่ช่วงแรกนะคะ อย่าเพิ่งไปไหน จะมีทิ้งท้ายอะไรไหมคะช่วงแรก คุณสนธิคะ
จินดารัตน์ - แอนขออนุญาตคุณสนธิว่า สิ่งที่แอนเห็นชัดเจนมากที่สุด และเราก็ไม่รู้จะถ่ายทอดเป็นคำพูดอย่างไรได้ครบถ้วนคือความเสียสละ
สนธิ - จู่ๆธรรมดาคนเราแค่มาร่วมชุมนุมก็ถือว่าเสียสละมากแล้ว ทิ้งบ้านทิ้งช่อง
สมเกียรติ - การเสียสละที่มีรายจ่าย มันมีความหมายมาก ไม่ใช่เสียสละธรรมดา เสียสละที่มีรายจ่าย คือต้องซื้อการเสียสละโดยประชาชน มันเป็นศัพท์ที่มีคุณูปการสูง
สนธิ - เหมือนไม่เคยมีมาก่อน มาชุมนุมเสี่ยงตายก็เสี่ยงตาย ยังต้องเสียเงินอีก คิดอย่างไร คือไม่ออก ไปถามใครในทั่วโลกก็ไม่มีใครคิดว่ามันมีแบบนี้ด้วยเหรอ เรื่องที่ 2. เวลาเราบอกประชาชนว่า สินค้าชิ้นนี้ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ เหมือนมติชนสุดสัปดาห์ เราบอกว่าเป็นหนังสือพิมพ์ที่บิดเบือน ปรากฏว่าประชาชนทั่วประเทศเลิกซื้อ ยอดตกหมดเลย หนังสือพิมพ์มติชนเหลือตั้งขนาดนี้ เนชั่นสุดสัปดาห์หมด พอเราเริ่มบอยคอตสินค้าบางประเภท ฝ่ายเสื้อแดงก็เอามั่ง ประกาศลิสต์บอยคอต ธนาคารกรุงเทพ ซีพี ผมก็เลยคิดของผม คือมันขำ ผมก็ถามตัวเองว่าคุณบ้าไปหรือเปล่า ธรรมดาคุณออกจากบ้านต้องขอเขา 200 เลย จะใส่เสื้อแดง ลำพังแค่ 200 บาทติดกระเป๋า คุณยังไม่มีแล้วคุณจะไปบอยคอตอะไรเขา คือเจ้าของสินค้าเขาหัวเราะท้องคับท้องแข็ง แต่พันธมิตรฯ รวมตัวกันแล้วบอยคอตสินค้า บอยคอตการบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง ปัญหาเกิดขึ้นทันที เพราะพันธมิตรฯ คือคนซึ่งกล้าใช้ กล้าเสียสละ แล้วเขาก็รู้ว่าเขายอมเสียเงินก้อนนี้ เพราะว่าเขาต้องการสนับสนุนอุดมการณ์ของเรา แล้วเขาต้องการไม่ซื้อไอ้นี่ แต่ไปซื้อไอ้นี่แทน เพราะเขาต้องการที่จะสั่งสอนอีกฝ่ายหนึ่ง
สโรชา - มันไม่ได้อยู่ที่ตัวสินค้าต่อไป
สนธิ - ไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนอย่างคุณอะไรผมขี้เกียจเอ่ยชื่อ เป็นพรีเซนเตอร์รถยนต์ โชคดีที่เราไม่ได้ประกาศออกมา แต่วันนี้จำเป็นต้องพูด ผมรู้จัก อ.แก้วสรร ผมเสียดาย ผมไม่รู้จักอะไร และผมไม่ได้มีอะไรไม่ถูกกับคุณแอ๊ด คาราบาว แต่ผมมีความรู้สึกว่าคุณแอ๊ด คาราบาว เป็นคนไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นนักฉกฉวยโอกาส เพราะฉะนั้นการซึ่งคุณแอ๊ด คาราบาว ไปพูดจา หรือเข้ามาร่วมทีมของ อ.แก้วสรร ในทีม กทม.มันก่อให้เกิดคนซึ่งคิดว่าคุณแก้วสรร เป็นพวกพันธมิตรฯ ยืนข้างพันธมิตรฯ เขาก็เลยปฏิเสธ อ.แก้วสรร เลย ก็เลยทำให้ผมจำเป็นในความเห็นส่วนตัวผม อยากจะพูดกับพ่อแม่พี่น้องว่าอย่าไปเลือกเลยทีม อ.คุณแก้วสรร เพราะว่าการที่ อ.แก้วสรร ไม่เข้าใจบทบาทของคุณแอ๊ด คาราบาว ว่ามีบทบาทอย่างไรกับการต่อสู้ของประชาชนที่มา 190 กว่าวันนี้ แม้กระทั่งประชาชนตายไปตั้งกี่คน เมื่อมามองย้อนหลังแล้ว อาจารย์แก้วสรรก็ไม่เคยพูดถึง แกเป็นคนแปลกมากช่วงหลัง ซึ่งผมประหลาดใจในตัวแก เพราะฉะนั้นแล้วผมก็ฝากให้พ่อแม่พี่น้องคิดดูก็แล้วกันว่า ควรหรือไม่ควร ที่พันธมิตรฯ และเครือข่าย ซึ่งสู้เรื่องนี้มาตลอด ที่จะไปเลือกแก ผมฝากคิดแค่นี้
จินดารัตน์ - ช่วงเย็นมีคนพูดกับแอนกับแอ้มนะคะ บอกว่า มีบางคนหนักใจว่าจะเลือก อ.แก้วสรร หรือว่าจากพรรคประชาธิปัตย์ดี เขาบอกว่าเขาตัดสินใจได้เลย หลังจากที่ อ.แก้วสรร เลือกคุณแอ๊ด คาราบาว
สนธิ - อย่าไปเลือก นี่คือ ASTV ไง ชัดเจนแนวทาง อย่าไปเลือกทีม อ.แก้วสรร อติโพธิ อย่าลืม
สมเกียรติ - ประเด็นของการเลือกตั้ง คนเหล่านี้เขาอำพรางตัวมานานนะ แล้วก็เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว พันธมิตรฯสุรินทร์ซึ่งดินแดนของอาจารย์ใหญ่สุรชัย จันทิมาธร โทรศัพท์มาหารือร้องขอผมว่าขอนัดดนตรีเพื่อชีวิตมาเล่นในงานพันธมิตรฯได้ไหม นักดนตรีผู้นั้นรู้จักผมดีนะครับ เคลื่อนไหวเรื่องป่า เรื่องน้ำ พระประจักษ์ คุตตาจิตโต ที่บุรีรัมย์ ฝากเงินผม 30,000 บาท ให้พระประจักษ์ ไปถวายพระประจักษ์ในป่า ผมได้ตอบปฏิเสธไปว่า ผมเลือกข้างนานแล้ว แต่เขาอำพรางตัว แล้วผมก็ไม่ห้ามพันธมิตรฯ ที่สุรินทร์ที่จะเชิญไป ขอหารือว่าจะเอานักดนตรีคนนี้ไปดีไหม ผมบอกว่าช่วงนี้เขาอำพรางตัว แต่จริงๆเขาเลือกข้างมานานแล้ว ส่วนการตัดสินใจก็เป็นเรื่องของสุรินทร์ไป เพราะฉะนั้นราคาของคน ซึ่งราคาเป็นภาษาเศรษฐศาสตร์ แต่ภาษาสังคมเราเรียกว่าระบบคุณค่า ระบบคุณค่าของคนมันได้รับการพิสูจน์แล้ว การที่พันธมิตรฯ มาเคลื่อนไหว 190 กว่าวัน มันผ่าทุกวงการแหละ ผ่าวงดนตรีด้วย หลงทางมาทางนี้ อย่าเข้าใจว่าพันธมิตรฯ ไปเที่ยวยุยงแบ่งแยกนะ พันธมิตรฯ ทำหน้าที่ผ่าให้ดู คือแตงโมลูกนี้พันธมิตรฯ จะผ่าให้ดู ซีกขวาที่ติดมันเน่าหรือไม่เน่า ผมจึงใช้คำว่าผ่าไง ผ่าคืออาการเปิดเผยให้เห็น
สนธิ - 193 วัน มันได้ทำให้ตัวตนที่แท้จริงของคนทุกวงการได้โผล่มาเห็นอย่างชัดแจ้งแดงแจ๋ ซึ่งผมชอบมาก เพราะว่าจากนี้ต่อไป ไม่ต้องมาเกรงอกเกรงใจใครอีกแล้ว เพราะว่าพันธมิตรฯ พูดชัดว่าจุดยืนเราอยู่ตรงนี้ (เสียงมือตบ) ถ้าเห็นด้วยกับเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความถูกต้อง ความดีความงามมายืนข้างนี้ ถ้าไม่เห็นด้วยไปยืนข้างโน้น
สมเกียรติ - ก่อนที่จะสรุปเช่นนี้ผมอยากจะประเมินกันนิดหนึ่ง พี่น้องประชาชนโปรดตรึกตรองดู 1.นักวิชาการตอนนี้ คนเชื่อถือน้อยลงตามลำดับ พูด 3 ชั่วโมง ไม่เท่า 5 นาทีของ ASTV พูดง่ายๆว่า ระบบคุณค่า และระบบการเชื่อฟังคิดคล้อยตาม คิดเชื่อ หรือคิดมากนักวิชาการพูด คิดน้อยเลยตัด ไม่ฟัง สื่อคนฟังน้อยลง เชื่อถือน้อยลง และก็ข้าราชการคนเชื่อถือน้อยลง และทหารคนเชื่อถือน้อยลง ตำรวจคนประกาศเป็นปฏิปักษ์เลย แล้วคนมันก็เหลือทฤษฎีไหล มันก็ไหลมาทางนี้ ทางสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพูดประโยคแรกก็คือว่า การต่อสู้ของพลังที่เราเรียกว่า การเมืองใหม่ ต้องใช้ภาษาอังกฤษนิดหนึ่ง social movement ขบวนการประชาชนใหม่ เป็นขบวนการที่พัฒนาไปสู่จากน้อยสู่มาก จากปริมาณสู่คุณภาพ แต่นี้มันสู่ขั้นคุณภาพแล้ว เพราะฉะนั้นอะไรคุณภาพมันสามารถไปปรับ หรือที่เราเรียกว่าถอนรากถอนโคน แต่ผมลดลงมาระดับหนึ่ง การตัดสินแบบถ้วนทั่ว ทุกปริมณฑล เพราะฉะนั้นจังหวะก้าวของพันธมิตรฯ นับแต่นี้ไป ต้องมีวิธีคิด การเดินหน้าไปสู่การปฏิรูปแบบถ้วนทั่ว โดยมีคลังเสบียงที่รบกวนพี่น้องประชาชนน้อยลง เช่น อาจจะต้องมีสินค้าอะไรบางอย่างซึ่งบอกว่า บริโภคข้าวสารอันนี้ เป็นข้าวสารแล้ว พอบริโภคเข้าไปแล้วเสมือนได้กู้ชาติ ทุกคนก็มาซื้อข้าวสารที่กู้ชาติ กินแล้วมันอร่อย อาจจะมีเมล็ดผักบ้าง แต่ก็มันกู้ชาตินี่หว่า อาหารเรายังกู้ชาติเลย ทุกอาการทุกพฤติกรรมของเรา มันจะนึกถึงส่วนนี้ที่เราเรียกว่าสินค้าแห่งการกู้ชาติ ผมเคยไปพูดที่ อ.หนองไผ่ อ.พิมาย ก็บริจาคเกือบหมดตลาดแล้ว นี่หมายความว่าผมไม่ได้บอกเขาหมดตลาดหรอก ผมทุ่มเทจิตใจทั้งตลาดแล้ว ชัยชนะยังไม่เห็น แต่วันนี้มันเห็นแล้ว มันเห็นว่าการลงทุนของพันธมิตรฯ ทั้งนั้น ชุดอุดมการณ์ แล้วก็การเสียสละที่มีรายจ่ายเนี้ย ตอนนี้มันไม่เห็นแล้ว เห็นดอกผลของมันแล้ว ผลจึงปรากฏว่าดอกผลไม่สำคัญครับ บางคนบอกว่า นสพ.ยักษ์ใหญ่ไทยรัฐบอกว่า พันธมิตรฯอ้างตัวเองว่าชนะ ต้องขอโทษทีครับไม่ได้อ้างตัวเองครับ แต่พันธมิตรฯภูมิใจว่าชนะ แต่อาจจะชนะไม่เบ็ดเสร็จ แต่เขาชนะด้วยจิตใจของเขาแล้ว เพราะเขาไม่เชื่อฟังพวกคุณครับ เพราะเขาไม่เชื่อฟังสื่อของคุณครับ แค่นี้ผมก็ถือว่าเราชนะแล้ว
จินดารัตน์ - ก็ทุกวันนี้เขามีคำพูดใหม่ สื่อเลือกได้แล้วคะอาจารย์
สโรชา - นะคะ, เดี๋ยวเราพักก่อน แป๊บหนึ่ง
สมเกียรติ - คุณสนธิ มีอะไรเพิ่มเติมไหมครับ
สนธิ - ไม่มีครับ เดี๋ยวผมต้องขออนุญาต เดี๋ยวคุณมาลีรัตน์ แก้วก่า มาแทนที่
สโรชา - พี่ติ๊กมานะคะ
สนธิ - เพราะฉะนั้นขอลาท่านผู้ชมไปก่อนนะครับ
สโรชา - สักครู่เดียวค่ะ
รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ช่วงที่ 2 (04-12-51)
จินดารัตน์ - กลับมาพบกับรายการกันต่อนะคะ วันนี้เราได้รับเกียรติจากแกนนำรุ่นที่ 2 พี่มาลีรัตน์ แก้วก่า สวัสดีคะ
มาลีรัตน์ - สวัสดีคะ
จินดารัตน์ - ก่อนที่จะคุยกันต่อ คุณผู้ชมคะจะเรียนพ่อแม่พี่น้อง และคุณผู้ชมนะคะว่าสำหรับวีรชนของเราทั้ง 2 ท่าน ไม่ว่าจะเป็นน้องกมลวรรณ หมื่นหนู หรือว่าน้องโบว์ วันพรุ่งนี้ศพจะถูกเคลื่อนไปที่วัดทะเลน้อย ต.ทะเลน้อย อ.เมือง จ.พัทลุง โดยจะเดินทางไปสวดพระอภิธรรมอีก 2 วัน และจะมีพิธีฌาปนกิจ วันที่ 8 คือวันจันทร์ เวลาบ่ายสามโมง ส่วนน้องรณชัย ไชยศรี ที่เสียชีวิตที่ดอนเมืองนั้นนะคะ วันนี้ยังตั้งศพสวดอยู่ที่วัดโสมนัส และจะเคลื่อนศพไปฌาปนกิจศพ วันอังคารที่ 9 ธันวาคมค่ะ เวลาบ่ายโมง ที่วัดคูหา ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา นะคะ และทั้ง 2 งานนั้นจะมีแกนนำของเรา คือ อ.สมเกียรติ และพี่สมศักดิ์ โกศัยสุข จะไปร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย อยากให้ อ.สมเกียรติ และพี่มาลีรัตน์ พูดถึงน้องทั้ง 2 คนด้วย
มาลีรัตน์ - ก็ขออนุญาตพูดถึงรณชัย ก็แล้วกันนะคะ
จินดารัตน์ - คะ
มาลีรัตน์ - ว่าน้องกมลวรรณเนี้ย ต้องให้อาจารย์ เพราะน้องเขาเป็นแฟนคลับจริงๆตัวจริง
สโรชา - คะ, แฟนคลับอ.สมเกียรติ คะ
มาลีรัตน์ - คือสำหรับน้องรณชัยเนี้ย จริงๆแล้วตอนที่เกิดเหตุที่ดอนเมืองเนี้ย มันเป็นเวลาที่หัวค่ำมาก เร็วกว่าที่ตอนน้องโบว์นะคะ
สโรชา - คะ
มาลีรัตน์ - เร็วกว่ากมลวรรณ
จินดารัตน์ - กมลวรรณ เที่ยงคืน
มาลีรัตน์ - คะ, ก็เราก็ยังอยู่ในอาการของการย้ายจากทำเนียบ ไปอยู่ที่นั่น ผู้คนก็ยังกระจัดกระจายแต่ว่าน้องเขาก็คงจะเหนื่อยนะคะ เขาก็นอนอยู่ข้างนอก นอกอาคาร ซึ่งมันมีช่องอยู่นิดเดียวเอง ที่ลูกระเบิดจะลงได้ เพราะก่อนหน้านั้นมันเคยลงก่อน ห่างออกไปไกลนะคะ ไม่ได้ใกล้บริเวณนี้เลย เราก็ดูกันอยู่ และพี่สมศักดิ์ กับคุณสาวิทย์เนี้ยจะดูตลอดเวลา แล้วก็เดินให้ขยับเข้ามาข้างใน แต่เนื่องจากคืนนั้นเป็นคืนที่ย้ายไป มันก็เลยกำลังสับสนอยู่นะคะ ก็ยังไม่ได้เตือนอะไรกันมากมายเลย ตูมแล้วนะคะ ตูมก็พอดีอยู่ตรงนั้นพอดี ก็บอกให้ทุกคนสงบ ไอเราจะไปดูเนี้ย น้องอั้มซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของที่นี่เนี้ยนะคะ ตัวเล็กเนี้ยแต่ใจใหญ่ พี่ติ๊กนั่งไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวจะไปเอามารายงานว่าเป็นอย่างไร ส่วนสาวิทย์เนี้ยเขาก็ทำหน้าที่นะคะ ทุกคนก็ทำหน้าที่เมื่อรถโรงพยาบาลมารับไปเนี้ย เราก็ทราบแล้วว่าน้องเขาเสียชีวิตนะคะ ก็ประกาศเลยแต่ว่าค่อยๆประกาศ เพราะว่าทุกคนนั้นห่วง ห่วงมากเพราะตอนมาเห็นสภาพแล้วก็เสียเลย สำหรับประวัติเนี้ย อายุเพิ่ง 29 ปีเอง แล้วเรียนปริญญาเอกแล้ว
สโรชา - กำลังเรียนอยู่ที่
มาลีรัตน์ - ไม่ใช่แบบพึ่งเริ่มต้นด้วยนะคะ แต่ว่าใกล้จะจบแล้วนะคะ ก็เป็นคนหนุ่มที่มีอนาคตดี แล้วเรียนด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งน้อยคนนะที่จะเรียนด้านนี้ ก็น่าเสียดายแต่เป็นลูกคนเล็ก แต่เป็นลูกคนเล็กก็อาจจะไม่มีห่วงอะไรมากนะคะ แล้วก็การตั้งศพเนี้ยไม่ได้ตั้งที่กรุงเทพฯ แต่ใช้วิธีไปตั้งกล่องรับบริจาคเพื่อช่วยส่งให้พ่อแม่นะคะ ก็ที่ต้องตั้งกล่องเนี้ยนะคะ เนื่องจากเมื่อวานที่อาจารย์ไปวันแรกของน้องโบว์นะคะ ก็เลยไปดูอีกครั้งหนึ่งน้องโบว์ เพราะว่าจะดูเรื่องของหนังสืองานศพให้น้องโบว์ ท่านจันกรุณารับเป็น คือท่านรับภาระหนักมาก ก็ไปดูเรื่องนี้กัน ทีนี้ก็มีคนถามมากว่า น้องรณชัยจะทำอย่างไร ทำไมเราไม่ได้ดูแลน้อง ทุกคนก็เลยตัดสินใจตั้งกล่อง แล้วก็รับแต่ละคืน คืนแรกได้ไป 479,370 บาท ก็ไม่น้อยคะ เมื่อคืนก็ได้อีก 430,000 กว่าบาท รวมแล้วก็ 920,000 ประมาณนั้น นี่ไม่รวมที่ทางกองทุนที่จะมอบให้
จินดารัตน์ - น้องรณชัย พูดกับครอบครัวอยู่เสมอบอกว่า คนเราถ้าไม่ตายวันนี้วันหน้าก็ต้องตาย แต่หากต้องตายแล้วขอยอมตายเพื่อชาติจะดีกว่า
มาลีรัตน์ - แล้วน้องก็เหมือนกับว่าตายในหน้าที่จริงๆ หน้าที่ปกป้องชาติ กษัตริย์ ซึ่งเราเองก็ยังอดภูมิใจแทนครอบครัวเขาไม่ได้
จินดารัตน์ - สำหรับน้องโบว์เคยถ่ายภาพกับอาจารย์ด้วยใช่ไหมคะ
สมเกียรติ - เขาก็พยายามที่จะมาคุยกับผมแล้วก็เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็มาชอบถ่ายรูปด้วย แล้วผมก็ทำให้พวกเขาต้องอยู่ดึกด้วย เพราะว่าเป็นแกนนำที่ขึ้นคนสุดท้าย แล้วก็ทำร้ายพี่น้องประชาชนหน้าจอก็เยอะ เพราะว่าต้องเฝ้าดู โชคชะตาผมเป็นแบบนั้น ขอเขาอยู่คนแรกก็ไม่ให้ อยากจะบอกว่าน้องโบว์แห่งทะเลน้อย ก็ไม่น่าเชื่อเลยว่า ฐานะของเขาจะเป็นลูกกตัญญูคนโต แล้วก็ดูแลครอบครัว ส่งเงินให้มารดาของเขา เดือนละ 5,000 บาท ทั้งๆที่เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ก็เรียกว่าถ้าเราพูดแบบภาษาตัวเลข ครึ่งหนึ่งของชีวิตก็ให้พ่อแม่ ครึ่งหนึ่งของชีวิตก็เลี้ยงชีพ คนลักษณะนี้มีจิตใจประเสริฐ จิตใจสูงส่ง ไม่ได้ออกแบบชีวิตเพื่อความมั่งคั่งส่วนตัว แล้วคนอย่างนี้พอกระทบความรู้สึกของความเสียหาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เขาจะเชื่อมโยงอุดมการณ์แบบนี้ได้ง่าย แล้วเขายิ่งมาเรียนรู้แล้วว่า สิ่งที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย น้องโบว์สวยมากนะครับตอนแต่งชุดรับปริญญา เขาจะรู้ว่าปริญญาเขามีน้ำหนักน้อย แต่เมื่อเขามาอยู่ในมหาวิทยาลัยราชดำเนิน เห็นการต่อสู้ของประชาชน ระบบคุณค่ามันเกิด ผมจึงคิดว่าน้องโบว์ได้ทำตามพระพุทธศาสนาขั้นสูงสุด ก็ยอมเสียชีวิตเพื่อรักษาธรรมะและความถูกต้อง เพราะว่าระดับของความสูญเสียมันมี 3 อย่าง ระดับต่ำที่สุดก็คือ ยอมเสียเงิน หรือเสียทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ แล้วก็พวกขาขาด แขนขาด ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ระดับ 2 แต่ระดับ 0 ยอมเสียชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ เพราะฉะนั้นจิตใจที่ประเสริฐยิ่ง สูงยิ่ง หาคำใดๆมากล่าวคงไม่หมด แต่รู้ว่าเป็นระบบคุณค่าสูงสุดของมนุษย์ และศาสนา ถ้าเป็นระบบสูงสุดของศาสนา มันไม่ต้องมีคำอธิบายอันอื่น ผมเลยตัดสินใจในฐานะน้องโบว์ ผูกพันกันตามความเชื่อของผม การปราศรัยของผม การที่เขาต้องการที่จะมาพูดคุยกับผม ได้ตัดสินใจวันนี้ขออนุญาตไม่ประชุมแกนนำไปรดน้ำศพน้องโบว์ พอไปรดน้ำศพเขาน้องสาวกับแม่เขาดึงแขนผมไป ร่ำไห้บอกว่า เนี่ยน้องโบว์จะดีใจมากเพราะว่าเป็นแฟนคลับแท้ๆเลย แล้ววันนี้พอผมไปฟังสวดที่ ASTV คุณสนธิ คุณสมศักดิ์ คุณพิภพ ไป 4 แกนนำไป เขาเอารูปมาให้ผมดูแล้ว แผ่นแรกของอัลบั้มเขาเลย รูปที่จับแขนผมมือขวา แล้วก็ถ่ายรูปสวยมาก ผมก็เลยตัดสินใจอย่างนั้นเลยว่า บอกคุณพ่อคุณแม่และน้องชาย น้องสาวว่า ผมตัดสินใจไปเผาแน่นอน แม้ว่าพรรคการเมืองจะเรียกประชุม ผมก็เลือกที่จะไปเผาน้องโบว์ กับน้องรณชัย เรียกร้องพี่น้องภาคใต้จะสะดวกกว่าภาคอื่นๆ เราไปพบกันที่วันจันทร์ที่ 8 เวลา 15.00 น.ที่วัดทะเลน้อย
จินดารัตน์ - ต.ทะเลน้อย อ.เมือง จ.พัทลุง
สมเกียรติ - แล้ววันรุ่งขึ้นวันที่ 9 ผมก็ต้องอยู่อีก เวลาบ่ายโมง ไปเผาศพน้องชายผมที่กำลังมีอนาคตอันรุ่งโรจน์ เรียนถึงปริญญาเอก แต่เขาก็เลือกมารับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ชีวิตเขาเสียสละมาก ก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องทั่วประเทศ และภาคใต้ไปที่วัดคูหา อ.สะบ้าย้อย เวลา 13.00 น. ที่นั่นจะพบพี่สมศักดิ์ โกศัยสุข กับผม ก็จะไปคารวะครั้งสุดท้ายแด่วีรชนกู้ชาติของเรา และของประเทศชาติ ตายอย่างขุนเขา ผมขอคารวะด้วยความจริงใจ
จินดารัตน์ - กรณีที่วีรชนของเรา 8 ท่านที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสารวัตรจ๊าบ อังคณา ยุทธพงศ์ พี่เจนกิจ และอีกทั้ง 2 ท่าน คือทั้ง 8 ท่าน เสียชีวิตไปจากฝีมือของกองกำลังที่ตำรวจไม่ทราบฝ่าย แต่วันนี้สื่อมวลชนแทบไม่ได้พูดถึงทั้ง 8 คนเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าทำเนียบรัฐบาลเก้าอี้หักไปกี่ตัว สนามบินสุวรรณภูมิเสียหายตรงไหน ดอนเมืองเสียหายตรงไหน สังคมเรามันควรจะมีการชำระล้างจิตใจกันหน่อยไหมคะ
มาลีรัตน์ - คือจริงๆ แล้ววันนี้พี่ฟังเรื่องของทำเนียบ ไม่ใช่แค่ความเสียหายที่เขาพูดนะ วันนี้มันมีเรื่องของระเบิด ปืน อาวุธร้ายแรง เขาเป็นตึกบัญชาการเป็นของพวกเราทั้งนั้น แต่นั่นหมายถึงว่าเขาเอาคนส่วนอื่นเข้าไปตรวจหลังจากรับมอบเรียบร้อยแล้วมันคืออะไร คือด้วยใจจริงนะ ถ้าสมมติว่าคุณจะมีระเบิดปิงปอง หรือระเบิดทำเองอยู่หลุดไปสักลูกหนึ่ง สมมติอย่างนี้นะอาจจะเป็นไปได้ แล้วขอโทษถ้าเป็นของพันธมิตรฯ ถ้าภาษาหยาบๆ กูจะทิ้งไว้ให้มึง แหมพูดแล้วมันเหมือนพูดแบบเวที มันยั้วะฟังแล้ว ฟังแล้วรู้สึก
สมเกียรติ - แหมถ้ารู้ว่ามันมีเอาไปใช้ประโยชน์ให้เรียบร้อยแล้ว
มาลีรัตน์ - แล้วน่าเกลียดมากออกข่าว พี่ว่ามันร้ายแรงกว่า คือการใส่ร้าย ตัวนี้ร้ายแรงกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ทีนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ก็ตามนะคะ อย่างพวกเราตกเป็นจำเลยกันแล้ว 20,000 กว่าล้าน ล็อตแรกนะยังไม่รวมการท่าฯ เราก็อยากจะรู้ว่า ชีวิตคนๆ หนึ่งกับสิ่งที่สูญเสีย เขาวัดกันด้วยอะไร 2 คนตายด้วยน้ำมือของตำรวจนะคะ รัฐบาลฆาตกรขายชาติ 2 คนนี้ คำตอบคืออะไร กับสิ่งที่ความสูญเสียที่มีอยู่ที่เป็นทรัพย์สินเงินทอง เงินเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มสำหรับชีวิตคนเหล่านี้ แล้วชีวิตพวกเขาคิดว่ามีค่ามากกว่า มากกว่าชีวิตของคนที่คอร์รัปชั่น คือชีวิตที่ไม่ตรงไปตรงมาเป็นร้อยๆ เท่า
สมเกียติ - ถึงตรงนี้ต้องอยากจะย้ำว่า ต้องหนักแน่นเพราะสื่อตอนนี้ มองเราเป็นผู้ก่อการร้ายสากลนะครับ เรายกระดับนะครับเป็นระดับอินเตอร์เนชั่นแนลเลยนะตอนนี้ ผมนะไม่ธรรมดาเลยนะครับ จากคนบ้านนอกชาวโคราชมาแล้วเป็นถึงระดับก่อการร้ายสากลเลยก็ภาคภูมิใจมากนะครับ สังคมไทยไปให้ราคาเก้าอี้ และเบาะขาดมากกว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มันเป็นสังคมบัดซบนะครับ เป็นสังคมที่ไม่ได้ประเมินราคาของมนุษย์ และสถาบันหลักหรือความเป็นชาตินะครับ มันสนใจเอาอะไรนะ ขาเก้าอี้ไปพาดหน้า 1 แล้วยกเก้าอี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นไม้อัดราคาไม่กี่ตังค์ บอกว่านี่เป็นมูลค่าสูงสุด ระบอบทักษิณโกงชาติบ้านเมืองไป 23 หมื่นล้าน เฉพาะ คตส.ตรวจสอบไม่รวมที่สุวรรณภูมิ 14 หมื่นล้าน และไม่รวมตัวเลขอีก 12 หมื่นล้านที่อังกฤษยังถูกอายัดแล้วก็ไม่สามารถแจงที่มาได้
สโรชา - เกือบจะล้านๆ อยู่แล้ว
สมเกียรติ - พวกนี้ระบอบทักษิณปล้นเงินของชาติไปอยู่ที่เขา ผมภูมิใจมากที่ผมจะชดใช้คืนให้รัฐ ผมกลายเป็นคนเอาเงินไปให้รัฐ เพราะเขาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายผม เข้าใจไหมไอ้รัฐบาลสัตว์นรก ระบอบทักษิณมันเงินจากรัฐไปปล้นชาติไป ได้หลายแสนล้านแต่ผมและพันธมิตรฯ ทั้งหมด เอาเงินคืนให้รัฐผมยินดีจะชดใช้ให้นะครับ คาดว่าถ้าเป็นได้ต้องขอความอนุเคราะห์ว่าลำบากนะครับ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ กี่ชาติก็ว่ากันไป หมายความว่าเรากำลังแบบว่าคนที่ทำหน้าที่นี้ต้องจ่ายให้ชาติด้วย
สโรชา - มันเกิดอะไรขึ้น
สมเกียรติ - แต่คนที่ปล้นชาติไปมูลค่าเป็นแสนๆ ล้าน บอกว่าพวกมันไม่พูดถึงบิดามันบ้างเลยที่ปล้นชาติไป มาพูดเรื่องเราไปทำเก้าอี้ ขาเก้าอี้เสียหาย บอกถูกกรีด ส้วมสกปรก โถน้ำแตก โถส้วมแตกอะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นระบบนี้จึงจะเป็นสังคมที่ประเมินคุณค่า แยกแยะไม่ออก และเป็น ภาษาทั่วไปเขาเรียกใฝ่ต่ำ เป็นสังคมใฝ่ต่ำ
มาลีรัตน์ - อาจารย์ค่ะอย่างนี้มีคนเขาถามว่า อย่างเรื่องซีทีเอ็กซ์ก็ดี เรื่องความเสียหายอื่นใดก็ดีที่มีอยู่ในประเทศไทย จากการกระทำของรัฐบาลทักษิณ ถามว่า วันนี้รัฐบาลได้ดำเนินการฟ้องร้องเอาคืนเขาหรือยัง
สโรชา - รัฐบาลเสียหายโดยตรงนะคะ
มาลีรัตน์ - ใช่ค่ะ แม้แต่การบินไทยก็ตามบริษัทการบินไทย ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลทักษิณ คุณมีละ คุณซื้อเครื่องบินเพื่อที่จะบินไปนิวยอร์ก และก็เสียหายแบบย่อยยับ
สโรชา - ซึ่งปิดไปแล้ว
มาลีรัตน์ - อย่างนี้ ถามว่าคุณฟ้องร้องหรือยัง
สมเกียรติ - จะเสริมตัวนี้ ให้เห็นชัดเพราะว่าอยู่กับตัวเลขนี่ก็ บริษัท ทอท.ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (มหาชน) ยังไม่เคยฟ้อง 13 คดี ที่ระบอบทักษิณไปโกงสนามบินสุวรรณภูมิ 14 แสนล้าน มันไม่ฟ้อง มันมองไม่เห็นตามันมืดบอด สติปัญญามันทึบ กลุ่มกระบือ มันไม่ยอมฟ้องพวกพ่อแม่มันเลยนะฮะ ตอนนี้กำลังเป็นเวทีขึ้นทุกครั้งเลยนะครับ
สโรชา - แอ้มรู้สึก เออๆ ช่วงแรกไม่ค่อยใช่
สมเกียรติ - แต่ช่วงหลังชักเป็นเวทีขึ้นทุกวัน แล้วไอ้ 13 คดีที่ สนช.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะกรรมาธิการที่มี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป เป็นเลขานุการ และก็มี พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เป็นประธาน และก็มีคนหาญกล้า พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ และที่ไม่ได้เอ่ยนามทั้งหมดประมาณ 40 กว่าท่าน เขาไปศึกษาดูแล้วโกงชาติบ้านเมืองไป 13 โครงการ ถามว่า ทอท.พวกอย่าใช้คำว่า มึงหรือท่านเลย พวกท่านทำไมไม่ฟ้อง ไม่ฟ้องที่ทำให้ชาติเลยหายทำไมไม่ฟ้อง และการบินไทยทำไมไม่ฟ้องพ่อของ อย่าใช้คำว่ามึงหรือท่านเลย พ่อของท่านไปซื้อเครื่องบินๆ จากกรุงเทพฯ ไปนิวยอร์ก และก็พังทลายออกมา ทำไมไม่ฟ้องครับ
จินดารัตน์ - ถ้าท่านบอกว่ามันมองเห็นไม่ชัดเท่ากับส้วมสุวรรณภูมิ
สโรชา - ไอ้ที่รันเวย์ร้าวหรือรันเวย์ทรุดท่านมองไม่เห็นหรือค่ะ เหมือนมองไม่ชัด
สมเกียรติ - ถ้าเราดาวกระจายไปมันจะเริ่มมองเห็นทีละนิด ทีละนิด เพราะฉะนั้นหากผมหมดปัญญาก็คงต้องใช้ดาวกระจายเร็วๆ นี้นะครับ
สโรชา - เอาอีกละ กำลังจะบอกว่าดีใจ หรือยังพักไม่อิ่มขออีกนิดนึงได้ไหม แล้วเดี๋ยวไปดาวกระจายกันแต่ว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนรวมทั้งตัวแอ้มเองด้วย โทษสื่อๆ บ้านเรานี้นะคะ ขออนุญาตถามนิดนึงว่า พันธมิตรฯ เสียชีวิตไป 8 ท่าน เพิ่งเห็นชัดๆ ครั้งแรกด้วยตาของตนเองคือ น้องโบว์ อังคณา ท่านแรกนะคะที่เห็นว่าเสียชีวิต ที่เห็นว่าสื่อกับทีวีไปทำข่าวงานศพไปเป็นเรื่องเป็นราว และมีข่าวออกไปในสาธารณชนบ้าง แต่ 7 ท่านหลังแทบจะไม่เห็นเลย แต่กลับได้ยินอยู่ตลอดเวลาว่า เด็กตีกันตายแทงกันตายบนรถเมล์ พ่อแม่เป็นยังไงสูญเสียเท่าไหร่ คุยกันจังเลยเรื่องนี้ คือด้วยความเคารพไม่ได้กำลังบอกว่า ชีวิตของเรามีค่ากว่าของเขา แต่กำลังตั้งคำถามว่า ทำไมละเป็นเพราะท่านเหล่านี้เสียชีวิตในเวที หรือว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ ใช่ไหม ท่านถึงไม่ให้ไม่คือว่าคุ้มค่าต่อพื้นที่สื่อของท่าน ที่จะเอ่ยนามแม้กระทั่งชื่อของท่านเหล่านี้ ที่เขาเสียชีวิตไป โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย มีแต่ไปชุมนุมมือเปล่าๆ คุณค่าของสิ่งเหล่านี้ สื่อบ้านเรามองไม่เห็น แต่กลับไปให้พื้นที่ข่าวเรื่องอื่นๆ ที่เขาตีความแล้วบอกว่า มันปลอดภัยดี
จินดารัตน์ - บรู๊คแต่งงานกับกบ แต่งแน่ไม่แน่ แม่ยอมรับไม่ยอมรับ
สโรชา - คุยกันอยู่นั่นแหละ
จินดารัตน์ - ลงมาประมาณเดือนนึงแหละ
สโรชา - ฟลุ๊คอะไรนะเล็กใหญ่อะไรยังไงเป็นเรื่องเป็นราว คนคุยกันได้
จินดารัตน์ - จริงๆ แล้วมันมีความ มีอคติใช่ไหมคะ
มาลีรัตน์ - จริงๆ แล้วเอ็ม 79 ลงใจกลางเมืองหลวง มันเอาแค่ระเบิดที่ภาคใต้ ระเบิด 71 สมมติอย่างนี้ตาย 5 เป็นเรื่องใหญ่เลย
สมเกียรติ - ก็ลองมาตั้งฐานยิง ยิงใส่พันธมิตรฯ เรื่อยมาเรื่อย เรื่อยมาเรื่อยให้ถึงเวที แล้วก็เรื่อยมาเรื่อยจนถึงกองทัพนะครับ แล้วเอาเอ็ม 79 ลงกองทัพ
มาลีรัตน์ - แต่ไม่มีใครทำอะไร ไม่มีใครพูดอะไร แล้วก็สื่อก็คือต้องยอมรับนะคะ คือเป็นอันหนึ่งที่มีมุมที่ต่างนะ พี่คิดว่าเราไม่ต้องไปถามหาว่า สื่อควรจะทำอย่างไร อันนี้ในฐานะผู้เสพสื่อไม่ต้องไปถามว่าสื่อเขาจะทำอย่างไร เราต้องยืดหยัดพึ่งตนเองใช่ไหมน้องแอ้ม
สโรชา - หมดหวังแล้วใช่ไหมคะ
มาลีรัตน์ - สำหรับพี่หมดหวังจริงๆ แต่พี่ไม่ได้หมายความว่าทุกสื่อนะ มันมีสื่อที่ดีก็มีที่พยายามสื่อออกไปก็มี แต่ว่าภาพรวมถ้าสมมติว่า 80 เปอร์เซ็นต์มันเป็นแบบนี้ ตรงไปตรงไม่ได้ตำหนิไม่ได้มีเหตุข้องหมองใจกับใครเลย แต่ว่ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่า เราคงจะต้องเลือกกันเองแล้ว ในชนบทเขาคิดกันอย่างวันนี้ ที่ราชบุรีเขาคิดที่จะเคเบิ้ลของเขาเองเป็นของประชาชนมา เข้าหุ้นกันไหม เราก็ทำกันเองแต่ว่าไม่ใช่เป็นของคนใดคนหนึ่ง แล้วก็วิทยุชุมชนที่ถ่ายทอดเอเอสทีวีจะเป็นไปได้ไหม เอาไปเป็นของประชาชนเลยที่ไม่ต้องมาใครแบกรับภาระ
จินดารัตน์ - ใครเป็นเจ้าของด้วย
มาลีรัตน์ - แล้วได้รับเสียงตอบรับดี นี่อันหนึ่งที่บ้านพี่ก็เริ่มแล้ว เขาจะลงทุนกันประมาณ 2 แสนว่าอย่างนั้น
จินดารัตน์ - อย่างกรณีเอ็ม 79 ลงใจกลางกรุงเทพฯ ใกล้กับกองทัพบกนี้นะคะ มันต้องถือว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติของสังคมเลย
มาลีรัตน์ - มันต้องเป็นพาดหัวใหญ่
จินดารัตน์ - พาดหัวลงสักครึ่งหน้าอย่างนี้นะคะ ลงมันทุกวัน
สโรชา - มีกรอบเล็กๆ ว่า พันธมิตรฯ ดับ 1 เจ็บ 75
จินดารัตน์ - มันหาว่าเราทำตัวมันเอง
สมเกียรติ - กองทัพบกเขาอหิงสา อหิงสามากกว่าเราซื่อบื้อไปเลยนะครับ พัฒนาระบบอหิงสายกระดับสูงขึ้นคือซื่อบื้อไปเลย
สโรชา - อาจารย์สมเกียรติคนเดิมเริ่มกลับมาแล้วนะ เอะตอนแรกกำลังคิดว่าอาจารย์สมเกียรติเริ่มเปลี่ยนไปนะ กลับมาแล้ว
จินดารัตน์ - เก๋ กมลพร เขามาเล่าให้ฟังเขาบอกว่า เพื่อนเขาเรียน รด.มา มาสะกิดบอกว่า เก๋แกนี่โชคดีนะ ฉันเรียน รด.มา 5 ปีไม่เคยเห็นลูกหัวกระสุนเอ็ม 79 เลย แต่แกอยู่เวทีพันธมิตรฯ มาร้ายกว่า แกเห็นมากี่ลูกแล้ว นี่มันค้อการประชดประชันที่เจ็บปวดที่สุดนะคะ ดิฉันบอกว่าสื่อมีส่วนสำคัญ และคนในสังคมด้วย
มาลีรัตน์ - พี่คิดว่า พวกเราก็มีส่วนนะ ทำให้เขาชาชิน เพราะว่าวันที่น้องโบว์เสีย ใช่ไหมคะที่น้องโบว์โดน แล้วพี่ก็ไปเวทีตั้งใจเลย หนีออกจากดอนเมืองไม่บอกพี่สมศักดิ์ด้วยนะ คือหนีมาขึ้นเวทีที่ทำเนียบ เพราะว่าต้องการมาให้กำลังใจ มีเวลา 5 นาทีก็เอาอะไรอย่างนี้แวบขึ้น ยังแหย่เขาเลยว่า อุ๊ยนั้นยังไปนั่งตรงนั้นอยู่อีกหรอคะ พอกันไปนั่งตรงนั้นแล้วไม่มีหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย และเขาไปคุยคะ เออวันที่น้องโบว์อยู่ก็อยู่ใกล้ๆ น้องโบว์ไม่เป็นไรยังกลับมาอีก มานั่งตรงนั้นอีก มันใจทำด้วยอะไร มันก็เลยอาจจะทำให้พวกเขามองว่า เออไม่เป็นไรหรอกมันตายได้ตายไปอะไรอย่างนี้รึเปล่าไม่ทราบ
สโรชา - คนส่วนใหญ่อย่าว่าแต่ไปนั่งที่เดียวกันเลยคะ แอ้มว่าคนจำนวนไม่น้อยแค่รู้ก็ไม่ไปในบริเวณนั้นแล้ว คือไม่แกร่งและไม่กล้า ไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำ
มาลีรัตน์ - ใจพวกเรามันเกินยิ่งกว่าจะเกินอีก ก็ยังพูดๆ หลายคนคุยกันว่ากับน้องๆ ทั้งหลายว่า เงินก็มาเสียมาจ่ายเงินเอง แล้วแถมอะไรกล้าที่จะตาย ระเบิดก็ลงทุกวันคุณก็รู้ว่าชีวิตคุณไม่รู้วันไหนจะเสียไป รวมพวกเราทุกคนด้วยนะ ไม่ได้ว่าแต่แบบพี่น้องพันธมิตรฯ ที่มา นี่ใจจริงเลยว่า ไปเจออย่างนี้จริงๆ ไม่มีหวั่นไหว
สมเกียรติ - คุณน้องไม่เคยเห็นอาวุธสงครามพวกนี้ ก็ให้ดูหัวปลีกล้วยนะครับ ดูแทนไปแล้วก็เอาหัวปลีกล้วยไปวางตามโรงพักต่างๆ ผมว่าแตกตื่นกันหมดแหละ พวกผมไม่ได้แนะนำให้เอาระเบิดไปวางนะครับ ให้เอาหัวปลีกล้วยไปวางนะครับ แล้วห่อกระดาษใสๆ นะครับ ผมไม่แนะนำเรื่องระเบิดนะครับ ยืนยันเลยไม่แนะนำ
จินดารัตน์ - อาจารย์คะ พี่ติ๊กคะวันนี้ดูจากใจการเสียสละ การยอมตายเพื่อรักษาชาติบ้านเมืองของพันธมิตรฯ มันก่อให้เกิดความเกรงกลัว ที่นักการเมืองชั่วจะทำการใดๆ ได้บ้างไหมคะนับจากวันนี้เป็นต้นไป
มาลีรัตน์ - มันไม่กลัวหรอก บอกเลยมันก็เหมือนเดิมทรรศนะพี่นะ พี่คิดว่าพี่รู้จักพวกเขาดีเกินกว่า แล้วเขาก็คงแปลกใจว่าๆ พี่มันบ้า หรืออาจารย์สมเกียรติบ้าก็ได้ เราในฐานะผู้แทน
สมเกียรติ - มาลีรัตน์พูดเรื่องการยกระดับ ขบวนการประชาชนที่เรียกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมันยกระดับจาก move ment ขบวนการเป็นสถาบัน สถาบันนี้มันได้สถิต ถ้าเป็นภาษาเข้มแข็งหน่อยเขาเรียกว่า สถาปนาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการเมืองไทยไปแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือว่า บริหารนิติบัญญัติ ตุลาการ และการเมืองภาคประชาชนนะครับ มันขึ้นมาอยู่ในฐานะนี้แล้ว แล้วพลานุภาพของมันมันเหนือกว่าพรรคการเมือง พรรคการเมืองต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ เราต่อต้านได้ พรรคการเมืองล้มระบอบทักษิณยังไงก็ไม่ได้ ยิ่งเป็นเหยื่อของระบอบทักษิณเป็นทาสของระบอบทักษิณ แต่พันธมิตรฯ จัดการได้นะครับ แสดงว่าพลานุภาพมันได้ถูกออกแบบมาแล้วว่า ฐานะที่เราเรียกว่าสูงเด่นของการเมืองภาคประชาชน ที่เรียกว่าพันธมิตรฯ เหนือนักวิชาการ คนฟังพันธมิตรฯ มากกว่านักวิชาการ คนฟังมากกว่าเหนือกองทัพไหม เหนือยิ่งกว่าเหนือกองทัพขี้สุนัขอีก เหนือยิ่งกว่าเหนืออีก เพราะฉะนั้นปรากฏการณ์ของสนธิ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมันได้ถูกยกระดับขึ้น เป็นสถาบันทางสังคมที่มองข้ามไม่ได้ดูแคลนยิ่งไม่ได้เลย มองข้ามไม่ได้ และจดจ้องเราเรียกว่า จดจ้องจะเข้าไปจัดการจำศัพท์นี้ไว้นะครับ ทักษิณและระบอบทักษิณจดจ้องและพร้อมจะไปจัดการจำไว้เลยนะครับ เดี๋ยวขออนุญาตปราศรัยนิดหน่อยนะครับ
มาลีรัตน์ - มันมีอันหนึ่งที่พี่อยากจะเติมตรงนี้นะคะ สิ่งพี่คิดว่าเขาไม่กลัวเพราะว่า พวกนี้มันโหด มันเป็นฆาตกร มันเป็นพวกซาดิสต์ วันนี้พี่น้องเรากลับไป ส่วนหนึ่งที่เขาเป็นการ์ด โดยเฉพาะคนที่เป็นการ์ด แล้วเขาอยู่ในพื้นที่เล็กๆ นะคะ เขาโดนตามล่านะ เขาโดนตำรวจกับอันธพาลยกตัวอย่างเช่น แถวหลัก 2 กทม.นี้นะ อันธพาลกับตำรวจไปถามหาลูกชายที่ไปเป็นการ์ดพันธมิตรฯ กลับมารึยัง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน เพราะฉะนั้นก็อยากจะบอกพี่น้องพันธมิตรฯ ทั้งหลายที่โดนคุกคามอะไรก็ตามมากันหน่อยนะ คือหมายถึงว่าบอกสื่อถึงกันแล้วก็ คิดว่าทุกคนเรายินดีไปช่วยกัน คุณอย่าประมาทหน้าเราก็แล้วกันว่า เราแยกย้ายกันแล้วเราจะมีพลังอ่อนลงเราไม่มีทาง เพราะว่าพลังของเราเป็นพลังที่คิดว่าเป็นพลังจัดตั้งที่เข้มแข็ง เราพิสูจน์แล้วว่า 193 วัน เราสามารถยืนอยู่บนอำนาจรัฐของเราเอง เป็นอำนาจรัฐของประชาชนที่มีกองกำลังของตนเอง เหมือนประมาณนั้นนะ แต่เป็นกองกำลังที่มีอาวุธ
สโรชา - เป็นมือตบ เป็นมือตบ
สมเกียรติ - เขาบอกว่า ให้ผมใส่อารมณ์ขันหน่อยข้อความ เมื่อกี้พี่น้องประชาชนบอกว่า นอนไม่หลับเลย บอกว่าอยากให้ทักทายด้วยมือตบ แล้วบอกว่าให้มักทายพี่น้องเอ้ย พี่น้องเอ้ยฟักตัวอยู่ก่อนนะตอนนี้ นอนให้สบายก่อน พักฟื้นก่อน ฟักตัวก่อนนะครับ เป็นระยะฟักตัว ก่อนออกปฏิบัติการทางสังคม
สโรชา - ชัดเจนเป็นการประกาศจากแกนนำว่า ช่วงนี้ไม่ได้หนีหายไปไหน ไม่ได้ห่างหายกันไปไหน เป็นระยะฟักตัวที่ทุกคนกลับสู่ที่ตั้งพักผ่อนให้เต็มที่ เติมพลังให้เต็มที่ แล้วไม่น่าจะหลายคนฟันธงบอก ไม่น่าจะนาน ไม่น่านานแน่ๆ อาจจะระยะเวลาสั้นๆ เกินกว่าที่ท่านคิดก็ได้ เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องรีบพักผ่อนให้เต็มที่
จินดารัตน์ - ฟื้นฟูสภาพร่างกายนะคะให้พร้อม
สโรชา - สภาพจิตใจพร้อมอยู่แล้วแหละ
จินดารัตน์ -พบกันภายใน 5 วันนี้
สโรชา - ว้ายไม่เอา ไม่ได้
สมเกียรติ - ให้พี่น้องพันธมิตรฯ เตรียมเงินซื้อตั๋ว เราจะทำคอนเสิร์ตพันธมิตรฯ เป็นคอนเสิร์ตของเทียรี่ เทียนแห่งธรรม และตั้ว เสก และซูซู ซึ่งผมได้เสนอความเห็นไปแล้วทางแกนนำพันธมิตรฯ ก็ค่อนข้างจะคล้อยตาม แต่เรื่องการจัดการ ศรัญยูจะไปจัดการ คือผมอยากให้ฟักตัว และเตรียมค่าบัตรไว้ด้วยนะครับ เขาให้พูดตลก ก็เลยพูดตลกแล้วนะ
จินดารัตน์ - บอกว่าลีลายังไม่เต็มที่ นี่ก็ยังฟักตัวอยู่นะไม่ค่อยคุ้นกับการกลับมานั่งในห้องส่งแบบนี้
สโรชา -เราก็ไม่คุ้นนะ
จินดารัตน์ -อีกวัน 2 วันเท่านั้นแหละพี่น้องคะ พี่น้องเอ้ย 2 วันเท่านั้น
สโรชา - ตอนนี้ตอบหน้าจอไปก่อนนะคะ ตอบเอ้ยหน้าจอกันไปก่อน เก็บเนื้อเก็บตัวพักผ่อนกันให้เต็มที่
มาลีรัตน์ - เมื่อกี้ที่พี่ฟังพี่สนธินะคะ กับอาจารย์สมเกียรติพูดชอบใจมากเลยก็คือ ท่าทีที่มันชัดเจนของเอเอสทีวี และวันนี้เอเอสทีวีประกาศตนว่า เป็นของประชาชนใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นก็จริงๆ แล้ว ก็อยากจะบอกว่านี่คือจุดยืนที่มั่นคงที่สุดที่จะเป็นอย่างไรต่อไป
จินดารัตน์ - คือถ้าคุณผู้ชม พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้านได้สังเกตผังรายการเราตั้งแต่เช้าอย่างที่คุณสนธิเรียนให้ทราบเมื่อช่วงแรกว่า จะมีคือพ่อแม่พี่น้องเคยชินกับการตื่นขึ้นมาเปิดเอเอสทีวีปุ๊บ เจอปอง เก๋ ก็จะเคยชินต่อไปนี้ก็จะมีทุกเช้าเจอเจ๊ปองแน่ๆ
สมเกียรติ - อย่างนี้ไม่มีหน้าเวทีว่า พันธมิตรฯ ที่ไหนมาแล้ว
สโรชา - ไม่มีคะ ปรับเปลี่ยนรูปแบบแต่ว่าตลอดทั้งวัน เริ่มด้วยพี่ปอง น้องเก๋ไล่มาพี่สำราญ พี่ประพันธ์ มาถึงช่วงบ่ายพี่หมี น้องปุ้ยนะคะ พี่ต๋องด้วยนะคะ พี่ต๋องยังเป็นธรรมะอยู่ไล่มาถึงเย็นเจอคุณเติมศักดิ คุณอุษณีย์ และมาเจอเรา 2 คนตอนเย็นนะคะสลับสับเปลี่ยนกันไป แต่นี้คือเวทีพันธมิตรฯ ที่ปรับรูปแบบเข้ามาอยู่ในห้องส่ง เข้ามาอยู่อย่างที่เรียน ฟักตัวเติมพลัง เติมแรงกายแรงใจเต็มที่อยู่แล้ว แต่เติมแรงกายเติมกำลังทรัพย์ และในที่สุดเราคงได้เจอกันตัวต่อตัวเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นนี่เป็นรูปแบบรายการมาเจอกับพ่อแม่พี่น้องวันแรกนะคะ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเราไม่ได้จบแค่นี้นะคะ
จินดารัตน์ - ขาดไม่ได้เลย ต่อจากนี้ก็ขาดไม่ได้เลย
สโรชา - ดนตรีกู้ชาติคะพี่น้อง ดนตรีกู้ชาติถ้าหากไม่มีดนตรีกู้ชาติแล้ว เราคงไม่ใช่พันธมิตรฯ
สมเกียรติ - ขาดอย่างเดียวคือ ขาดอ่านว่าแม่ยกบริจาคเท่าไหร่
สโรชา - อันนี้นะคะเพื่อความง่ายนะคะพี่น้อง ไม่ยากเลยพี่น้องเห็นเอสเอ็มเอสหน้าจอไหมคะ อันนั้นแหละถ้าเกิดพี่น้องโอนเข้ามาในบัญชีฝากวองใครมา มาฝากไว้ที่เอเอสทีวีที่ถนนพระอาทิตย์ พี่น้องกดไปเลยคะได้ฝากไปแล้ว ไปให้ไปแล้ว ได้ยื่นไปแล้วอันนั้นเป็นการประกาศพ่อยก แม่ยกพันธมิตรฯ ทางอ้อมนะคะ เนื่องจากว่าถ้าเกิดเราอยู่ในสำนักงานเราอาจจะรับไม่ได้ ข้อมูลไม่ได้เต็มที่แต่พี่น้องสามารถที่จะปรากฏทางหน้าจอได้ด้วยระบบเอสเอ็มเอส อีกเรื่องหนึ่งก่อนที่จะโยนไปดนตรี หลายท่านถามมาแล้วก็ไปที่งานศพน้องโบว์ยังมีสุภาพสตรีท่านหนึ่งเป็นพันธมิตรฯ มาหาคุณสนธิแล้วบอกให้ช่วยกดเอสเอ็มเอสสมัครเอเอสทีวีให้หน่อยนะคะ เรียนให้ทราบว่าหลายท่านก็อาจจะไม่เข้าใจนะคะ ถ้าหากว่าท่านเป็นระบบเติมเงินนะคะ ท่านจะต้องมีเงินในบัตรท่านอย่างร้อย 220 บาท เขาถึงที่จะสามารถส่ง และต่ออายุในทุกๆ เดือนได้ ถ้าหากว่าตอนช่วงที่เขาจะต่ออายุ และท่านมีไม่ถึงระบบมันจะตัดยกเลิกโดยอัตโนมัติ และถ้าหากอย่างนั้นก็คือท่านต้องไปเติมเงินใหม่ แล้วก็สมัครใหม่นะคะ อันนี้เรียนชี้แจบงให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบกันในส่วนของรายเดือนถ้าเป็นโทรศัพท์ระบบรายเดือนไม่มีปัญหาสมัครแล้วสมัครเลย ยกเว้นว่าท่านจะยกเลิกเอง เอาละวันนี้พักก่อนดีไหมคะ เราลาไปเลยไหม
สโรชา - เดี๋ยวพวกเรายังไม่ได้เฉลยเลยว่า ดนตรีกู้ชาติวันนี้วันแรกใครประเดิม
จินดารัตน์ - แน่นอนจะเป็นใครไม่ได้แฮมเมอร์
สโรชา - แฮมเมอร์พี่ชายของเรา มาในสตูมาในห้องส่ง เดี๋ยวจะได้เห็นกัน พี่ๆ แฮมเมอร์คงจะงงเล็กน้อย คือไม่มีแม่ยกมากรีดหน้าเวที อาจจะไม่ได้เต็มที่ เรามาอยู่ในสตูอีกแป๊ปนึงก็คงได้คุ้นชินกัน พิธีกรถ้าขาดตกบกพร่องยังไงขออภัยพ่อแม่พี่น้องไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะเพราะว่า ไม่ได้นั่งโต๊ะมานานมากแล้ว หลายคนทักบอกว่า พี่แอนทำไมวันนี้สวยผิดปกติ แต่งหน้าทำผมได้เต็มที่ เต็มรูปแบบนะคะ ขอขอบพระคุณแกนนำเดี๋ยวคงสลับสับเปลี่ยนมาออกรายการอยู่เรื่อยๆ ขอบคุณทั้ง 2 ท่านคะ
จินดารัตน์ - วันนี้ก็ลาไปเลยนะคะ ส่งท้ายไปด้วยวงดนตรีกู้ชาติแฮมเมอร์ วันนี้ลาไปก่อน พบกันใหม่พรุ่งนี้เวลาเดิมสวัสดีคะ
สโรชา - สวัสดีคะ