แกนนำพันธมิตรฯ เชื่อความพยายามดันทุรังตั้ง “รัฐบาลแม้วพลัดถิ่น” ไม่ประสบความสำเร็จเพราะขาดความชอบธรรม หลังตกเป็นนักโทษในคดีทุจริต และศาลฎีกาสั่งจำคุก ด้าน “จำลอง” ชื่นชม “อภิรักษ์” แสดงสปิริตสร้างบรรทัดฐานการเมืองใหม่
วันนี้ (13 พ.ย.)
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ห้องผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล พล.ต. จำลอง ศรีเมือง และนาย พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวโดย นายพิภพ กล่าวถึงกรณีการเปิดถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการช่วยกันเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขว้าง เพื่อร่วมกันส่งเสด็จสู่สวรรค์คาลัยในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงราชนครินทร์ พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า พันธมิตรฯจะทำการเปิดเส้นทางบริเวณถนนราชดำเนินนอกตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. จนถึงวันที่ 5 ธ.ค. หลังจากนั้นก็จะปิดเส้นทางดังกล่าวเช่นเดิม
นอกจากนี้นายพิภพ ยังกล่าวถึงการจัดงานเพื่อไว้อาลัยให้กับสมเด็จพระพี่นางฯว่าจะจัดขึ้นในที่ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 14 -19 พ.ย.โดยให้ผู้ร่วมชุมนุมแต่งชุดดำหรือขาว มาร่วมงานทั้งนี้ยังมีการถ่ายทอดสดในงานพระราชพิธีเป็นระยะๆ นอกจากนี้ยังจะมีข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระพี่นางฯ มาเปิดเผยเรื่องราวของพระองค์ท่านที่ประชาชนไม่เคยรับรู้บนเวทีปราศรัย และจะร่วมรณรงค์โครงการ “มนุษย์สะอาด” กับผู้ชุมนุมของพันธมิตรฯ อีกด้วย
ด้านพล.ต. จำลอง กล่าวเสริมว่า ในวันดังกล่าวจะไม่มีการกล่าวถึงเรื่องการเมืองบนเวทีปราศรัย แต่จะร่วมทำกิจกรรมเหมือนที่เคยทำมาในงานสำคัญ ๆ ต่างๆ
ส่วนกรณีที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ลาออกจากการเป็นผู้ว่า กทม. นายพิภพ เห็นว่า เป็นการแสดงสปิริต ทางการเมืองหลังจากที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด รวมทั้งเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของนักการเมืองไทยในอนคต ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการเมืองใหม่ของพันธิมตรฯ เพราะที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมของไทยมักทำงานภายใต้ความกดดันของนักการเมืองมาตลอด ดังนั้นกรณีของนายอภิรักษ์ จึงถือเป็นแบบอย่างให้แก่นักการเมืองที่มีคดีติดตัวทำตาม
เมื่อถามว่าพันธมิตรฯได้ประเมินสถานการณ์หลังจากนี้อย่างไร เพราะว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้พยายามหาช่องทางเพื่อที่จะเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 พ.ย. นายพิภพ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะเป็นนักโทษคงมีการเคลื่อนไหวต่อไป เพราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรับความผิดที่ศาลตัดสิน แต่ใช้วิธีทางการเมือง เพื่อที่จะให้ตัวเองออกห่างจากคำตัดสินของศาล รวมทั้ง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับหน้าที่ของคนไทย และพันธมิตร จะต้องยืนยันในเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ที่ประเทศบาฮามาส พันธมิตรฯมองอย่างไร นายพิภพ กล่าวว่า เรื่องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ตอนนี้เป็นเพียงข่าวเท่านั้น แต่คงไม่สามารถจัดตั้งขึ้นได้ เพราะกฏหมายระหว่างประเทศ ระบุว่าการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้ก็ต่อเมื่อ การบริหารประเทศจะต้องสูญเสียสถานะการปกครองประเทศ ทั้งที่ได้บริหารประเทศอย่างชอบธรรมแล้ว แต่ในส่วนของพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ใช่ เพราะทักษิณ เป็นนักโทษหนีคดี แม้กระทั้งประเทศอังกฤษเอง ก็ได้ยกเลิกของวีซ่า พ.ต.ท. ทักษิณ เพราะประเทศอังกฤษเห็นว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นนักโทษหนีคดี ทั้งที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 2 แล้ว ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศจะต้องคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้
ถามต่อว่ามองว่าการต่อสู้ของ พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างไรในขณะที่อยู่ในสถานการณ์โลกกว้างทางแคบเช่นนี้ นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่วิตกังวล ในการเคลื่อนไหว พ.ต.ท. ทักษิณ เพราะการะบวนการยุติธรรมก็ยังคงทำงานอยู่ แม้พ.ต.ท. ทักษิณ จะพยายามใช้กระบวนทางการเมืองต่อสู่เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งเป็นการต่อสู่ที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม แม้จะพยายามจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นก็คงเกิดไม่ได้ เพราะพันธมิตรฯเชื่อมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุกยังมั่นคงอยู่
เมื่อถามว่า พันธมิตรฯได้ประเมินสถานการณ์ในขณะนี้อย่างไรหลังจากที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นระยะๆ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่เคยวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องควบคุมดูแลไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น ทางพันธมิตรฯทำได้เพียงป้องกันผู้ชุมนุมที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมเท่านั้น แต่เหตุการณ์ความรุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้ มันเป็นเพียงการคาดคะเนของหลายๆ ท่านที่ออกมาพูด ส่วนหลังงานพระราชพิธีฯจากที่มีหลายฝ่ายออกมาประเมินว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทางพันธมิตรฯพยายามปรับปรุงมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเรื่อยๆ เพราะในช่วงนี้อาจจะมี ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาฉกฉวยใช้ความรุนแรงได้ ซึ่งทางพันธมิตรฯก็พร้อมที่จะป้องกันอยู่ตลอดเวลา