สันติบาลเกิดภาวะสุญญากาศทำงานด้านการข่าวม็อบเสนอนาย ทำให้ “พัชรวาท” หงุดหงิด ขณะที่ “สุรพล” ปฏิเสธไม่เคยสกัดกั้นคนหนุนพันธมิตรฯเข้ากรุงร่วมชุมนุม อ้างตั้งด่านรอบเกาะรัตนโกสินทร์ทำเพื่อตรวจค้นอาวุธไม่ให้หลุดในพื้นที่การชุมนุมเท่านั้น
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งด่วนที่สุดถึง บช.น.บช.ก. บช.ส.ตชด.ภ.1-9 เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.โดยให้แบ่งงานเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1.ขั้นเตรียมการ บช.ส.ให้วางแผนรวบรวมข่าวสาร การสืบสวนหาข่าว และรวบรวมข่าวสารเพื่อให้ทันสถานการณ์เพื่อให้แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ส่วน บช.น.ภ.1-9 และ ภ.จว.ทุกจังหวัด ให้ประสานผู้ว่าฯ กทม. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อทราบปัญหา ชี้แจงทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งให้ชี้แจงทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ และให้เตรียมกำลังสนับสนุนการแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง สำหรับ บช.ก.บช.ตชด.ให้เตรียมกำลังสนับสนุนในแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง และพร้อมรับคำสั่ง และให้ทุกหน่วยในตร.สนับสนุนในการปฏิบัติการด้านการข่าวชุมนุมเรียกร้องประสาน ผบช.ส.อย่างใกล้ชิด
ขั้นที่ 2 ขั้นเผชิญเหตุ ขณะเกิดเหตุ บช.น.ภ.1-9 และ ภ.จว.ทุกจังหวัด ให้สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมนุม ดำเนินการสกัดกั้น หน่วงเวลาผู้ชุมนุมด้วยความละมุนละม่อมภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้พยายามชี้แจงความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม ดำเนินการแก้ไขมาตรการเบื้องต้นไปสู่เข้มข้นขึ้นตามลำดับ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการโทษความปลอดภัยแก่กลุ่มชุมนุม ส่วนบช.ก.ให้หน่วยในสังกัด ประสานกับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ สนับสนุนมาตรการสกัดกั้นหน่วงเวลาผู้ชุมนุมเรียกร้อง
ขั้นที่ 3 ขั้นอำนวยการให้ประจำ ตร.ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.(มค1) เป็นผู้รับผิดชอบควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติในภาพรวม ให้ ผบช.น.และ ผบช.ภ.1-9 หรือรอง ผบช.ที่รับมอบหมายอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบในงานส่วนความมั่นคง เป็น ผบช.เหตุการณ์ในพื้นที่ด้วยตนเอง ให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยประชุมซักซ้อมการปฏิบัติให้มีความเข้าใจความพร้อมในการดำเนินการ และ 4.ขั้นรายงาน กรณีมีเหตุการณ์สำคัญหรือเร่งด่วนให้รายงาน ตร.ผ่าน ศปก.ตร.โดยด่วนที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกองบัญชาการสันติบาลซึ่งดูแลด้านการข่าวแทบไม่ได้ทำรายงานความเคลื่อนไหวด้านการข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมมาเสนอผู้บังคับบัญชา ซึ่งแม้จะมีบ้างแต่ก็เป็นข่าวประจำวัน ไม่มีข่าวเชิงลึก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส.ได้ลาพักร้อนตั้งแต่วันที่ 26-30 พ.ค.ส่วนระดับรอง ผบช.ส.ซึ่งมี 3 คน ลาพักไป 1 คน อีก 1 คน มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการภาคใต้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ มีรายงานชื่อผ่าน ก.ตร.ย้ายไปอยู่ จเรตำรวจ (สบ 8) ส่วน พล.ต.ต.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส.ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผบช.สตม.และ พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.ส.ก็ถูกย้ายไปประจำ สง.ผบ.ตร.ทำบรรยากาศในกองบัญชาการสันติบาลเกิดภาวะสุญญากาศในการทำงานด้านการข่าวซึ่งก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาวะดังกล่าวสร้างความหงุดหงิดให้ รรท.ผบ.ตร.ซึ่งในเร็วๆ นี้ อาจมีคำสั่งรักษาราชการออกมาเพราะปัญหานี้เกิดขึ้นกับหลายหน่วยงาน
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.ในฐานะรองโฆษกตร.กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดตามจังหวัดรอบ กทม.เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการขนคนมาร่วมชุมนุมว่า ตร.ไม่มีนโยบายเรื่องนี้ไม่มีการสั่งการเรื่องการสกัดกั้นคนมาชุมนุมแต่อย่างใด แต่มองว่าการตั้งด่านตามจังหวัดต่างๆ เป็นวิธีการของตำรวจท้องที่ในการตรวจสอบคนเพื่อเป็นข้อมูลด้านการข่าวเพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวว่ามีคนกลุ่มไหนจากที่ไหนมาร่วมชุนนุมบ้างก็เท่านั้นแต่ไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้คนมาชุมนุมเพราะเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนการตั้งด่านเพื่อสกัดกั้นรอบเกาะรัตนโกสินทร์ก็เพื่อตรวจค้นอาวุธไม่ให้นำเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมเท่านั้น
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งด่วนที่สุดถึง บช.น.บช.ก. บช.ส.ตชด.ภ.1-9 เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.โดยให้แบ่งงานเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1.ขั้นเตรียมการ บช.ส.ให้วางแผนรวบรวมข่าวสาร การสืบสวนหาข่าว และรวบรวมข่าวสารเพื่อให้ทันสถานการณ์เพื่อให้แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ส่วน บช.น.ภ.1-9 และ ภ.จว.ทุกจังหวัด ให้ประสานผู้ว่าฯ กทม. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อทราบปัญหา ชี้แจงทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งให้ชี้แจงทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ และให้เตรียมกำลังสนับสนุนการแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง สำหรับ บช.ก.บช.ตชด.ให้เตรียมกำลังสนับสนุนในแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง และพร้อมรับคำสั่ง และให้ทุกหน่วยในตร.สนับสนุนในการปฏิบัติการด้านการข่าวชุมนุมเรียกร้องประสาน ผบช.ส.อย่างใกล้ชิด
ขั้นที่ 2 ขั้นเผชิญเหตุ ขณะเกิดเหตุ บช.น.ภ.1-9 และ ภ.จว.ทุกจังหวัด ให้สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมนุม ดำเนินการสกัดกั้น หน่วงเวลาผู้ชุมนุมด้วยความละมุนละม่อมภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้พยายามชี้แจงความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม ดำเนินการแก้ไขมาตรการเบื้องต้นไปสู่เข้มข้นขึ้นตามลำดับ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการโทษความปลอดภัยแก่กลุ่มชุมนุม ส่วนบช.ก.ให้หน่วยในสังกัด ประสานกับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ สนับสนุนมาตรการสกัดกั้นหน่วงเวลาผู้ชุมนุมเรียกร้อง
ขั้นที่ 3 ขั้นอำนวยการให้ประจำ ตร.ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.(มค1) เป็นผู้รับผิดชอบควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติในภาพรวม ให้ ผบช.น.และ ผบช.ภ.1-9 หรือรอง ผบช.ที่รับมอบหมายอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบในงานส่วนความมั่นคง เป็น ผบช.เหตุการณ์ในพื้นที่ด้วยตนเอง ให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยประชุมซักซ้อมการปฏิบัติให้มีความเข้าใจความพร้อมในการดำเนินการ และ 4.ขั้นรายงาน กรณีมีเหตุการณ์สำคัญหรือเร่งด่วนให้รายงาน ตร.ผ่าน ศปก.ตร.โดยด่วนที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกองบัญชาการสันติบาลซึ่งดูแลด้านการข่าวแทบไม่ได้ทำรายงานความเคลื่อนไหวด้านการข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมมาเสนอผู้บังคับบัญชา ซึ่งแม้จะมีบ้างแต่ก็เป็นข่าวประจำวัน ไม่มีข่าวเชิงลึก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส.ได้ลาพักร้อนตั้งแต่วันที่ 26-30 พ.ค.ส่วนระดับรอง ผบช.ส.ซึ่งมี 3 คน ลาพักไป 1 คน อีก 1 คน มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการภาคใต้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ มีรายงานชื่อผ่าน ก.ตร.ย้ายไปอยู่ จเรตำรวจ (สบ 8) ส่วน พล.ต.ต.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส.ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผบช.สตม.และ พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.ส.ก็ถูกย้ายไปประจำ สง.ผบ.ตร.ทำบรรยากาศในกองบัญชาการสันติบาลเกิดภาวะสุญญากาศในการทำงานด้านการข่าวซึ่งก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาวะดังกล่าวสร้างความหงุดหงิดให้ รรท.ผบ.ตร.ซึ่งในเร็วๆ นี้ อาจมีคำสั่งรักษาราชการออกมาเพราะปัญหานี้เกิดขึ้นกับหลายหน่วยงาน
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.ในฐานะรองโฆษกตร.กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดตามจังหวัดรอบ กทม.เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการขนคนมาร่วมชุมนุมว่า ตร.ไม่มีนโยบายเรื่องนี้ไม่มีการสั่งการเรื่องการสกัดกั้นคนมาชุมนุมแต่อย่างใด แต่มองว่าการตั้งด่านตามจังหวัดต่างๆ เป็นวิธีการของตำรวจท้องที่ในการตรวจสอบคนเพื่อเป็นข้อมูลด้านการข่าวเพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวว่ามีคนกลุ่มไหนจากที่ไหนมาร่วมชุนนุมบ้างก็เท่านั้นแต่ไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้คนมาชุมนุมเพราะเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนการตั้งด่านเพื่อสกัดกั้นรอบเกาะรัตนโกสินทร์ก็เพื่อตรวจค้นอาวุธไม่ให้นำเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมเท่านั้น