“เทพไท” เย้ย “จตุพร” สำรวจตัวเองจิตใจสะอาดแค่ไหน ยอมเป็นทาสรับใช้ “ระบอบทักษิณ” ยังมีหน้าไปด่าศาลว่าใจสกปรก จี้ “วีระ” เปิดตัวคนล็อบบี้ศาล รธน.ยุบ “พลังแม้ว” จับตา “ยี้ห้อย” ดัน “พ่อชัย” เสียบเก้าอี้นายกฯ ชี้ใครก็เป็นนายกฯ ได้ หลัง “ชายกระโปรง” ทำลายมาตรฐานหมดแล้ว
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะได้นัดหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อมาแถลงปิดคดียุบพรรคการเมือง 3 พรรค และอาจจะมีการวินิจฉัยตัดสินคดีในวันนั้นเลย แต่สิ่งที่พรรคเป็นห่วงคือ กรณีที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในนาม นปช.เพื่อที่จะไม่ให้ศาลได้เข้าไปอ่านคำพิพากษาในศาลรัฐธรรมนูญไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร พรรคจะไม่วิจารณ์เพราะถือเป็นดุลพินิจของศาล ที่ต้องยึดหลักเหตุผลและความเป็นอิสระปราศจากการแทรกแซงของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด พรรคจึงอยากให้ตุลาการศาล รธน.ได้ทำหน้าด้วยความอิสระ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการส่งสัญญาณจากกลุ่ม นปช.โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชนที่ออกมาวิจารณ์การทำงานของศาลโดยระบุว่า คนที่มีจิตใจสกปรกผลของการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็จะสกปรกตามไปด้วย ถือเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม อยากให้เคารพการตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญด้วย เมื่อไม่สามารถที่จะแทรกหรือทำให้ศาลเอนเอียงได้ก็ออกมาตีโพยตีพายว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ชอบ
“ผมอยากให้ไปสำรวจตัวเองว่ามีจิตใจสะอาดแค่ไหน เพราะศาลทำงานอย่างถูกต้องและให้ความเป็นธรรมให้เกิดกับคนในชาติขณะที่นายจตุพรทำงานเพื่อระบอบทักษิณ แล้วจะไปกล่าวหาใส่ร้ายศาลได้อย่างไร” นายเพทไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคพลังประชาชนที่สอดรับกับแนวเคลื่อนไหวของ นปช.ที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้นำเดินรายการความจริงวันนี้จะมีมวลชนไปเคลื่อนไหวที่ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นการปลุกกระแสเพื่อให้มีผลต่อการตัดสิน โดยมีการระบุว่าการเร่งรัดตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ มีการกล่าวหาว่ามีการล็อบบี้หรือเตรียมกันไว้ล่วงหน้า จึงอยากให้นายวีระพูดให้ชัดว่าใครเป็นคนไปล็อบบี้และใครสามารถที่จะไปเตรียมกับศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวของ นปช.และพรรค พปช.เป็นไปทิศทางเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พยายามสร้างภาพและใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง
นายเทพไท ยังกล่าวถึงรายชื่อ 4 คนของพรรคพลังประชาชนที่อาจจะเสนอเป็นนายกฯ คนต่อไป คือ 1.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เท่าที่ดูหน่วยก้านคงเป็นนายกฯ ได้ยาก เพราะมีผลงานที่ล้มเหลวเมื่อครั้งเป็นรมว.พาณิชย์ และไม่เป็นที่ปลื้มของนายใหญ่ ซึ่งสังเกตว่าช่วงก่อนการเลือกตั้งนายมิ่งขวัญถูกวางตัวให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่หลังจากมีการปรับ ครม.นายมิ่งขวัญก็ถูกปรับให้เป็น ส.ส.ธรรมดา 2.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข ที่มีความรอบจัดทางการเมืองไปพบนายใหญ่เป็นประจำ เห็นได้ว่าเป็นคนที่ทรงอิทธิพลเนื่องจากเคยถูกปรับออกจาก รมว.มหาดไทยแต่ยังสามารถเคลื่อนไหวให้กลับมานั่งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุขได้ ถือว่าเป็นคนที่ไม่ธรรมดามีสิทธิ์ที่จะเป็นนายกฯ ได้หากเป็นความต้องการของนายใหญ่ 3.นายสันดิ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เชื่อว่าคงเป็นไปได้ยาก เพราะมีมลทินติดตัวเรื่องการปลอมวุฒิการศึกษา เมื่อไม่สามารถที่จะเคลียร์ตัวเองได้เหมือนกับคนมีแผลจึงไม่สง่างามที่จะเป็นนายกฯ
4.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ซึ่งมีตำหนิติดตัวคือต้องคดีกรณีเป็นแกนนำนำกลุ่ม นปก.บุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูนานนท์ ประธานองคมนตรี และคนสุดท้ายที่น่าจับตาและจะกลายเป็นม้ามืด คือ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ได้เพราะบารมีของลูกชายคือนายเนวิน ชิดชอบ ดังนั้น เพื่อเป็นเกียรติประวัติต่อตระกูลชิดชอบจึงเป็นไปได้ที่นายเนวินจะผลักดันให้นายชัยเป็นนายกรัฐมนตรี
“เมื่อนายสมชายยังขึ้นเป็นนายกฯ ได้ ไม่ว่าใครก็ขึ้นเป็นนายกฯ ได้ทั้งนั้น เพราะนายสมชายได้ทำลายมาตรฐานสูงสุดของคนที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และแม้แต่นายเก่ง การุณ (โหสกุล) ก็เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้” นายเทพไท กล่าว