xs
xsm
sm
md
lg

“สามเกลอ” ตีปีกจับ “ไชยวัฒน์” จี้ ตร.ซิวทุกคนที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ - ยัดข้อหาก่อการร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการออนไลน์ – สามเกลอหัวขวด ดีใจเนื้อเต้น จับ “ไชยวัฒน์” จี้ ตร.ดำเนินคดีทุกคนที่ขึ้นเวทีทำเนียบ ยัดข้อหาเพราะทำผิดกฎหมาย-กบฎ “วีระ”กร่างไล่บี้พันธมิตรฯ ใต้ปิดสนามบิน ชี้ความผิดถึงขั้นก่อการร้าย อัด ปชป.สมคบคิดพันธมิตรฯ เห็นด้วยสภาฯ แก้ ม.291 ตั้ง ส.ส.ร.3 แต่ยังพยายามสอดไส้ ร่าง รธน.ฉบับ นปก. บี้ ส.ส.พปช.อย่าป่วนเร่ง ให้รีบรับร่าง

วานนี้ (3 ต.ค.) รายการความจริงวันนี้ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวีและหนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ รุ่น 2 (นปก.2)

ผู้ดำเนินรายการทั้งสามคนได้พูดถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ หนึ่งใน 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งได้ถูกหมายจับในข้อหากบฏ และถูกนำไปควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน คลอง 5 จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้นายวีระ และนายจตุพร ได้พยายามตอกย้ำว่า นายไชยวัฒน์และแกนนำอีก 8 คนเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น “กบฎต่อราชอาณาจักร” ซึ่งมีความผิดข้อหาใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ โดยผู้นั้นกระทำผิดฐานเป็นกบฏต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, สะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการหรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี มาตรา 114, ผู้ใดกระทำการเพื่อให้เกิดการปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิก ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 216 และ 215

ต่อมานายวีระได้กล่าวว่า ตนเห็นว่าพฤติกรรมที่พันธมิตรฯ ทำนั้นไม่เพียงเป็นกบฎ แต่ละเมิดกฎหมายมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดพระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) การรุกล้ำเข้าไปในสถานที่ราชการ เป็นต้น

“ไม่ใช่แต่เก้าคนนี้เท่านั้นที่จะต้องเป็นผู้ต้องหา ผมเชื่อมั่นว่าตำรวจคงจะได้เตรียมการ เพื่อที่จะขอหมายจับ เพื่อที่จะจับระลอกสอง หรือ ระลอกสาม เพราะว่าทุกคนที่ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล ขึ้นไปโดยรู้อยู่แล้วตัวละเมิดกฎหมายหลายบท หลายมาตราอย่างที่ว่า เพียงแต่ว่ายังไม่มีใครตั้งข้อกล่าวหาเท่านั้น เพราะฉะนั้นทุกคนเหล่านั้นก็จะต้องกลายเป็นผู้ต้องหาเช่นเดียวกัน” เจ้าของฉายาไข่มุกดำกล่าว

จากนั้นนายวีระและนายจตุพร กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งกรณีที่จะต้องรื้อขึ้นมาจัดการก็คือ กรณีที่พันธมิตรฯ ได้เข้าปิดสนามบินหลายแห่งในภาคใต้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ รัฐบาลสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม โดยระบุว่า เหตุการณ์ปิดสนามบินนั้นสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก และผู้กระทำการก็เข้าข่ายของการก่อการร้ายสากล

“ในต่างประเทศหรือในสากลเขารับไม่ได้ การปิดสนามบินนี่เป็นการก่อการร้ายระดับสากลทีเดียว เพราะฉะนั้นมันประเมินค่ามิได้เลย” นายวีระกล่าว

ทั้งนี้ทั้งนั้นพิธีกรรายการดังกล่าว ไม่ได้กล่าวถึงสาเหตุในการปิดสนามบินเลยว่า เกิดจากการที่กลุ่มพันธมิตรฯ ในภาคใต้ได้เตือนรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ก่อนแล้วว่า อย่าใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ทว่า สุดท้ายก็มีการใช้กำลังตำรวจหลายพันนาย พกอาวุธ เต็มพิกัดเข้าทำร้ายผู้ชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 ส.ค. รวมถึงวันที่ 29 ส.ค. ซึ่งตำรวจนอกจากจะทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมแล้วยังมีการยิงแก๊สน้ำตา ทุบทำลายทรัพย์สิน ขโมยเงินบริจาค ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน ขณะที่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่สั่งการ เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการถึงปัจจุบันกลับยังไม่ถูกดำเนินคดี หรือ ลงโทษเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนกรณีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เป็นแผนและความตั้งใจของนายสมัครที่จะสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ เช่นกัน โดยใช้กลุ่ม นปก.เดินบุกเข้ามาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ

พยายามโยง ปชป.

ต่อมาทั้งสามคนได้พยายามกล่าวว่า กรณีที่ก่อนนายไชยวัฒน์จะถูกจับได้แวะไปที่บ้านของ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์นั้นตอกย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ และนายไกรศักดิ์ก็น่าจะมีความผิดด้วย

“ภาพนี้มันย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พยายามที่จะปฏิเสธตลอดเวลาว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีโอกาสที่จะห้ามปรามใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันพวกเราก็มีความรู้สึกว่าพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ นั้นเป็นพวกเดียวกัน” นายวีระกล่าว พร้อมโยงไปถึงเรื่องแกนนำ และ ผู้ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ หลายคนว่าต่างก็มีความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์

ต่อมาผู้ดำเนินรายการทั้งสามคนกล่าวชื่นชมว่า เหตุการณ์ที่ตำรวจเข้าจับกุมนายไชยวัฒน์วานนี้นั้นแสดงให้เห็นว่ากฎหมายบ้านเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์

จี้ ส.ส.พปช. โหวตรับ ร่าง รธน.นปก.

ส่วนในกรณีที่วานนี้ที่ประชุม 4 ฝ่ายอันประกอบไปด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาลให้มีการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.3) ผู้ดำเนินรายการทั้งสามคนแสดงความเห็นด้วย ขณะเดียวกันก็พยายามสอดไส้ให้สภาฯ รีบลงมติรับพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ที่อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) อย่าง นพ.เหวง โตจิราการ และนายจรัล ดิษฐาอภิชัย เสนอเข้ามา ซึ่งนายชัย ในฐานะประธานสภาฯ ได้บรรจุระเบียบวาระเข้าเป็นวาระด่วน

“ผมอยากจะขอร้องท่านประชาชนทั้งหลาย และขอร้องสื่อทั้งหลายด้วยว่า ขอความกรุณาอย่าเรียกร่างพระราชบัญญัติแก้รัฐธรรมนูญของหมอเหวง ขอความกรุณา เพราะมันไม่เป็นธรรม ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มี นพ.เหวง โตจิราการ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ ครูประทีป อึ้งทรงธรรม คุณจรัล ดิษฐาอภิชัย เป็นแกนในการจัดการเท่านั้นเอง” นายวีระกล่าวพร้อมอ้างด้วยว่า จริงๆ แล้วร่างนี้มีประชาชนเสนอกว่าแสนคน และอยากให้เรียกว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ส่วนนายจตุพรได้กล่าวถึง กระแสข่าวที่ว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะตีรวนร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เสนอโดย นพ.เหวง และ นายจรัลว่า ตนขอเตือนให้ สมาชิกพรรคพลังประชาชนว่าให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนและที่ประชุม 4 ฝ่ายก็ควรเชิญ แกนนำ คปพร. อย่าง นพ.เหวง นายจรัล เข้ามาพูดคุยเป็นฝ่ายที่ 5

“แล้วสมาชิกพรรคพลังประชาชนก็จงเลิกพูดว่า ต้องคว่ำร่างของ คปพร. เพราะคุณทำร้ายจิตใจประชาชน คุณไปพูดอย่างนั้นไม่ได้เลย นี่ก็ขอเตือนผ่านรายการไป” นายจตุพรกล่าว
รายการความจริงวันนี้ 3 ต.ค. 2551
นายวีระ มุสิกพงศ์
กำลังโหลดความคิดเห็น