xs
xsm
sm
md
lg

“พระพยอม” ยืนยัน ยกวัดสวนแก้วให้จัดรายการ “ความเท็จวันนี้”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
ผู้จัดการออนไลน์ – พระพยอม กัลยาโณ ยืนยันผ่านบทความ นสพ.โลกวันนี้ เปิดทางให้จัด รายการความจริงวันนี้สัญจร ณ วัดสวนแก้ว 23 พ.ย.ระบุ คณะสามเกลอ NBT มีวุฒิภาวะ และคงไม่พูดอะไรให้วัดต้องพัง ยืนยันเปิดวัดให้ใช้ได้ทุกกลุ่มแม้แต่พันธมิตรฯ

จากกรณีที่วานนี้ (10 พ.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพิธีกรรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้เปิดเผยถึงการเตรียมจัดรายการ “ความจริงวันนี้สัญจร” ครั้งที่ 3 ในวันที่ 23 พ.ย.ว่า ทางทีมงานได้หารือกับพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ไว้แล้วว่าจะขอใช้สถานที่ในการจัดรายการครั้งต่อไป

ล่าสุด วันนี้ (11 พ.ย.) พระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ) ได้เขียนบทความเรื่อง “ยกวัดสวนแก้วให้ ความจริงวันนี้สัญจร” ยืนยันถึงเรื่องดังกล่าวผ่าน คอลัมน์สำนัก (ข่าว) พระพยอม ในหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังนี้

วัตถุประสงค์ที่อนุญาตให้รายการความจริงวันนี้ มาเปิดสัญจรที่วัดสวนแก้วนั้น ก็มีเหตุผล อย่างน้อยวัดเองได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ในการให้ความรู้ และวัดสวนแก้วก็ทำอย่างนี้มานับไม่ถ้วน แล้วมันจะแปลกว่าเวทีอื่นตรงไหน

เรื่องการออกมาคัดค้านวิพากษ์วิจารณ์ที่จะให้รายการ “ความจริงวันนี้สัญจร” มาจัดกันที่วัดสวนแก้ว นอกจากวิพากษ์วิจารณ์แล้วยังมีการขู่ระเบิดวัดก็มี หรือจะไปฟ้องพระผู้หลักผู้ใหญ่ก็มี จะไปฟ้องสำนักพระพุทธศาสนาฯก็มี หรือจะไปฟ้องมหาเถรสมาคมก็ตาม มีหมด อันเป็นการพยายามที่จะยับยั้งไม่ให้วัดสวนแก้วจัด ซึ่งการห้ามในลักษณะอย่างนี้ก็เคยเกิดขึ้นมานมนานกาเลแล้ว

อาตมาคงจะไปห้ามความรู้สึกของคนที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ต่อกรณีอย่างนี้ไม่ได้ คนที่เห็นด้วยเขาก็เชียร์อยากให้จัด และก็จะมากัน จนอาตมาวิตกกลัวว่าจะมากันมากจนที่ไม่พอเพราะมีจำกัด และใครที่จะมาอาตมาก็ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า อย่ามาแบบมีทั้งมือตบ หรือเท้าตบ ให้มาแต่ตัวและหัวใจที่อยากจะรับฟัง โดยที่มีวัดเป็นแหล่งเป็นสถานที่ใช้สำหรับให้ประโยชน์ทางปัญญาตามความมุ่งหวังของอาตมา

ถ้าถามอาตมาว่า การเปิดเวที “ความจริงวันนี้สัญจร” ที่วัดสวนแก้วนั้น มีวัตถุประสงค์อะไรถึงกับกล้าให้มาจัดกันในวัด เรื่องนี้หากใครรู้ปูมหลังของวัดสวนแก้วแล้วคงเข้าใจ เพราะว่าวัดสวนแก้วนี้ได้เปิดเวทีให้ทั้งนักวิชาการ นักการเมือง นักปกครอง นักร้อง-ดารา นักธุรกิจ นักบวช มาจัดเสวนา และอีกหลายต่อหลายนักมาจัดกันไม่รู้ว่าตั้งกี่ครั้งกี่หน และถือว่าเป็นงานที่เสริมปัญญาให้กับผู้ที่มาฟัง วัดสวนแก้วไม่เคยห้าม นักการเมือง นักวิชาการ หรือนักอะไรต่อนักอะไรที่จะเข้ามาจัดงานเสวนาทางวิชาการ ใครอยากจะพูดอะไรก็มาได้ อาตมาขอห้ามอย่างเดียว คือ พวก “โคโยตี้” ห้ามเข้ามาเต้นในวัดเด็ดขาด เพราะพวกนี้เป็นพวกที่ยั่วยวนกิเลสตัณหา

แต่สำหรับนักการเมือง พวกเรานั้นไปติดในเรื่องสมมติ เพราะเห็นว่าเขาเป็นนักการเมือง พูดการเมืองต้องพูดนอกวัด อาตมาถามหน่อย ใครเป็นผู้กำหนดไว้ว่านักการเมืองกลุ่มนั้นหรือกลุ่มนี้ห้ามเข้าวัด หรือว่าม็อบกลุ่มนั้นกลุ่มนี้เข้าวัดไม่ได้ แต่สำหรับอาตมาถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ใครจะเข้าวัด เพราะวัตถุประสงค์ที่สร้างวัดก็เพื่อให้คนได้เข้าวัด ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นโจร เป็นขโมย เป็นนักโทษ หากว่าเข้ามาแล้วมาศึกษาพระธรรม ศึกษาธรรมะ ก็เป็นอันสมควรยิ่ง พวกเราเคยเห็นการนิมนต์พระไปเทศน์ให้นักโทษฟังบ้างหรือไม่ นั่นเขาก็ยังต้องให้พระไปช่วยสอนช่วยกล่อมเกลา แล้วทำไมนักการเมืองเข้ามาที่วัดเราจึงจะรับไว้ไม่ได้ นักการเมืองก็ใช่ว่าจะเลวร้ายอะไรนักหนา

นักการเมืองอย่าง คุณวีระ มุสิกพงศ์, คุณจตุพร พรหมพันธุ์, คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, คุณก่อแก้ว พิกุลทอง คนพวกนี้เขามีวุฒิภาวะที่จะไม่พูดอะไรที่ทำให้วัดต้องพังพินาศ หากว่าเขาพูดอะไรที่ส่อว่าจะพินาศ อาตมาเองมีคัตเอาต์อยู่ในมือ จะสั่งตัดไฟทันที คงไม่ปล่อยให้พูดอะไรที่จะทำให้เกิดเป็นความไม่ดี มันก็จบเรื่อง วัดต้องคุมเกมได้ และคงไม่ปล่อยให้มาพูดอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหาย อาตมามีความเชื่อว่าคนพวกนี้คงไม่พูดจาฆ่าตัวเอง โดยการมาพูดแล้วทำให้เกิดเป็นความเสื่อมเสียแก่วัด และเสียหายแก่ตัวเอง

เป็นธรรมชาติของคนที่เคยฝึกเคี่ยวในการพูดอย่างมากมายจะมาตายเอาตอนนี้ได้อย่างไร อนาคตเขาก็ต้องมี เขาคงต้องห่วงอนาคตของเขา เพราะฉะนั้นเราเองคงต้องมองวัตถุประสงค์ของวัดด้วยว่า วัดถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไรบ้าง ประการสำคัญก็คือ สร้างมาเพื่อให้คนเข้ามาหาความรู้

การจัดงานในครั้งนี้หากมีคนเข้ามาร่วมงานสัก 30,000 คน หรือเอาแค่ 10,000 คน สำหรับอาตมาก็คงไม่มีปัญญาที่จะสามารถทำให้คนเข้าวัดได้มากขนาดนั้น จะให้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ใช้เงินเป็นหมื่นเป็นแสนบาท ก็ทำให้คนเข้าวัดมากอย่างนั้นไม่ได้ แต่ถ้าองค์กรใดกลุ่มใดจัดคนเข้าวัดได้ 10,000-20,000 คน อาตมาว่าน่าจะเป็นโอกาสให้พระได้เทศน์ ได้สอน ได้อบรม และอาตมาก็ต้องเทศน์เตือนทั้งคนที่มาเป็นวิทยากร และคนที่มาฟังว่าเราจะพูดด้วยความสร้างสรรค์ หรือว่ามาเปิดเวทีเพื่อทำลายล้างกัน ตรงนี้แหละที่อยากจะบอกแจ้งแถลงไขว่าไม่ได้มีความรู้สึกวิตกกังวลอะไร เพราะเจตนาของวัดอยากให้วัดเป็นแหล่งให้ประโยชน์ทางปัญญา หลังเวทีนี้เสร็จไปไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ หรือว่ากลุ่มไหน จากที่ใดก็ตาม ถ้าอยากจะใช้วัดให้เป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดให้ความรู้ ให้ความจริงที่สามารถปรากฏแก่ประชาชนในประเทศไทยได้ก็เชิญมาเลย อาตมายินดีที่จะให้พื้นที่ในการจัดกิจกรรมที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคม

ถามว่า อาตมาเทศน์สอนมาตั้งนาน จะโง่คิดไม่เป็นถึงผลได้ผลเสีย บวกลบคูณหารไม่ถูกเลยหรือ ทำแล้วจะเกิดความเสียหาย จะได้รู้ว่าบวชนาน สอนนาน เทศน์นาน ยังเป็นอย่างนี้ จะได้เลิกเทศน์เสียเลยแล้วหันไปอยู่ป่าอยู่ดง เพราะโง่จัดงานให้วัดพัง เปิดกิจกรรมให้วัดเสียหาย ทำให้วัดเสื่อมศรัทธา จะอยู่ไปทำไม ก็น่าจะหยุดดีกว่าหากทำแล้วเป็นแบบนี้ ซึ่งอาจเป็นการดี เพราะเวทีนี้อาจจะพิสูจน์ได้ว่าอาตมาเริ่มโง่แล้วนะ อย่าไปเที่ยวสอนใครเขา หรือว่ายังจะสอนได้อยู่เพราะไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร

ดังนั้น จุดประสงค์ที่อาตมาทำก็เพื่อว่า 1.พิสูจน์ว่าสมองตัวเองยังใช้ได้อยู่อีกหรือไม่ 2.เพื่อที่จะรู้ว่าใครที่ไม่อยากเป็นกาวใจ ใครที่ไม่อยากเป็นคนกลาง ประเทศไทยหากาวใจไม่ได้ กี่คนๆ พัง ลองดูเผื่อวัดสวนแก้วจะมีวาสนาได้เชิญมาคุยให้ครบทุกฝ่าย เชิญทุกฝ่ายเข้ามาพูดจากันด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งก็เคยจัดอย่างนี้มามากแล้วกว่าวัดใดๆ ในประเทศ ที่ผ่านมาก็มีแต่คนชื่นชอบ

สิ่งที่อยากจะบอกอีกอย่าง คือ อาตมาก็เป็นนักประท้วง แต่ประท้วงแบบใช้สมอง เคยประท้วงกรมที่ดินโดยการสร้างอนุสาวรีย์ถุงกล้วยแขก เป็นการประท้วงแบบอหิงสาและสันติวิธี และนี่คือหลักใหญ่ที่ทำให้ประท้วงแบบใหม่เพื่อแข่งกับการเมืองใหม่ เป็นวัตถุประสงค์ที่อาตมาได้ร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และจะเปิดให้รายอื่นได้มาจัดในลักษณะนี้อีก

เจริญพร

อนึ่ง รายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ถูกสังคมวงกว้างจับตาอย่างมากถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาของการโทรศัพท์ทางไกลเข้ามาปราศรัย (โฟนอิน) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปีจากศาลฎีกา ซึ่งมีเนื้อหาหมิ่นศาล ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศ และมีการอ้างอิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ จากคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยืนยันว่าเขาจะโฟนอินเข้ามาอีกแน่นอนในการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรครั้งต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น