“มัชฌิมา” เตะถ่วงยื้อขยายเวลาสอบเพิ่มยุบพรรค อ้างพรรคแตกแยกสู้ ยันการกระทำผิดของ สุนทร วิลาวัลย์ เป็นเรื่องส่วนตัว ด้าน พรรคชาติไทย ถือฤกษ์วันเกิดพรรคสู้ ด้าน อสส.ย้ำสำนวนฟ้องให้ยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค
วันนี้ (18 พ.ย.) นายฉัตรชัย ชูแก้ว ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ฝ่ายกฎหมาย พรรคมัชฌิมาธิปไตย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการยื่นต่อสู้สำนวนคดีการยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่จะครบกำหนด 15 วันตามที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 19 พ.ย.ว่า ทางพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอขยายเวลาการส่งเอกสารคำร้องคัดค้านกรณียุบพรรค ต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 15 วัน เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะให้ขยายเวลาออกไปหรือไม่ หากศาลไม่ให้ขยายเวลาออกไป พรรคก็พร้อมที่จะส่งเอกสารคำแก้ข้อกล่าวหาเท่าที่มี ขณะนี้มีความหนากว่า 40 หน้า โดยเนื้อหาหลักเป็นการยืนยันการกระทำผิดของ นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตกรรมการบริหารพรรค โดยเป็นความผิดส่วนตัว และกรรมการบริหารพรรคคนอื่นไม่รู้เห็นด้วย อีกทั้ง ทาง กกต. ไม่ได้มีหนังสือแจ้งมาให้พรรคทราบก่อน ว่า มีกรรมการบริหารของพรรคไปกระทำผิดจนโดนใบแดง นอกจากนี้ จะรวบรวมข่าวที่สื่อมวลชนเคยนำเสนอถึงกรณีความขัดแย้งของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคตั้งแต่ก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบัน ที่ไม่มีความสามัคคีต่างคนต่างอยู่ มาเป็นข้อต่อสู้
ด้าน นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า คณะทำงานต่อสู้คดี จะถือฤกษ์วันเกิดพรรคชาติไทย (ชท.) ที่ก่อตั้งครบ 34 ปี เข้ายื่นข้อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากขณะนี้คณะทำงานได้จัดทำคำชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการขอขยายเวลาออกไปอีก โดยเป็นเอกสารข้อมูลจำนวนหลายแฟ้ม แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดข้อต่อสู้ซึ่งพรรคมั่นใจในข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์ของพรรค เพราะเราเชื่อมั่นว่า ผู้สมัครที่เป็นกรรมการบริหารพรรคไม่ได้มีส่วนรู้เห็น และไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งนี้ คณะทำงานจะทำบุญที่พรรคในช่วงเช้าก่อน และจะเดินทางไปยื่นเอกสารที่ศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่าย
นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หนึ่งในคณะทำงานรับผิดชอบคดียุบพรรคการเมือง เปิดเผยว่า หลังจากที่อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง อันประกอบด้วย พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคพลังประชาชน ไปแล้ว และทราบมาว่า ทั้ง 3 พรรคการเมืองได้ขอขยายเวลาในการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก โดยขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้แจ้งมายัง อสส.เพื่อนัดตรวจพยานหรือดำเนินกระบวนการไต่สวน ซึ่งคงต้องรอให้การยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของทั้ง 3 พรรคเรียบร้อยก่อน ทั้งนี้ อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้ นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินคดีในศาล ซึ่งศาลก็อนุญาตให้ตามคำขอ และตอนนี้คณะทำงานก็ได้เตรียมหารือในเรื่องพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
เมื่อถามว่า อัยการสูงสุดได้ระบุในท้ายคำร้องขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดหรือตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิดเท่านั้นใช่หรือไม่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า อัยการสูงสุดได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบทั้ง 3 พรรค และขอให้มีการเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค 5 ปี แต่ทั้งนี้ ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรคคนใดบ้าง ซึ่งก็ให้เป็นดุลพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง ว่า กรรมการบริหารคนไหนมีส่วนรู้เห็นบ้าง