คณะกรรมการพิจารณาจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ใกล้ได้ข้อยุติกำหนดมาตรฐานแก้ปัญหาทุจริต ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุม กกต. ยอมรับมีแนวคิดใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์มาใช้กับการเลือกตั้ง
วันนี้ (16 พ.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพัฒนารายละเอียดในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีคนนอกทั้งอาจารย์ระดับมาหวิทยาลัย ทั้งในส่วนสมาคมการพิมพ์แห่งประเทศไทย และตัวแทนจากโรงพิมพ์มหาวิทยาลัยของสุโขทัยธรรมาธิราช ที่มีความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการพิมพ์ ก็ได้มีการระดมความคิดเห็นในส่วนของปัญหาการพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งเห็นตรงกันว่ามาตรฐานในการกำหนดเรื่องของความปลอดภัยในเรื่องของการปลอมแปลงนั้นต้องคงไว้เหมือนเดิม และควรที่จะให้อยู่ในระดับกลาง และหลายโรงพิมพ์ทำได้ เพื่อเปิดทางให้กับบริษัทที่พอมีศักยภาพได้เข้ามาร่วมประกวดราคาแข่งขันด้วย ทั้งภาครัฐและเอกชน ตนเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องของบัตรเลือกตั้งอีกแล้ว ทั้งนี้คณะทำงานชุดนี้ยังเหลือการประชุมอีก 1 ครั้งก่อนที่จะนำเสนอเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อให้การเห็นชอบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากกต.จะเห็นชอบกับแนวทางในการที่จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในเรื่องของการพิมพ์ วิธีการและรูปแบบ ตามคณะกรรมการชุดจัดทำนี้หรือไม่
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนมองระบบแบบจีทูจี (รัฐต่อรัฐ) เป็นวิธีที่น่าจะดี เพราะจะมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเหมือนอย่างที่ผ่านมา ซึ่งตนก็คิดว่า กกต.ก็น่าจะเห็นด้วยกับวิธีนี้ แต่ก็อาจจะมีคนมองว่าถ้าให้รัฐทำก็จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายรัฐบาล ทำให้ถูกล่าวหาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งอีก แต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด ทั้งที่ใจจริงแล้วตนอยากใช้เครื่องอิเล็คทอรนิคมาใช้กับการเลือกตั้ง เพราะจะได้ประหยัดทั้งงบประมาณ ไม่มีปัญหาเรื่องการขนหีบบัตรเลือกตั้ง ทราบผลคะแนนเร็ว
“ถ้าผมเสนอไปตอนนี้รับรอง กกต.ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน เพราะว่าสถานการณ์บ้านเมืองเรายังไม่เชื่อใจกันและกัน กกต.เองก็ต้องใช้เวลาในการสร้างกู้ศรัทธาคืนมา ที่ผ่านมา เราก็พยายามกู้ศรัทธา แต่มันมีประเด็นทางการเมืองที่พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของเรา นอกจากนี้ตนมองว่า ในบางครั้งนักการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคน เขาคุ้นเคยกับระบบการโกงโดยใช้บัตรเลือกตั้ง มันมีกลยุทธในการโกงการเลือกตั้งโดยวิธีแบบเก่า” นายสุทธิพล กล่าว
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนมีความคิดว่าถ้าเราจะแก้เราต้องมีการพัฒนาเรื่องของวิธีการจัดการเลือกตั้งแบบใหม่ และมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่เขาจะโกงนั้นกว่าจะโกงได้ก็ต้องใช้เวลาบ้างในการโกง ขณะนี้คัมภีร์ในโกงการเลือกตั้งนั้นมันสมบูรณ์แล้ว เพราะมันพัฒนาใช้ระบบเดียวกันมาหลาย 10 ปี ถ้าเรามีการพัฒนาระบบว่าเขาจะมีการปรับปรุงอะไรขึ้นมา เทคนิคในการโกงเขาต้องใช้ระยะเวลา เพราะฉะนั้น นักการเมืองหลายคนเขาไม่เห็นด้วย ถ้าใช้เครื่องมือหรือเทคนิคเข้ามาเขาต้องศึกษาแล้วต้องคิดค้นกลุยุทธ์ในการโกง ดังนั้นเขาก็ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ในสภาวะแบบนี้ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เดินหน้าในเรื่องการที่จะใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดแผนงาน ใช้ในสถานศึกษา ใครมีเลือกที่ไหนก็จะนำเครื่องนี้ไปให้ทดลองใช้ ในอนาคตก็จะให้นักการเมืองเขาเข้ามามีส่วนใช้ เช่น หากพรรคการเมืองจะเลือกกรรมการบริหารพรรค กกต.ก็ส่งเครื่องไปให้ทดลองใช้ และก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาพัฒนาระบบการลงคะแนนเลือกตั้ง ให้มีความทันสมัยและเป็นที่น่าเชื่อ โดยอาจจะเชิญให้นักการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ตนว่าไม่นานเกินรอก็อาจะมีเครื่องลงคะแนนอิเลคทรอนิคมาใช้กัน
เมื่อถามว่าจะเห็นได้ใช้ใน กกต.ชุดนี้หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ตอนนี้กฎหมายเรายังไม่เปิดช่องให้ใช้เครื่องลงคะแนน เพราะว่าจะต้องลงโดยไม่ใช้บัตร ซึ่งต้องมีการแก้กฎหมายและต้องกำหนดว่าการลงคะแนนโดยการใช้บัตรเลือกตั้งหรือโดยวิธีการอื่น ตามที่ กกต.กำหนด แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไปถึงสภาแล้วจะเห็นด้วยกับเราหรือไม่อีก อย่างไรก็ตาม ในประเทศอื่นเขาก็มีการลงคะแนนโดยใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์กัน เช่นที่ตนเคยไปที่รัสเซีย ก็ได้มีการใช้ทั้งบัตรเลือกตั้งและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เขาได้มีการกำหนดโซนเท่านั้น ซึ่งตนก็เห็นว่าในประเทศไทยก็น่าที่จะดำเนินการได้ในบางจังหวัด หรือบางโซนที่พร้อม เช่น ใน กทม.แถวสีลม อย่างนี้เป็นต้น แต่ทั้งนี้เพื่อให้ได้การยอมรับก็ต้องให้ผู้สมัครเขาเห็นชอบด้วยหากมีการดำเนินการ
วันนี้ (16 พ.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพัฒนารายละเอียดในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีคนนอกทั้งอาจารย์ระดับมาหวิทยาลัย ทั้งในส่วนสมาคมการพิมพ์แห่งประเทศไทย และตัวแทนจากโรงพิมพ์มหาวิทยาลัยของสุโขทัยธรรมาธิราช ที่มีความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการพิมพ์ ก็ได้มีการระดมความคิดเห็นในส่วนของปัญหาการพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งเห็นตรงกันว่ามาตรฐานในการกำหนดเรื่องของความปลอดภัยในเรื่องของการปลอมแปลงนั้นต้องคงไว้เหมือนเดิม และควรที่จะให้อยู่ในระดับกลาง และหลายโรงพิมพ์ทำได้ เพื่อเปิดทางให้กับบริษัทที่พอมีศักยภาพได้เข้ามาร่วมประกวดราคาแข่งขันด้วย ทั้งภาครัฐและเอกชน ตนเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องของบัตรเลือกตั้งอีกแล้ว ทั้งนี้คณะทำงานชุดนี้ยังเหลือการประชุมอีก 1 ครั้งก่อนที่จะนำเสนอเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อให้การเห็นชอบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากกต.จะเห็นชอบกับแนวทางในการที่จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในเรื่องของการพิมพ์ วิธีการและรูปแบบ ตามคณะกรรมการชุดจัดทำนี้หรือไม่
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนมองระบบแบบจีทูจี (รัฐต่อรัฐ) เป็นวิธีที่น่าจะดี เพราะจะมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเหมือนอย่างที่ผ่านมา ซึ่งตนก็คิดว่า กกต.ก็น่าจะเห็นด้วยกับวิธีนี้ แต่ก็อาจจะมีคนมองว่าถ้าให้รัฐทำก็จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายรัฐบาล ทำให้ถูกล่าวหาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งอีก แต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด ทั้งที่ใจจริงแล้วตนอยากใช้เครื่องอิเล็คทอรนิคมาใช้กับการเลือกตั้ง เพราะจะได้ประหยัดทั้งงบประมาณ ไม่มีปัญหาเรื่องการขนหีบบัตรเลือกตั้ง ทราบผลคะแนนเร็ว
“ถ้าผมเสนอไปตอนนี้รับรอง กกต.ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน เพราะว่าสถานการณ์บ้านเมืองเรายังไม่เชื่อใจกันและกัน กกต.เองก็ต้องใช้เวลาในการสร้างกู้ศรัทธาคืนมา ที่ผ่านมา เราก็พยายามกู้ศรัทธา แต่มันมีประเด็นทางการเมืองที่พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของเรา นอกจากนี้ตนมองว่า ในบางครั้งนักการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคน เขาคุ้นเคยกับระบบการโกงโดยใช้บัตรเลือกตั้ง มันมีกลยุทธในการโกงการเลือกตั้งโดยวิธีแบบเก่า” นายสุทธิพล กล่าว
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนมีความคิดว่าถ้าเราจะแก้เราต้องมีการพัฒนาเรื่องของวิธีการจัดการเลือกตั้งแบบใหม่ และมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่เขาจะโกงนั้นกว่าจะโกงได้ก็ต้องใช้เวลาบ้างในการโกง ขณะนี้คัมภีร์ในโกงการเลือกตั้งนั้นมันสมบูรณ์แล้ว เพราะมันพัฒนาใช้ระบบเดียวกันมาหลาย 10 ปี ถ้าเรามีการพัฒนาระบบว่าเขาจะมีการปรับปรุงอะไรขึ้นมา เทคนิคในการโกงเขาต้องใช้ระยะเวลา เพราะฉะนั้น นักการเมืองหลายคนเขาไม่เห็นด้วย ถ้าใช้เครื่องมือหรือเทคนิคเข้ามาเขาต้องศึกษาแล้วต้องคิดค้นกลุยุทธ์ในการโกง ดังนั้นเขาก็ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ในสภาวะแบบนี้ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เดินหน้าในเรื่องการที่จะใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดแผนงาน ใช้ในสถานศึกษา ใครมีเลือกที่ไหนก็จะนำเครื่องนี้ไปให้ทดลองใช้ ในอนาคตก็จะให้นักการเมืองเขาเข้ามามีส่วนใช้ เช่น หากพรรคการเมืองจะเลือกกรรมการบริหารพรรค กกต.ก็ส่งเครื่องไปให้ทดลองใช้ และก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาพัฒนาระบบการลงคะแนนเลือกตั้ง ให้มีความทันสมัยและเป็นที่น่าเชื่อ โดยอาจจะเชิญให้นักการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ตนว่าไม่นานเกินรอก็อาจะมีเครื่องลงคะแนนอิเลคทรอนิคมาใช้กัน
เมื่อถามว่าจะเห็นได้ใช้ใน กกต.ชุดนี้หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ตอนนี้กฎหมายเรายังไม่เปิดช่องให้ใช้เครื่องลงคะแนน เพราะว่าจะต้องลงโดยไม่ใช้บัตร ซึ่งต้องมีการแก้กฎหมายและต้องกำหนดว่าการลงคะแนนโดยการใช้บัตรเลือกตั้งหรือโดยวิธีการอื่น ตามที่ กกต.กำหนด แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไปถึงสภาแล้วจะเห็นด้วยกับเราหรือไม่อีก อย่างไรก็ตาม ในประเทศอื่นเขาก็มีการลงคะแนนโดยใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์กัน เช่นที่ตนเคยไปที่รัสเซีย ก็ได้มีการใช้ทั้งบัตรเลือกตั้งและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เขาได้มีการกำหนดโซนเท่านั้น ซึ่งตนก็เห็นว่าในประเทศไทยก็น่าที่จะดำเนินการได้ในบางจังหวัด หรือบางโซนที่พร้อม เช่น ใน กทม.แถวสีลม อย่างนี้เป็นต้น แต่ทั้งนี้เพื่อให้ได้การยอมรับก็ต้องให้ผู้สมัครเขาเห็นชอบด้วยหากมีการดำเนินการ