“สมชาย วงศ์สวาท” ยังเดินเกมซื้อเวลาเสริมบารมี “แม้ว” ประกาศแต่งตั้ง 17 ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ เสริมทีม ศก.“โอฬาร” ล้างภาพเกาเหลา อึ้งโผรายชื่อ “ฝูงเหลือบทาสไข่แม้ว” โผล่กว่าครึ่ง ขณะที่ สภาหอการค้าฯ ชี้ การปรับ ครม.ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะรัฐบาลตัวแทนระบอบทักษิณ แค่หมุนเวียนเก้าอี้ดนตรี แบ่งเชยชมอำนาจการเมือง
วันนี้ (18 พ.ย.) นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ 17 คน ทำหน้าที่ช่วยการทำงานของ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุด
สำหรับรายชื่อกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรวงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) นายพนัส สิมะเสถียร อดีตปลัดกระทรวงการคลัง นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุด นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายบุญยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ นายศิริ การเจริญดี อดีตรองผู้ว่าการ ธปท.และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย
นายสำราญ ภูอนันตานนท์ อดีตที่ปรึกษา รมว.คลัง นายพิษณุ เหรียญมหาสาร รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ศจ.สมพร อิศวิลานนท์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง, นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และตนเอง
นายสันติ กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิข้างต้น จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือให้ข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่างๆ ในการดำเนินงานส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการของรองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะงานด้านเศรษฐกิจของประเทศเพื่อร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาภาวะวิกฤต รวมทั้งผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า
“ประชุมวันนี้ยังได้พูดคุยถึงสถานการณ์ในภาวะปัจจุบันของเศรษฐกิจโลก รวมถึงสถานการณ์และแนวโน้มของเศรษฐกิจในอนาคตว่ามีอุปสรรค อย่างไรบ้าง มีการคุยถึงเรื่องสภาพคล่องภายในประเทศว่ามีเพียงพอหรือไม่ สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้ภาคเอสเอ็มอี หลังจากที่ธนาคารได้มีความเข้มงวดและระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น”
ทั้งนี้ คาดว่า รองนายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด 17 คน โดยมีความถี่ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และประเมินผลของ 6 มาตรการ ประชานิยม
**สภาหอการค้าฯ เย้ยปรับ ครม.แค่เก้าอี้ดนตรี
นายชัยนันท์ อุโฆษกุล ประธานอนุกรรมการการค้าระหว่างประเทศสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ได้ทำให้ภาคเอกชนมั่นใจได้ว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และความขัดแย้งใน ครม.จะดีขึ้น เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะนำคนนอกเข้ามาเสริมการทำงาน แต่จะเป็นการสับเปลี่ยน-โยกย้ายกระทรวง ซึ่งสุดท้ายความขัดแย้งก็ยังคงอยู่
นอกจากนี้ นายชัยนันท์ ยังกล่าวด้วยว่าจากการทำหน้าที่ที่ผ่านมา เห็นว่า รัฐบาลยังไม่สามารถนำมาตรการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่มีอยู่มาดำเนินการในทางปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมได้